จัดอันดับปีกซ้ายที่ดีที่สุดตลอดกาล - RANKED
- ซน เฮือง-มิน เป็นผู้เล่นคนเดียวจากทวีป เอเชีย ที่ระเบิดฟอร์มโหดเอามาก ๆ ในตำแหน่งปีกซ้าย
- นักเตะชาว บราซิล หลายคนได้รับการยกย่องให้เป็นปีกซ้ายที่เก่งที่สุดในโลกตามแต่ละยุคสมัย
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถือเป็นปีกซ้ายที่เก่งและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แฟนบอลทั่วโลกต่างได้สัมผัสกับความยอดเยี่ยมของผู้เล่นปีกซ้ายมากหน้าหลายตาที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาเขย่าวงการฟุตบอล
โดยไม่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เล่นสายยืนชิดเส้นข้างสนาม พร้อมพุ่งทะยานถึงสุดเส้นหลัง หรือโปรดปรานการลากตัดเข้าในเพื่อยิงด้วยเท้าข้างถนัด สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือในช่วงเวลาที่ผู้เล่นเหล่านี้พีค แทบจะไม่มีกองหลังคนไหนหยุดยั้งพวกเขาได้เลย
ด้วยเหตุนี้ ทีมงานที่ 90MIN จึงรวบรวมรายชื่อปีกซ้ายที่ดีที่สุดตลอดกาล ทั้งฮีโร่จากยุคเก่าและนักเตะยอดฝีเท้าจากยุคปัจจุบัน มาให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้รับชมกัน
25. ปีต ไกเซอร์
ปีต ไกเซอร์ ใช้เวลาค้าแข้ง 13 ปีอยู่กับเพียงสโมสรเดียวคือ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นที่ที่เจ้าตัวประสบความสำเร็จและนำพาถ้วยรางวัลมากมายเข้าสู่สโมสร
แชมป์ลีกสูงสุด เอเรดิวิซี 6 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 3 สมัย, และ เคเอ็นวีบี คัพ อีก 5 สมัย เป็นตัวการันตีว่าครั้งหนึ่ง ไกเซอร์ เคยระเบิดฟอร์มโหดมากขนาดไหน แถมยังเคยพาทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เข้าชิง ฟุตบอลโลก ปี 1974 ได้ด้วย
24. เอเดน อาซาร์
ในยุคที่ทีมชาติ เบลเยี่ยม ถูกเรียกว่า 'โกลเด้น เจเนเรชั่น' เอเดน อาซาร์ คือหนึ่งในนักเตะตัวชูโรงของทีมชุดนั้น แถมกับ เชลซี อาซาร์ ก็ใช้เวลา 7 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระเบิดฟอร์มโหดจนพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ 2 สมัย
น่าเสียดายที่บั้นปลายอาชีพการค้าแข้งของ อาซาร์ กับ เรอัล มาดริด จบลงได้ไม่สวยงามนัก ไม่อย่างนั้นเขาคงได้ขึ้นไปอยู่บนอันดับที่สูงกว่านี้
23. ลีโอเนล ซานเชซ
ดาวเตะชาว ชิลี ที่ครั้งหนึ่งเคยมีเหล่าบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่จาก ยุโรป อย่าง เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน พยายามเจรจาเอาเขาไปร่วมทีม แต่ ซานเชซ ก็ปฏิเสธเพราะร่างกายและจิตใจของเขามีไว้เพื่อรับใช้สโมสรในชาติบ้านเกิดเท่านั้น
ซานเชซ เป็นปีกซ้ายทีทำได้ทั้งยิงประตูและสร้างสรรค์โอกาส และยังเคยพาทีมชาติ ชิลี เข้าไปจบได้ถึงอันดับ 3 ใน ฟุตบอลโลก 1962 โดยที่ตนเองได้รางวัลดาวซัลโวร่วมประจำทัวร์นาเม้นต์ไปครองด้วย
22. ซน ฮึง-มิน
หนึ่งในดาวเตะชาว เอเชียน ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นกำลังหลักให้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มานานหลายปี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เขาได้จับคู่กับ แฮร์รี่ เคน แล้วผลัดกันผลิตสกอร์ให้ทีมได้มหาศาล
ซน เป็นนักเตะที่มีทั้งความเร็ว, เทคนิค, ความขยัน, และยังเป็นคนที่ฟอร์มคงเส้นคงวาเอามาก ๆ รวมถึงความสามารถในการเล่นได้สองเท้าก็ยิ่งทำให้เขากลายเป็นตัวรุกที่เหล่ากองหลังต่อกรด้วยยากมาก ๆ
21. วินิซิอุส จูเนียร์
วินิซิอุส จูเนียร์ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกในตำแหน่งปีกซ้ายในปัจจุบัน รวมถึงความสำเร็จที่เจ้าตัวทำได้กับ เรอัล มาดริด ภายในอายุเพียง 24 ปี ก็ยิ่งมีความน่าสนใจว่าสุดท้ายแล้วดาวเตะชาว แซมบ้า จะไปได้ไกลขนาดไหน
แม้สุดท้ายจะพลาดรางวัล บัลลงดอร์ ไปในปีล่าสุด แต่แน่นอนว่าถ้าหาก วินิซิอุส ยังรักษาฟอร์มการเล่นแบบนี้ต่อไปได้เรื่อย ๆ เขาก็มีสิทธิจะคว้าลูกโลกทองคำไปนอนกอดที่บ้านได้ในสักวัน
20. โอเล็ก บล็อกกิ้น
จริงอยู่ที่ส่วนใหญ่ในช่วงเวลาค้าแข้ง โอเล็ก บล็อกกิ้น จะลงเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่เจ้าตัวลงเล่นในฐานะปีกซ้ายแล้วทำผลงานได้กระฉูดแตก
ตัวรุกชาว โซเวียต ใช้เวลาลงเล่นให้ ดินาโม เคียฟ ไปทั้งหมด 578 นัด ทำไปได้ 265 ประตูกับอีก 106 แอสซิสต์ ถือเป็นตำนานสโมสรอย่างแท้จริง
19. ซาดิโอ มาเน่
ซาดิโอ มาเน่ เป็นส่วนสำคัญให้เกมรุก ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เกน คล็อปป์ มีความน่าเกรงขามมากที่สุดร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ในโลกฟุตบอลเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว จนเรียกได้ว่าเป็นสามผสานที่ดีที่สุดของสโมสรเลยก็ว่าได้
จุดเด่นของ มาเน่ คือความเร็วที่วิ่งแซงกองหลังได้ทุกคน รวมถึงยังสามารถจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ทำให้เจ้าตัวมักจะก้าวขึ้นมาสร้างความแตกต่างได้ในแมตช์สำคัญอยู่บ่อยครั้ง
18. โรแบร์ ปิแรส
แม้ทีมชาติ ฝรั่งเศส จะผลิตสุดยอดสตาร์ออกมาได้ทุกยุคสมัย แต่น้อยคนที่จะก้าวขึ้นมาเทียบรัศมีของ โรแบร์ ปิแรส ได้ โดยดาวเตะรายนี้เป็นส่วนสำคัญช่วยให้ อาร์เซน่อล มียุครุ่งเรืองในช่วงต้นยุค 2000 รวมถึงคว้าแชมป์ 'ไร้พ่าย' ได้สำเร็จ
แม้จะมีส่วนสูงถึงเกือบ ๆ 188 เซนติเมตร แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อความพริ้วไหวในการเลี้ยงบอลของ ปิแรส รวมถึงเจ้าตัวยังมักยิงลูกสวย ๆ ให้แฟนบอล ปืนใหญ่ ได้ตื่นตาตื่นใจกันอีกด้วย
17. จอห์น บาร์นส์
ดาวเตะชาว อังกฤษ ที่ทำให้แฟนบอลหลายคนตกหลุมรัก ลิเวอร์พูล จนโงหัวไม่ขึ้น ด้วยลีลาการเลี้ยงบอลได้อย่างเชื่องเท้าภายใต้เทคนิคและความเร็วเสริมกันได้อย่างลงตัวจนทำให้ บาร์นส์ เป็นนักเตะที่เสียบอลยากมาก ๆ ในช่วงเวลาที่เขาพีค
แม้จะพลาดการมีส่วนร่วมในช่วงที่ ลิเวอร์พูล ครองลีก อังกฤษ เมื่อช่วงยุค 70 แต่ บาร์นส์ ก็ยังมีความสำเร็จร่วมกับทัพ หงส์แดง ในการเป็นแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัย
16. เนย์มาร์
นี่เป็นหนึ่งในนักเตะยุคใหม่ที่เหมาะสมกับคำว่า 'เลือดแซมบ้า' อย่างแท้จริง เพราะตั้งแต่ค้าแข้งกับ ซานโตส มาจนถึง อัล-ฮิลาล ในปัจจุบัน เนย์มาร์ ฝากผลงานลีลาการเลี้ยงบอลอันสวยงามไว้ให้คนทั่วโลกได้ชมหลายต่อหลายครั้ง และยังเป็นนักเตะที่พา บาร์เซโลน่า ยิ่งใหญ่ร่วมกับ ลีโอเนล เมสซี และ หลุยซ์ ซัวเรซ อีกด้วย
จริงอยู่ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนย์มาร์ จะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจนแทบไม่ได้ลงเล่น แต่ถ้าหากพูดถึงพรสวรรค์ฟุตบอลที่มีตั้งแต่กำเนิด ก็ต้องยอมรับว่าดาวเตะผู้นี้แหละที่เกิดมาเพื่อเล่นฟุตบอลอย่างแท้จริง
15. โซลตัน ชีบอร์
ในยุคหนึ่งที่ ฮังการี ขยันผลิตดาวเตะคุณภาพออกมาสู่โลกฟุตบอล โซลตัน ชีบอร์ คือหนึ่งในความสำเร็จเหล่านั้น โดยนักเตะผู้นี้ใช้เวลากว่า 2 ทศวรรษไล่ล่าความสำเร็จกับเหล่าสโมสรทั่ว ยุโรป โดยเฉพาะครั้งหนึ่งที่เคยเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า
ชีบอร์ ยังเป็นส่วนสำคัญให้กับทีมชาติ ฮังการี เมื่อช่วงยุค 50 ร่วมกับสุดยอดตำนานอย่าง เฟเรนซ์ ปุสกัส โดยผลงานที่ดีที่สุดคือร่วมกันพาชาติบ้านเกิดจบรองแชมป์ ฟุตบอลโลก ปี 1954
14. ริวัลโด้
ริวัลโด้ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ไม่ได้ประจำการทางด้านซ้ายอยู่เสมอ แต่ไม่ว่าเจ้าตัวจะเล่นตรงกลางหรือริมเส้น เขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอต้นเสมอปลายตลอดมา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ที่เจ้าตัวยิงไปถึง 130 ประตูจากการลงเล่น 235 นัด
เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 1 สมัยผู้นี้ยังเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ทีมชาติ บราซิล คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก และ โคปา อเมริกา ได้อีกอย่างละ 1 สมัยด้วย
13. ทอม ฟินนีย์
ทอม ฟินนีย์ เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะลงฟาดแข้งให้ เพรสตัน นอร์ท เอนด์ เป็นระยะเวลาร่วม 2 ทศวรรษ ซึ่งเจ้าตัวพาทีมคว้าแชมป์ ดิวิชั่น 2 ของ อังกฤษ ได้ 1 สมัย
กับทีมชาติ อังกฤษ ฟินนีย์ ลงรับใช้ชาติไปทั้งหมด 76 นัด และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแข้งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ทัพ สิงโตคำราม ถึงขนาดที่อดีตกุนซืออย่าง บิลล์ แชงคลี กล่าวชมว่าเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เขาเคยเห็นเลยทีเดียว
12. คิลิยัน เอ็มบัปเป้
อดีตดาวเตะสังกัด ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างชื่อกระฉ่อนโลกด้วยการพา อาแอ็ส โมนาโก คว้าแชมป์ ลีกเอิง แบบหักปากกาเซียนในซีซัน 2016/17 ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับทีมในเมืองหลวงแล้วยิ่งยกระดับผลงานของตนเองขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกซีซันที่ลงสนาม
ในวัยเพียง 25 ปี เอ็มบัปเป้ คว้าแชมป์ใหญ่อย่าง ฟุตบอลโลก มาครองได้แล้ว และยังทำแฮตทริกได้ในนัดชิงชนะเลิศปี 2022 อีกด้วย ต่อจากนี้กับ เรอัล มาดริด เอ็มบัปเป้ ต้องพิสูจน์ตนเองให้ได้อีกครั้งว่าเขาคือสุดยอดกองหน้าแห่งยุคสมัยใหม่
11. ร็อบ เรนเซ่นบริงค์
ร็อบ เรนเซ่นบริงค์ เป็นนักเตะที่ได้รับการยกย่องน้อยกว่าที่ควรเนื่องจากความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก ถึง 2 ครั้งในปี 1974 และ 1978 ทำให้เขาเป็นเพียงขวัญใจแฟนบอลภายในประเทศ เนเธอร์แลนด์ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกไปถึงคุณภาพในการเล่นของ เรนเซ่นบริงค์ ก็ต้องยอมรับว่าดาวเตะรายนี้มีความสามารถในการหลบหลีกคู่แข่งเข้าขั้นปรมจารย์ ซึ่งในวันที่ทุกอย่างลงตัวก็แทบจะไม่มีใครสามารถต่อกรกับนักเตะชาว ดัตช์ รายนี้ได้เลย
10. ดราแกน จายิช
ดราแกน จายิช เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลในตำแหน่งแบ็คซ้าย ก่อนจะเริ่มดัดแปลงมาเป็นผู้เล่นปีกซ้ายตามความสามารถเฉพาะตัวในการทำเกมรุก โดยจุดเด่นของเขาคือการครอสบอลด้วยเท้าซ้ายได้อย่างแม่นยำและอันตราย
ดาวเตะจาก เร้ด สตาร์ เบลเกรด ยังมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมชาติ ยูโกสลาเวีย จบอันดับรองแชมป์ในฟุตบอล ยูโร 1968 พร้อมแนบรองเท้าทองคำกลับบ้านไปด้วย แถมยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง บัลลงดอร์ เป็นลำดับ 3 ในปีดังกล่าว
9. ไรอัน กิ๊กส์
ไรอัน กิ๊กส์ เป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองความยิ่งใหญ่มาหลายสิบปี ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ถึง 25 รายการ ตลอดเส้นทาง 963 นัดในสีเสื้อทีม ปีศาจแดง
หากไม่นับฤดูกาลสุดท้าย ไม่เคยมีซีซันไหนที่ กิ๊กส์ ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่ำกว่า 22 นัดเลยสักครั้ง แถมการเป็น 'วัน แมน คลับ' ของดาวเตะรายนี้ก็ทำให้แฟนบอล ปีศาจแดง ต่างยกย่องและเทิดทูนเขามากเลยทีเดียว
8. ฟร้องค์ ริเบรี่
ปฏิเสธไม่ได้ว่าครั้งหนึ่ง ฟร้องค์ ริเบรี่ คือปีกที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล เพราะไม่ว่าจะตอนหนุ่มหรืออายุเริ่มปาเข้าหลัก 30 ริเบรี่ ก็ยังคงเป็นฝันร้ายของกองหลังอยู่เสมอ
ดาวเตะรายนี้เป็นส่วนสำคัญให้เกมรุกริมเส้นของ บาเยิร์น มิวนิค มีความน่าหวั่นเกรงในสมัยที่ลงเล่นคู่กับ อาร์เยน ร็อบเบน หรือครั้นจะให้เขาลงเล่นเพียงคนเดียวก็มีประสิทธิภาพในการยิงและจ่ายช่วยทีมไม่แพ้กัน
7. พาเวล เนดเวด
น่าเสียดายที่แฟนบอลยุคนี้ไม่ทันเห็นลีลาการเล่นของ พาเวล เนดเวด ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยทะยานขึ้นไปได้ถึงรางวัล บัลลงดอร์ เมื่อปี 2003 จากการระเบิดฟอร์มโหดกับ ยูเวนตุส และทีมชาติ เช็ก
สิ่งหนึ่งที่เหมือนเป็นรอยด่างพร้อยในอาชีพการค้าแข้งก็คือ เนดเวด ไม่เคยคว้าแชมป์ ยุโรป ได้เลยสักสมัยเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่ใช่สุดยอดนักเตะในช่วงเวลานั้น
6. ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ
แม้ชื่อของ ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ จะฟังดูไพเราะน่าพูดถึง แต่บนสนามแข่งบอกเลยว่าเขาไม่ได้เป็นที่รักของกองหลังฝ่ายตรงข้ามสักเท่าไร เพราะด้วยความดุดัน และสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยพลัง ทุกทีมที่เจอเขาจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
สตอยช์คอฟ เป็นส่วนสำคัญของยุคทอง บาร์เซโลนา ของ โยฮัน ครัฟฟ์ ในช่วงต้นยุค 90 และยังสร้างตำนานให้กับตัวเองใน ฟุตบอลโลก ปี 1994 จนคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาครอง พร้อมฝากชื่อตัวเองไว้ในรายชื่อตำนานทีม เจ้าบุญทุ่ม จนถึงทุกวันนี้
5. เธียร์รี่ อองรี
เธียร์รี่ อองรี อาจไม่ได้ใช้เวลาตลอดอาชีพการค้าแข้งในตำแหน่งปีกซ้าย เพราะเจ้าตัวโดนขยับเข้ามาเล่นตรงกลางเรื่อย ๆ ในเวลาต่อมา แต่หากสังเกต ดาวยิงชาว ฝรั่งเศส มักจะเริ่มออกตัวจากด้านซ้ายก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กรอบเขตโทษแล้วบรรจงปั่นบอลโค้งผ่านมือผู้รักษาประตูอย่างแม่นยำ
ความเร็ว, พละกำลัง, การทรงตัว, ทักษะอันแพรวพราว, และเทคนิคการเล่นขั้นสูง...อองรีมีครบทุกอย่างที่นักฟุตบอลระดับโลกพึงมี
การย้ายมา อาร์เซน่อล คือจุดเริ่มต้นการประกาศศักดาของเขา ก่อนจะต่อยอดด้วยการย้ายไปเล่นให้ บาร์เซโลนา ส่วนในระดับทีมชาติ อองรี คว้า แชมป์โลก และ แชมป์ยูโร ร่วมกับทีมชาติ ฝรั่งเศส ได้ด้วย
4. ฟรานซิสโก เกนโต้
ก่อนจะมี เรอัล มาดริด ยุคปัจจุบัน เคยมี เรอัล มาดริด ยุคเก่าที่โด่งดังไม่แพ้กัน และหนึ่งในกุญแจสำคัญของทีมในเวลานั้นก็คือ ฟรานซิสโก เกนโต้
เกนโต้ เป็นนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ถูกคาดเดาว่าจะสามารถระเบิดฟอร์มได้ในโลกฟุตบอลยุคใหม่ เพราะเขามีทุกอย่างที่ปีกตัวรุกสมัยใหม่พึงมี ไม่ว่าจะเป็นความเร็วอันเหนือชั้น การยิงด้วยเท้าซ้ายที่เฉียบขาด และความสามารถทางเทคนิคที่แทบจะไร้ที่ติ
ผลงานที่สะท้อนความสำเร็จของเขาก็คือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากถึง 6 สมัย และ ลาลีก้า อีก 12 สมัย และได้เป็นส่วนสำคัญของทีมที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่งในประวัติศาสตร์
3. ริเวลลิโน่
หากคุณชื่นชอบการเล่นของ เนย์มาร์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและเคยสงสัยว่าเขายึดสไตล์การเล่นมาจากใคร คำตอบนั้นคงเป็น ริเวลลิโน่
ริเวลลิโน่ ไม่ได้เป็นเพียงผู้เล่นที่มีเทคนิคชั้นยอดเท่านั้น แต่ยังเป็นนักฟุตบอลที่มีศักยภาพเกินคำบรรยาย ซึ่งมีจุดเด่นคือลูกยิงเท้าซ้ายทรงพลัง และถูกพิสูจน์ชัดเจนในศึกฟุตบอลโลก 1970 ที่ บราซิล คว้าแชมป์ในทัวร์นาเมนต์นั้น โดยทีมชุดนั้นก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย
2. โรนัลดินโญ่
ฟุตบอลคือความสนุกและความบันเทิงสำหรับผู้เล่นในทุกระดับ คุณลงเล่นเพราะรักในการสัมผัสลูกฟุตบอล ดังนั้นเมื่อใดที่มีลูกบอลอยู่ที่ปลายเท้า เมื่อนั้นคือช่วงเวลาที่คุณมีความสุขที่สุด แต่ โรนัลดินโญ่ คือคนที่สะท้อนออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมว่าถ้าหากคุณรักฟุตบอลและมีพรสวรรค์มาก ๆ ในเวลาเดียวกันจะเป็นเช่นไร
ตลอดช่วงเวลาที่ โรนัลดินโญ๋ โลดแล่นอยู่บนผืนหญ้า เขาได้สร้างส่งผ่านความสุขในการเล่นฟุตบอลต่อไปให้แฟนบอลทั่วโลกที่รับชมเขาเล่นในสนาม ด้วยลีลาเทคนิคอันแพรวพราว บอกเลยว่านี่คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่โลกฟุตบอลเคยมีมาเลยทีเดียว
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้
หลายคนยกย่องให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะปีกซ้ายที่ดีที่สุดในโลกเมื่อปี 2008 ในสมัยที่เขาคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมพาทีมซิว 'ดับเบิลแชมป์' ได้ในปีนั้น ก่อนจะย้ายไปสร้างตำนานกับ เรอัล มาดริด ในเวลาต่อมา
รางวัล บัลลงดอร์ 5 สมัยคงเป็นตัวการันตีชั้นเลิศว่า โรนัลโด้ ก้าวผ่านคำว่ามนุษย์ไปเป็นเทพเจ้าแห่งโลกฟุตบอลแล้ว โดยดาวเตะชาว โปรตุกีส ผู้นี้มีทุกอย่างที่นักฟุตบอลควรมี ไม่ว่าจะเป็นทั้งพรสวรรค์หรือพรแสวง รวมถึงการมีวินัยดีเยี่ยมตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็ทำให้เขายังคงค้าแข้งได้จนถึงปัจจุบัน