เก็บตกประเด็นหลังเกม แมนซิตี้ บุกแพ้ ไบรท์ตัน 2-1 ตามหลังจ่าฝูงเป็น 5 แต้มแล้ว : FEATURE
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มบู่ต่อเนื่อง หลังล่าสุดบุกพ่าย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-1
- แมนฯ ซิตี้ ครองเกมได้เหนือกว่าในครึ่งแรก แล้วก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อน แต่ครึ่งหลัง ไบรท์ตัน ยิงคืนสองลูกรวดแซงชนะในท้ายที่สุด
- จบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ โดน ลิเวอร์พูล หนีเป็น 5 คะแนนแล้ว หลังทีมของ อาร์เน่อ สล็อต เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก |
---|---|
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2567 |
สนาม | เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มบู่ต่อเนื่อง หลังล่าสุดบุกพ่าย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทำให้แพ้เป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันรวมทุกรายการแล้ว
แมนฯ ซิตี้ ครองเกมได้เหนือกว่าในครึ่งแรก แล้วก็มาได้ประตูขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 23 จากการยิงของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ใช้ความแข็งแกร่งเบียดเอาชนะ ยาน พอล ฟาน เฮคเก้ ยิงผ่านมือ บาร์ท แฟร์บรูคเค่น
เข้าไป
อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งหลัง "เรือใบสีฟ้า" ช็อตไปดื้อ ๆ จนโดน ไบรท์ตัน ยิงคืนสองลูกรวดจาก เจา เปโดร และ แม็ตต์ โอไรลี่ย์ ในนาทีที่ 78 และ 83 พลิกชนะไปในท้ายที่สุด
จบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ โดน ลิเวอร์พูล จ่าฝูงหนีห่างเป็น 5 คะแนนเข้าให้แล้ว หลังทีมของ อาร์เน่อ สล็อต เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 ในวันเดียวกัน
เป๊ป แพ้ 4 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรก
ประวัติศาสตร์ถูกสร้างขึ้นที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม และสำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มันไม่ใช่ประวัติศาสตร์ที่เขาอยากจะจดจำ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่กุนซือชาวสเปนแพ้ติดต่อกัน 4 นัดในอาชีพผู้จัดการทีม
เริ่มตั้งแต่เกมที่แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-1 ในคาราบาว คัพ ตอนนี้มันต่อเนื่องไปจนถึงเกมลีกที่แพ้ บอร์นมัธ 2-1 และบุกโดน สปอร์ติ้ง ลิสบอน ถล่มเละ 4-1 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก
ขณะเดียวกันครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ แพ้ 4 เกมรวด ต้องย้อนกลับไปสมัย สจ๊วร์ต เพียร์ซ ยังคุมทีมอยู่เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2006
ฮาแลนด์ แพ้นัดแรกในพรีเมียร์ลีกหลังยิงประตูได้
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่น่าจดจำเช่นกัน เพราะเป็นครั้งแรกเลยที่เขายิงประตูในพรีเมียร์ลีกแล้วดันแพ้
ตลอด 46 นัดก่อนหน้านี้ในพรีเมียร์ลีกเมื่อเขาเป็นคนทำประตูได้ แมนฯ ซิตี้ ชนะไปได้ถึง 40 นัดและเสมออีก 6 นัด
อย่างไรก็ตามลูกยิงที่ทำได้ในเกมนี้ทำให้ ฮาแลนด์ ยิงไปแล้ว 75 ประตูจากการลงสนาม 77 นัดในพรีเมียร์ลีก
นับเป็นการยิง 75 ลูกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก แซงหน้าสถิติเดิมของ อลัน เชียเรอร์ ที่ทำไป 75 ประตูจากการลงสนาม 93 นัด
การเสีย โรดรี้ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทีมฟอร์มแย่
หากนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว โรดรี้ ลงเล่นไปทั้งสิ้น 53 เกม ชนะ 39 นัด เสมอ 13 และแพ้เพียง 1 นัดเท่านั้น นั่นก็คือในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นไป 24 เกมโดยไม่มี โรดรี้ ซึ่งแบ่งเป็นการชนะ 14 เสมอ 2 และแพ้ถึง 8 นัด เปอร์เซ็นต์การชนะของ แมนฯ ซิตี้ กับการมี โรดรี้ คือ 73.6% เทียบกับ 58.3% เมื่อไม่มีเขา
มันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลงานในในเวลานี้ โดย ไมกาห์ ริชาร์ดส์ อดีตกองหลัง แมนฯ ซิตี้ แสดงความคิดเห็นว่า "สิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผมคือไม่เพรสซิ่งอีกต่อไป พวกเขาเล่นกันแบบฉายเดี่ยวเกินไป"
"เมื่อคุณเสียกองกลางที่ดีที่สุดในยุโรป (โรดรี้) ไป ทีมก็จะต้องเผชิญกับแรงกดดันเสมอ แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นทีมที่โดนเล่นงานง่ายเกินไป"
ส่วน เจมี่ เร้ดแนปป์ เสริมว่า "ไม่มีทางที่ แมนฯ ซิตี้ จะแพ้ 4 เกมนั้น หาก โรดรี้ ลงเล่น"
อย่าลืมว่า แมนฯ ซิตี้ เคยอยู่ในจุดนี้มาก่อน
แม้ว่าการพ่ายแพ้ติดต่อกัน 4 นัดในฐานะผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้ อาจเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับ กวาร์ดิโอล่า แต่การเป็นทีมตามหลังสำหรับการลุ้นแชมป์ลีกนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่
การพ่ายต่อ ไบรท์ตัน นั้นทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เป็น 5 แต้มเข้าให้แล้ว และทั้งสองทีมมีคิวดวลกันที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม วันที่ 1 ธันวาคมนี้
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน แมนฯ ซิตี้ สามารถไล่ตาม อาร์เซนอล ได้ โดยพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลังถึง 8 แต้มเมื่อต้นเดือนเมษายน และแซงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้
เพราะงั้นการการชื่อ แมนฯ ซิตี้ ออกจากทีมลุ้นแชมป์ โดยเฉพาะเมื่อยังอยู่ในเดือนพฤศจิกายนนั้นเป็นเรื่องที่ผิด