เก็บตกหลังเกม แมนซิตี้ พลิกเฉือน วูล์ฟส์ 2-1 ศึก พรีเมียร์ลีก คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา : FEATURE
- จอห์น สโตนส์ เป็นฮีโร่ทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1
- ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น ยิงให้ วูล์ฟส์ ออกนำเร็ว แต่ แมนฯ ซิตี้ ได้สองลูกรวดจาก ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ จอห์น สโตนส์ พลิกชนะสำเร็จ
- โปรแกรมต่อไป แมนฯ ซิตี้ จะพบกับ สปาร์ต้า ปราก และ เซาแธมป์ตัน ในแชมเปี้ยนส์ลีกและพรีเมียร์ลีกตามลำดับ
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก |
---|---|
วันแข่งขัน | อาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 |
สนาม | โมลินิวซ์ กราวน์ |
ผลการแข่งขัน | วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
จอห์น สโตนส์ สวมบทฮีโร่หลังทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แบบหวุดหวิด 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนที่ผ่านมา
ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น ยิงให้ วูล์ฟส์ ออกนำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 7 อย่างไรก็ตาม ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มายิงสุดสวยช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ นาที 33
เกมทำท่าว่าจะเสมอกันอยู่แล้ว แต่สุดท้าย จอห์น สโตนส์ กลายฮีโร่ เมื่อโหม่งลูกเตะมุมนาทีที่ 90+5 ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" พลิกคว้าชัย แม้ตอนแรกผู้ตัดสินเป่าไม่ให้ประตูแต่ VAR เข้ามาแทรกแซง
จบเกมนี้ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เก็บเพิ่มเป็น 20 คะแนนจาก 8 เกม ขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราว ก่อนโดน ลิเวอร์พูล แซงได้ในเวลาต่อมา หลังเอาชนะ เชลซี
โปรแกรมนัดต่อไป แมนฯ ซิตี้ จะเปิดบ้านพบ สปาร์ต้า ปราก ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธนี้ จากนั้นกลับมาเตะเกมพรีเมียร์ลีกรับมือ เซาแธมป์ตัน
และต่อไปนี้คือสิ่งที่เรามองเห็นจากเกมที่ โมลินิวซ์ กราวน์ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ฮาแลนด์ หายไปจากเกม
กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คาดเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ต้องเป็นฝ่ายตามหลังในศึกพรีเมียร์ลีก และเกมนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว
ยอร์เก้น สแตรนด์ ลาร์เซ่น กองหน้าวูล์ฟส์ ลงสนามด้วยความตั้งใจที่จะแสดงให้แฟนบอลเห็นว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ไม่ใช่กองหน้านอร์เวย์เพียงคนเดียวที่แนวรับควรจะกลัว
สแตรนด์ ลาร์เซ่น เอาชนะทั้ง จอห์น สโตนส์ และ ริโก้ ลูอิส เข้าชาร์จจากลูกครอสของ เนลสัน เซเมโด้ ช่วยให้ วูล์ฟส์ ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
นับเป็นประตูที่ 3 ของหัวหอกวัย 24 ปีจากการลงสนาม 8 นัดในลีก และทำให้ แมนฯ ซิตี้ ตกอยู่ในสถานการณ์ตามหลังไปแล้ว 4 จาก 6 นัดหลังสุด
สถิติที่ผ่านมาของ ฮาแลนด์ ในการเจอกับ วูล์ฟส์ น่าประทับใจมาก เพราะเขาถลุงไปได้ถึง 8 ประตูจาก 4 เกมก่อนหน้านี้ แต่หนนี้เขาหาโอกาสยิงไม่ได้เลย แถมสัมผัสบอลน้อยกว่า 4 แมตช์ดังกล่าวด้วย
กวาร์ดิโอล ยังมีทีเด็ดเสมอ
แม้จะมีการพูดถึงการรับส่งบอลที่แม่นยำในฟุตบอลของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่สถิติระบุว่า แมนฯ ซิตี้ ยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษไปแล้วถึง 7 ประตูในฤดูกาลนี้ และประตูตีเสมอของ กวาร์ดิโอล เป็นหนึ่งในนั้น
แม้จะถนัดเท้าซ้ายแต่ กวาร์ดิโอล ตะบันสุดงามด้วยเท้าขวาจากนอกเขตโทษให้ แมนฯ ซิตี้ ตามตีเสมอ หลังจากก่อนหน้านั้นมีส่วนปล่อยให้ วูล์ฟส์ ได้ประตูขึ้นนำ
แนวรับทีมชาติโครเอเชียปล่อยให้ เซเมโด้ มีเวลาเหลือเฟือก่อนบรรจงครอสบอลให้ สแตรนด์ ลาร์เซ่น เข้าชาร์จง่าย ๆ
ก่อนย้ายมา กวาร์ดิโอล ถูกมองว่าจะเข้ามาแย่งตำแหน่งของ จอห์น สโตนส์ และ รูเบน ดิอาส แต่ทำไปทำมาเขากลายเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็คซ้ายของทีมเฉยเลย และตั้งแต่ย้ายมา กวาร์ดิโอล ยิงไปแล้วถึง 7 ประตู
ประตูชัยปัญหาของ สโตนส์
สโตนส์ กลายเป็นฮีโร่ให้ แมนฯ ซิตี้ อีกครั้ง หลังเคยยิงประตูตีเสมอ อาร์เซนอล 2-2 ในนาทีที่ 90+8 เมื่อเดือนที่แล้ว
นัดนี้กองหลังทีมชาติอังกฤษโหม่งพังประตูชัยในนาทีที่ 95 ให้ "เรือใบสีฟ้า" พลิกชนะ วูล์ฟส์ 2-1
อย่างไรก็ตามประตูของเขากลายเป็นประเด็น เพราะ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าบดบังวิสัยของ โชเซ่ ซา ก่อนที่ สโตนส์ จะโหม่งทำประตูได้
แม้ตอนแรก คริส คาวานาห์ เป่าไม่ให้ประตู แต่ VAR เข้าแทรกแซงให้เข้าดูที่จอมอนิเตอร์ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนให้เป็นประตู
"ผมนึกถึงประตูที่เราถูกริบเมื่อปีก่อน เราส่งภาพให้ผู้ตัดสินว่าโกล์ เวสต์แฮม สามารถเห็นบอลชัดเจน" แกรี่ โอนีล กุนซือวูล์ฟส์อ้างถึงจังหวะปัญหาท้ายซีซั่นก่อน ซึ่งตอนนั้นเขาวิจารณ์ผู้ตัดสินจนโดนแบน
"เหตุผลที่ผู้ตัดสินเกมนั้นใช้ริบประตู คือมีผู้เล่นของเราอยู่ในระยะใกล้เคียงกับโกล์คู่แข้ง เข้าข่ายส่งผลต่อการเล่น"
"วันนี้ แบร์นาโด้ ซิลวา อยู่ห่างจาก โชเซ่ ซา ไปไม่ถึง 1 หลา ดังนั้นผมหวังไว้ว่าผู้ตัดสินจะใช้เหตุผลเดียวกัน แต่มันไม่เกิดขึ้น"
สถิติใหม่บังเกิด
ชัยชนะในวันนี้ทำให้ แมนฯ ซิตี้ สร้างสถิติใหม่อีกครั้ง นั่นหมายความว่าตอนนี้พวกเขาไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกมา 31 นัดติดต่อกันแล้ว (ชนะ 25 เสมอ 6) ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในลีกของสโมสร
นี่ถือเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจ และเป็นการตอกย้ำถึงคลาสและความสม่ำเสมอที่ทีมของ กวาร์ดิโอล่า สร้างขึ้นมา
ในแง่ของประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของอังกฤษโดยรวม มีเพียง 6 ทีมที่ไม่แพ้ใครติดต่อกันเกิน 31 นัด โดยครั้งล่าสุดคือสถิติ 44 นัดของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เดือนมกราคม 2019 ถึงกุมภาพันธ์ 2020