วิเคราะห์ความเป็นไปได้ 5 ทางเลือกกุนซือคนต่อไปทีมชาติอังกฤษ - OPINION
- ทีมชาติอังกฤษยังไม่มีกุนซือถาวรคนใหม่
- ปัจจุบัน ลี คาร์สลีย์ รับหน้าที่กุนซือชั่วคราวขัดตาทัพไปจนถึงสิ้นปี
- 5 ตัวเลือกเหล่านี้มีความเป็นไปได้ในการเข้ามาคุมทัพ “สิงโตคำราม” เป็นรายต่อไป
โดย Navapun Munarsa
มันเป็นเวลากว่า 3 เดือนที่แล้วทีมชาติอังกฤษยังมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่หลังจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ประกาศอำลาทีม ซึ่งพวกเขาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการแต่งตั้ง ลี คาร์สลีย์ หัวหน้าโค้ชชุด U-21 ขึ้นมารับหน้าที่เป็นการชั่วคราว
ตามกำหนดเดิม คาร์สลีย์ จะจบภารกิจขัดตาทัพในเดือนพฤษจิกายนนี้ และ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ก็ต้องหากุนซือคนใหม่เข้นมารับช่วงต่อ และนี่คือ 5 ทางเลือกที่เป็นไปได้กับตำแหน่งนายใหญ่ “สิงโตคำราม”
1. ลี คาร์สลีย์
โอกาสของ คาร์สลีย์ ที่จะได้งานถาวรคงถูกวิเคราะห์จากผู้มีอำนาจอย่างหนักหลังจากที่คุมทีมชนะรวด 3 เกมแรก ก่อนจะพ่าย กรีซ คาบ้านแบบสุดช็อก 1-2 ในเกม ยูฟา เนชันส์ ลีก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่แก้ตัวได้ในเกมล่าสุดที่บุกไปทุบ ฟินแลนด์ 3-1
ย้อนไปในเกมกับ กรีซ โค้ชวัย 50 ปี พยายามลองแท็คติคใหม่ด้วยการไม่ใช้กองหน้าตัวเป้า และใช้มิดฟิลด์ 6 ราย โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม จอมทัพ เรอัล มาดริด ยืนเป็น ฟอลส์ไนน์ แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ดีนัก ซึ่งทำให้ คาร์สลีย์ โดนแฟนบอลวิจารณ์อย่างหนัก
ขณะเดียวกัน คาร์สลีย์ ก็ยืนยันว่า ไม่พร้อมรับงานเป็นการถาวร และเตรียมจะกลับไปคุมทีมชุด ยู-21 ตามเดิม หลังเสร็จภารกิจในเดือนพฤศจิกายน โดยให้สัมภาษณ์ว่า “หน้าที่ของผมชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น ผมจะทำงานกับการเก็บตัว 3 ครั้ง”
2. เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ยอดกุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงความชัดเจนว่าเขาตั้งใจที่จะคุมทีมระดับนานาชาติในอนาคต โดยเจ้าตัวกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า “ผมอยากคุมทีมชาติเพื่อเล่นในศึก ฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป”
สัญญาของ กวาร์ดิโอล่า กับ แมนฯซิตี้ จะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล และยังไม่มีการประกาศเกี่ยวกับอนาคตของเขา โดยฝั่ง “เรือใบสีฟ้า” กระตือรือร้นที่จะขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไป แต่การที่เพื่อนสนิทอย่าง ซิกิ เบกิริสไตน์ ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการในช่วงซัมเมอร์หน้าก็ทำให้ทุกอย่างไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า อาจมองว่า นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเองที่จะโบกมือลา แมนฯซิตี้ หลังจากประสบความสำเร็จมามากมาย แต่ เอฟเอ จะยื่นข้อเสนอที่ดีพอให้เขาพิจารณาหรือไม่
3. เอ็ดดี้ ฮาว
ฮาว คือ โค้ชชาวอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในรายชื่อตัวเลือกกุนซือคนใหม่ “สิงโตคำราม” และได้รับคะแนนโหวตจากแฟนบอลถึง 19% และ นิวคาสเซิล ก็รู้ถึงกระแสดังกล่าวเป็นอย่างดีพร้อมกับจับ กุนซือ วัย 46 ปี ขยายสัญญาระยะยาวออกไป
นับตั้งแต่เข้ามาคุม นิวคาสเซิล เมื่อปี 2021 ฮาว ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจด้วยการพาทีมจบอันดับ 4 ใน พรีเมียร์ลีก และได้รับคำชื่นชมมากมายว่า ทำให้พลพรรค “สาลิกาดง” เล่นฟุตบอลได้สวยงาม แต่ภาพรวมในปีนี้อาจยังดูไม่ดีนัก
ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่า ฮาว ยังคงโฟกัสกับการทำงานใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค ต่อไป โดยระบุหลังขยายสัญญาเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า “ตราบใดที่ผมมีความสุข และรู้สึกได้รับการสนับสนุน และรู้สึกอิสระที่จะทำงานที่ผมชอบที่ นิวคาสเซิล ผมก็มีความสุขมาก”
4. เกรแฮม พอตเตอร์
อดีตนายใหญ่ เชลซี และ ไบรท์ตัน มีคุณสมบัติตรงตามที่ เอฟเอ ต้องการหลายข้อ อาทิ เป็นคนอังกฤษ, ทำทีมเล่นฟุตบอลเกมรุก และพร้อมเซ็นสัญญาทันที โดยปัจจุบัน พอตเตอร์ ว่างงานหลังอำลา สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเดือนเมษายน 2023
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า กุนซือวัย 49 ปี จะยอมรับว่าชอบทำงานในระดับสโมสรที่ได้คุมทีมทุกวันมากกว่า แต่ในการให้สัมภาษณ์ พอตเตอร์ ก็อธิบายว่า เปิดกว้างสำหรับการคุมทีมทั้งในระดับสโมสร และระดับนานาชาติหากมีข้อเสนอที่เหมาะสม
พอตเตอร์ กล่าวถึงการคุมทีมชาติอังกฤษว่า “ในฐานะคนอังกฤษ แน่นอนว่ามันเป็นงานที่ยอดเยี่ยม แต่ผมสนับสนุนทุกสิ่งที่ เอฟเอ ตัดสินใจทำ และไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นโค้ช ผมคิดว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม และผมมั่นใจว่า ลี คาร์สลีย์ ก็ทำงานได้ดีไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนานแค่ไหน แต่ผมก็เปิดกว้างเช่นกัน"
5. โธมัส ทูเคิล
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, ปารีส แซงต์ แชรก์แมง และ เชลซี คือ สโมสรชั้นนำที่ ทูเคิล เคยคุมมาทั้งหมด และแน่นอนว่า ความสามารถ ชื่อชั้น รวมถึงบารมีของเจ้าตัวก็เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเข้ามารับงานสำคัญกับตำแหน่งนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ ทูเคิล เป็นชาวเยอรมันที่อาจไม่ได้การยอมรับจากแฟนบอลเมืองผู้ดีเท่าที่ควร และเขามักมีปัญหาไม่ลงรอยกับบอร์ดบริหารอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ เอฟเอ ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบหากเลือก เทรนเนอร์รายนี้มาคุมทีม