เก็บตกประเด็นหลังเกม แมนซิตี้ โดน เฟเยนูร์ด ตีเสมอ 3-3 ไร้ชัย 6 นัดติดต่อกัน : FEATURE
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไร้ชัย 6 เกมติดต่อกัน แม้จะนำห่างถึง 3-0 แต่สุดท้ายโดน เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ตามตีเสมอ 3-3
- แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนจาก 5 เกม หล่นไปอยู่อันดับ 15 ของตาราง
- เกมรับที่เปราะบางยังคงเป็นปัญหาสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ก่อนออกไปเยือน ลิเวอร์พูล สุดสัปดาห์นี้
โดย Asree Samuyae
รายการ | ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟส |
---|---|
วันแข่งขัน | วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 |
สนาม | เอติฮัด สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-3 เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่หยุดสถิติห่วยเมื่อไร้ชัย 6 เกมติดต่อกัน แม้จะนำห่างถึง 3-0 แต่สุดท้ายโดน เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ตามตีเสมอ 3-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
"เรือใบสีฟ้า" นำขาดถึง 3-0 จากจุดโทษของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ นาทีที่ 44 จากนั้นครึ่งหลัง อิลคาย กุนโดกัน บวกสกอร์เพิ่มนาทีที่ 50 แล้วก็เป็น ฮาแลนด์ เบิ้ลอีกลูกนาทีที่ 53
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ช็อตเอาดื้อ ๆ โดนยิงคืนสามลูกรวดจาก อานิส ฮัดจ์ มุสซ่า นาทีที่ 75, ซานติอาโก้ กิเมเนซ นาที 82 และก็เป็น ดาวิด ฮันค์โก้ ยิงตีเสมอนาที 89
จบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนจาก 5 เกม หล่นไปอยู่อันดับ 15 ส่วน เฟเยนูร์ด มีเพิ่ม 7 แต้ม อยู่ที่ 20
แมนฯ ซิตี้ จะออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ และหวังว่าจะเก็บชัยชนะให้ได้
เกมรับยังคงเปราะบาง
แมนฯ ซิตี้ ไม่ควรเสียประตูเลยในเกมนี้ เมื่อพวกเขานำห่างถึง 3 ประตูจนน่าจะปิดเกมได้ง่าย ๆ แต่เพราะเกมรับที่ประมาทและเลินเล่อทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ยังคงยืดสถิติไม่ชนะใครเป็นเกมที่ 6 ในทุกรายการ
แม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกมรับของทีม จนเกิดเป็นภาพที่เขาเอามือกุมหัวตัวเองบนม้านั่งสำรองหลังจากที่ อานิส ฮัดจ์ มูสซ่า ยิงประตูตีไข่แตก
ความผิดพลาดแบบเต็ม ๆ ของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล สำหรับประตูแรก ต่อเนื่องจากเกมที่แล้วซึ่งแพ้ต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ น่าสนใจแมตช์หน้าด้วยสภาพจิตใจแบบนี้กองหลังชาวโครแอตจะยังได้ลงตัวจริงอีกหรือไม่
ในขณะที่ เอแดร์ซอน ก็ทะเล่อทะล่าออกมาตัดบอลพลาดจนสุดท้ายเป็นประตูตีเสมอ ซึ่งเอาเข้าจริงจังหวะก่อนหน้านั้น แมนฯ ซิตี้ ได้เล่นฟรีคิก พวกเขากลับเล่นเร็วทั้งที่เลือกจะครองบอลเอาไว้ตามถนัด
เกมรับแบบนี้เมื่อต้องดวลกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังมั่นใจสุด ๆ ในสุดสัปดาห์นี้ ยิ่งสร้างความกังวลให้กับกุนซือชาวสแปนิช
ปัญหาอาการบาดเจ็บ
เป๊ป มั่นใจว่าทีมของเขาจะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งเมื่อผู้เล่นต่างหายเจ็บกลับมา
ก่อนเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ขาดตัวเจ็บเพิ่มอย่าง จอห์น สโตนส์ บวกกับแข้งที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วอย่าง โรดรี้, รูเบน ดิอาส, มาเตโอ โควาซิช
เป๊ป ยังจัดเซ็นเตอร์แบ็คไม่ลงตัวเลยในฤดูกาลนี้ เพราะว่าสลับเจ็บกันบ่อย แล้วการขาดทั้ง ดิอาส และ สโตนส์ ซึ่งเคยจับคู่กันอย่างแข็งแกร่งเสียหายไม่น้อยเลย
ภาพเห็นชัดจากการที่เขาต้องเปลี่ยนตัว นาธาน อาเก้ ออกเพื่อรักษาความฟิตก่อนเกมเจอ ลิเวอร์พูล บวกกับสกอร์ที่มันขาดอยู่แล้ว แต่การลงมาของ จาห์ไม ซิมป์สัน-พูซีย์ กลับทำให้คู่แข่งมีความหวังที่จะเจาะมากขึ้น
หลายคนรู้ดีอยู่แล้วว่า โรดรี้ สำคัญต่อ แมนฯ ซิตี้ ขนาดไหน และเมื่อ โควาซิช ทำหน้าที่ทดแทนได้ดีก็ดันเจ็บเพิ่มอีก ทีนี้ภาระเลยตกเป็นของ อิลคาย กุนโดกัน ที่ต้องไปเล่นมิดฟิลด์ตัวรับแทน ซึ่งนั่นไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของเจ้าตัว
ความเร็วของ กุนโดกัน ตกลงไปเยอะ นั่นคือสาเหตุที่ เป๊ป ต้องใช้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ มาเตอุส นูเนส คอยช่วยแดนกลาง ซึ่งออกมาดีเลยในตอนแรก ก่อนที่แผลจะค่อย ๆ เปิดเมื่อทีมตกเป็นรอง
ตอนนี้ เป๊ป หวังว่าจะไม่มีอาการเจ็บเพิ่มอีก และพวกที่เจ็บอยู่ก็หายกลับมาเร็ว ๆ กระนั้นการได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาก็ยังพอเป็นข่าวดีอยู่บ้าง
ฟอร์มถล่มประตูของ ฮาแลนด์ กลับมาอีกครั้ง
แม้มีข้อเสียให้พูดมากมายแต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้างนั่นคือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่แก้ตัวจากแมตช์แพ้ สเปอร์ส ซึ่งเกมนั้นเจ้าตัวโอกาสเยอะมาก ๆ
นัดนี้หัวหอกชาวนอร์เวย์ใช้ประโยชน์จากช่วงที่เขาอยู่กับบอลได้อย่างเต็มที่ด้วยการเหมาคนเดียวสองประตู และน่าจะยิงแฮตทริกด้วยซ้ำ
เมื่อสัมผัสบอลเขามีลุ้นทำประตูหรือทำให้กองหลังเฟเยนูร์ดเกิดความยากลำบากได้ตลอด อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีก่อนเกมดวล ลิเวอร์พูล สุดสัปดาห์นี้
สถิติน่าสนใจ
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียประตูอย่างน้อย 2 ประตู 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 1963 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่พวกเขาตกชั้นจากลีกสูงสุด
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่สามารถคว้าชัยได้จากการนำห่าง 3 ประตูได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 1989
- เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สัมผัสบอลเพียง 26 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ตัวจริงคนอื่น ๆ ของ แมนฯ ซิตี้ อย่างน้อย 29 ครั้ง