เก็บตกประเด็นหลังเกม แมนซิตี้ แพ้ สเปอร์ส คาบ้าน 4-0 ปราชัยเกมที่ 5 ติดต่อกัน : FEATURE
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านโดน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาบุกมาถล่มขาดลอย 4-0
- ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ติดต่อกันรวมทุกรายการเป็นนัดที่ 5 แล้ว
- พวกเขามีโอกาสโดน ลิเวอร์พูล ทำคะแนนหนีห่างเป็น 8 แต้ม หากเอาชนะ เซาแธมป์ตัน
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ |
---|---|
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกาน 2567 |
สนาม | เอติฮัด สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-4 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกทะเลแบบกู่ไม่กลับ หลังล่าสุดเปิดบ้านโดน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาบุกมาถล่มขาดลอย 4-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
เจมส์ แมดดิสัน เหมาคนเดียวสองลูก ที่เหลือมาจาก เปโดร ปอร์โร่ และ เบรนแนน จอห์นสัน ช่วยให้ สเปอร์ส บุกมาเก็บ 3 คะแนนได้ถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ติดต่อกันรวมทุกรายการเป็นนัดที่ 5 แล้ว และพวกเขามีโอกาสโดน ลิเวอร์พูล ทำคะแนนหนีห่างเป็น 8 แต้ม หากเอาชนะ เซาแธมป์ตัน ได้ในวันอาทิตย์นี้
โปรแกรมนัดต่อไปของ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันอังคารนี้
เกิดอะไรขึ้นกับ แมนฯ ซิตี้?!
ก่อนเกมเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวกมากมายสำหรับ แมนฯ ซิตี้ โดยสโมสรได้ให้ โรดรี้ ลงไปชูรางวัลบัลลงดอร์ต่อหน้าแฟนบอลในสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
การต่อสัญญาฉบับใหม่ 2 ปีของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ถือเป็นการกระตุ้นที่ดีเช่นกัน ทำให้บรรยากาศของเจ้าถิ่นเต็มไปด้วยความคาดหวัง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยมและกดดัน สเปอร์ส จนจวนเจียนจะได้ประตูขึ้นนำหลายครั้ง โดยเฉพาะลูกยิงของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ก็เซอร์ไพรส์ขึ้นนำจากการโจมตีครั้งแรก
เดยัน คูลูเซฟสกี้ เอาชนะ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก่อนเปิดให้ เจมส์ แมดดิสัน ยิงเข้าไปจ่อ ๆ จากนั้นเจ้าบ้านพยายามบุกเข้าใส่เหมือนที่เคย แต่โชคร้ายมาโดนประตูที่สองจากความผิดพลาดของ กวาร์ดิโอล อีกครั้งที่จ่ายบอลไม่เด็ดขาดจนเสร็จ แมดดิสัน เหมาลูกที่สอง
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ หวังอย่างยิ่งที่จะทำประตูตีไข่แตกเพื่อกลับเข้าสู่เกม แต่จนแล้วจนรอด สิ่งต่าง ๆ กลับไม่เป็นใจให้พวกเขา ความผิดพลาดในเกมรับทำให้ สเปอร์ส ยิงเพิ่มสองประตูจาก เปโดร ปอร์โร่ และ เบรนแนน จอห์นสัน
เป็นการแพ้โดยที่รูปเกมของ สเปอร์ส ไม่ได้เป็นรองด้วย พวกเขากล้าต่อกรกับแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ แบบไม่เกรงใจ เพราะงั้นสกอร์ 4-0 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย
เกมรับที่พร้อมเสียได้ทุกเมื่อ
ในขณะที่เกมรุกไม่เฉียบคมพอ เกมรับของพวกเขาก็ดันผิดฟอร์มแบบน่าเกลียด แผงแบ็คโฟร์ตัวจริงทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มานูเอล อคานจี และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน
พวกเขาขาดความเข้าใจกัน ซึ่งต้องทำความเข้าใจด้วยว่าเพราะอาการบาดเจ็บทำให้ทั้งสี่เล่นร่วมกันน้อยมาก ที่สำคัญ สโตนส์ และ อคานจี ก็เพิ่งหายเจ็บกลับมาเป็นตัวจริงเท่านั้น
ขณะเดียวกัน วอล์คเกอร์ นับตั้งแต่หายเจ็บก็เหมือนไม่ใช่คนเดิม ความเร็วที่เคยมีกลับดร็อปลงอย่างน่าใจหาย เช่นเดียวกับ กวาร์ดิโอล ที่เป็นบ่อน้ำมันชั้นดีในเกมนี้
น่าเห็นใจ เป๊ป เหมือนกัน เพราะ 2 เกมก่อนหน้านี้เขาต้องใช้ จาห์ไม ซิมป์สัน-พูซีย์ ลงตัวจริง แต่นัดนี้มันหนักเกินไปสำหรับกองหลังดาวรุ่งวัย 19 ปี เทรนเนอร์ชาวสเปนจึงเลือกประสบการณ์อย่าง สโตนส์ และ อคานจี จับคู่เซ็นเตอร์แบ็ค
อย่างไรก็ตาม สโตนส์ โดนเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งเพื่อหลีกทางให้ อาเก้ ลงไปแทน ซึ่ง อาเก้ เองก็เจออาการเจ็บไปเหมือนกันก่อนหน้านี้
คงต้องรออีกสักพักกว่าจะได้แผงเกมรับที่ฟิตสมบูรณ์แล้วจริง ๆ ถึงตอนนั้นเกมรับก็น่าจะดีขึ้น และผลการแข่งขันก็น่าจะดีตามไปด้วย
ฮาแลนด์ ปืนฝืดน่าใจหาย
ผลงานที่ดิ่งลงของ แมนฯ ซิตี้ ประจวบเหมาะกับฟอร์มส่วนตัวที่น่าผิดหวังเช่นกันของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่มา ฮาแลนด์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงด้วยการซัดไป 10 ประตูจาก 5 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก แต่หลังจากนั้นศูนย์หน้าวัย 24 ปียิงได้เพียง 2 ลูกเท่านั้นจาก 7 นัดให้หลัง แม้ยังนำดาวซัลโวก็ตาม
มันก็น่าเห็นใจแทน ฮาแลนด์ เช่นกัน เพราะส่วนหนึ่งพวกเขาไม่มีตัวป้อนบอลอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งเจออาการเจ็บเล่นงานจนแทบไม่ได้ลงสนาม ในขณะที่ โรดรี้ ที่คอยคุมจังหวะเกมก็ดันปิดเทอมยาวอีก
ภาระหนักตกเป็นของ ฟิล โฟเด้น ที่ต้องปั้นเกมให้เพื่อน แต่ฟอร์มของเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพีเอฟเอน่าผิดหวังไม่แพ้กัน
นัดนี้ ฮาแลนด์ โอกาสเยอะมาก แต่เป็นตัวเขาเองที่ปล่อยให้หลุดมือไป ไม่แปลกใจเลยที่ผู้จัดการทีมแฟนตาซีมากมายเลือกที่จะไม่เก็บเขาไว้อยู่ในทีม
สถิติที่ไม่น่าจดจำ
- แมนฯ ซิตี้ เป็นแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกทีมแรกที่แพ้ 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ นับตั้งแต่ เชลซี เคยทำไว้ในเดือนมีนาคม 1956
- แมนฯ ซิตี้ แพ้ 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายน 2006 ภายใต้การคุมทีมของ สจ๊วร์ต เพียร์ซ และแพ้ 3 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2016 สมัยที่ มานูเอล เปเญกรินี่ เป็นผู้จัดการทีม
- นี่เป็นการแพ้ในบ้านด้วยสกอร์ขาดลอยที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ ในทุกรายการ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2003 (แพ้ต่อ อาร์เซนอล 1-5 ที่เมน โร้ด)
- นับเป็นการแพ้ครั้งแรกของ แมนฯ ซิตี้ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม นับตั้งแต่การพ่าย เบรนท์ฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ยุติสถิติไม่แพ้ใครในบ้านยาวนานที่สุดของพวกเขาในทุกรายการ (52 เกม)
- แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสยิง 23 ครั้งในเกมนี้แต่ไร้สกอร์ ถือเป็นจำนวนมากที่สุดในเกมพรีเมียร์ลีกที่พวกเขายิงไม่ได้ นับตั้งแต่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อเดือนมีนาคม 2021 (23 ครั้งเช่นกัน)
- สเปอร์ส กลายเป็นของแสลงสำหรับ เป๊ป พวกเขาทำให้ เป๊ป เจอกับความพ่ายแพ้ไปแล้ว 9 ครั้งในทุกรายการ มากกว่าทีมอื่น ๆ ลิเวอร์พูล ซึ่ง แมนฯ ซิตี้ จะต้องเจอในนัดต่อไปในลีกเอาชนะเขาไป 8 ครั้ง