4 สิ่งที่ แมนยู จะได้รับจาก รุด ฟาน นิสเตลรอย ในฐานะกุนซือขัดตาทัพ - OPINION

  • รุด ฟาน นิสเตลรอย ขึ้นมาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชั่วคราว หลัง เอริค เทน ฮาก ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
  • อดีตกองหน้ารายนี้พาทีมทำผลงานได้ดีในเกมแรก
  • เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากแฟน ๆ ให้แต่งตั้งเขาเป็นกุนซือคนต่อไปอย่างเป็นทางการ
Manchester United v Leicester City - Carabao Cup Fourth Round
Manchester United v Leicester City - Carabao Cup Fourth Round / Visionhaus/GettyImages
facebooktwitterreddit

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปลด เอริค เทน ฮาก โค้ชชาวดัตช์ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมไปแล้ว และแต่งตั้งผู้ช่วยอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย เข้ามาคุมทีมแทนชั่วคราว โดยอดีตดาวยิง “ปีศาจแดง” พาทีมประเดิมสนามด้วยการเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี 5-2 ในเกม คาราบาว คัพ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมองหากุนซือคนใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ในระหว่างนี้ ฟาน นิสเตลรอย จะรับหน้าที่ขัดตาทัพ และนี่คือ 4 สิ่งที่ “ปีศาจแดง” จะได้รับจาก "พี่ม้า" ระหว่างรอนายใหญ่คนใหม่อย่างเป็นทางการ


1. มองหาความได้เปรียบอยู่เสมอ

Ruud Van Nistelrooy, René Hake
Manchester United FC v Brentford FC - Premier League / James Gill - Danehouse/GettyImages

แมนฯ ยูไนเต็ด ดึง ฟาน นิสเตลรอย มาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ด้วยราคาค่าตัว 19 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2001 โดยอดีตดาวยิงชาวดัตช์รายนี้ กระหน่ำไปถึง 150 ประตู จาก 219 เกม พร้อมกับพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย ก่อนจะปล่อยให้กับ เรอัล มาดริด ในปี 2006

เรเน่ มิวเลนส์สตีน อดีตโค้ช แมนฯ ยูไนเต็ด จดจำได้เป็นอย่างดีว่า ฟาน นิสเตลรอย เป็นผู้เล่นที่มุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ และมักจะมองหาความได้เปรียบเหนือคู่ต่อสู้อยู่เสมอทั้งในสนามซ้อม และการแข่งขันจริง ซึ่งเป็นจุดสำคัญสำหรับนักฟุตบอล

มิวเลนส์สตีน เล่าว่า “ผมพูดกับ รุด ว่า ฝ่ายตรงข้ามจะเริ่มวิเคราะห์คุณ และเข้าถึงแนวทางการเล่นของคุณได้ ดังนั้น บางครั้งในเกมคุณต้องใช้สัมผัสพิเศษนั้นเพื่อเปลี่ยนมุมในการจบสกอร์ของคุณ เราทำงานกันค่อนข้างเยอะในเรื่องนี้ เขามีสมาธิ และมีระเบียบวินัย พยายามปรับแนวทางการเล่นของเขาให้ดีขึ้นเสมอ”

2. ความสมบูรณ์แบบ

Casemiro, Ruud van Nistelrooy
Manchester United Training Session And Press Conference - UEFA Europa League 2024/25 League Phase / Alex Livesey/GettyImages

ฟาน นิสเตลรอย เริ่มต้นจากการเป็นโค้ชในอคาเดมี่ของ พีเอสวี หลังจากแขวนสตั๊ดกับ มาลาก้า ในปี 2012 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่ในปี 2022 ก่อนจะลาออกในปี 2023 หลังจากพาทีมคว้าแชมป์ ดัตช์ คัพ และจบอันดับ 2 ในศึก เอเรดิวิซี่

ตำนานกองหน้าชาวดัตช์ ได้รับข้อเสนอมากมาย แต่เจ้าตัวปฏิเสธเนื่องจากต้องการใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อเรียนรู้จากโค้ชคนอื่นๆ ทั่วโลกที่สโมสรต่างๆ เช่น เรอัล มาดริด ที่สเปน และ 2 สโมสรดังที่อาร์เจนตินา อย่าง โบคา จูเนียร์ส และ ริเวอร์ เพลท

มาร์เซล ฟาน เดอร์ คราน บรรณาธิการกีฬาของหนังสือพิมพ์ดัตช์ De Telegraaf กล่าวว่า “เขาไม่ใช่คนหยิ่งผยอง เขาไม่หยิ่งเลย เขาต้องการสะท้อนความคิดของตัวเองออกมาจากการเดินตามเส้นทางฟุตบอลในฝันของเขา เขาได้ไปดูเกมสำคัญ ๆ หลายเกม เขาพูดคุยกับ มาร์ติน เดมิเคลิส ผู้จัดการทีม ริเวอร์เพลท เป็นเวลาหลายชั่วโมงเกี่ยวกับการฝึกสอน"

“เขายังพยายามไปสัมผัสกับวัฒนธรรมฟุตบอลของแต่ละที่ด้วย เขาบอกผมว่าเขาเดินผ่านลา โบกา ในเมืองบัวโนสไอเรส และเห็นภาพวาดของ ดิเอโก มาราโดนา บนผนัง ซึ่งเป็นการยกย่องตำนานอาร์เจนตินาที่เสียชีวิตไป เขาบอกว่าหากคุณต้องการเข้าถึงคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคุณจำเป็นต้องทราบถึงวัฒนธรรมและจิตวัญญาณของพื้นที่นั้น ๆ”

“ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มันอาจสำคัญกว่าสโมสรอื่นๆ ในอังกฤษที่คุณต้องรู้จักวัฒนธรรมของสโมสร และพื้นที่ต่างๆรอบสโมสร และ รุด ก็รู้ทุกอย่าง”

3. การให้โอกาสนักเตะเยาวชน

Ruud van Nistelrooy, Cody Gakpo
FC Zürich v PSV Eindhoven: Group A - UEFA Europa League / Eurasia Sport Images/GettyImages

ฟาน นิสเตลรอย มีส่วนในการปลุกปั้น 2 ซุเปอร์สตาร์ พรีเมียร์ลีก อย่าง โนนี่ มาดูเก้ ปีก เชลซี และ โคดี้ กักโป หัวหอก ลิเวอร์พูล รวมถึงดาวรุ่งมากพรสวรรค์อย่าง ชาบี ซิมอนส์ กองกลาง แอร์เบ ไลป์ซิก ในสมัยที่เขายังคุม พีเอสวี

ฟาน เดอร์ คราน อธิบายว่า “สไตล์การเล่นของเขาจริงจังมาก มันไม่ใช่ทีมไร้ประสบการณ์ ผมจะไม่บอกว่ามันเป็นการเล่นเกมรุกที่ดีที่สุด แต่ทีมของเขาพร้อมลงโทษคุณเสมอเมื่อมีโอกาส เขาเป็นโค้ชที่มีความสุขกับการพัฒนานักเตะมากกว่าการคว้าถ้วยรางวัล”

“อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้ช่วยพังทลายลง เพราะเขายึดมั่นในหลักการของตัวเอง”

4. ต้องการทำให้สโมสรดีขึ้น

Ruud van Nistelrooy
Manchester United v Leicester City - Carabao Cup Fourth Round / Eurasia Sport Images/GettyImages

สำหรับ ฟาน นิสเตลรอย ยังคงมีความรู้สึกว่า งานของตัวเองกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เสร็จสิ้น หลังอำลาทีมไปเมื่อปี 2006 โดยเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2011 ว่า “ผมไม่ได้เล่นในรอบชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ ปี 2006 ผมไม่ได้ลงสนามเลยด้วยซ้ำ และนั่นเป็นช่วงเวลาที่น่าผิดหวังสำหรับผม”

“แอนดี้ โคล และ ดไวท์ ยอร์ค พูดกับผมเสมอว่า ฟังนะ ขอให้สนุกกับเวลาของคุณที่นี่ เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งเราอาจต้องย้ายออกไป ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องย้ายออกไป แต่ช่วงหลังผมก็อยู่บนม้านั่งสำรอง และเมื่อสโมสรอย่าง มาดริด ติดต่อมา คุณคงไม่ต้องคิดซ้ำเลย”

ฟาน นิสเตลรอย ที่เกือบจะรับงาน เบิร์นลีย์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นั้นตัดสินใจกลับมายัง แมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานะสตาฟฟ์โค้ช โดย ฟาน เดอร์ คราน กล่าวว่า “ตอนที่เขากลับไปยัง แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาไม่เคยกลับไปด้วยความคิดที่จะรับช่วงต่อจาก เอริค เทน ฮาก”

“เขากลับไปที่นั่นเพราะความรักที่แท้จริง เขาไม่ใช่นักฉวยโอกาส เขาแค่อยากปรับปรุงสโมสรให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่”


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของ แมนยู ได้ที่นี่

feed