โอกาสทองของ ลิเวอร์พูล ที่ต้องคว้าไว้ให้ได้ของ ดาร์วิน นูนเญซ - OPINION

ฟอร์มของ ดาร์วิน นูเญซ กับ ลิเวอร์พูล นั้นเต็มไปด้วยจังหวะขึ้นลงที่น่าติดตาม แต่ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เนอ ชล็อต กองหน้าชาวอุรุกวัยกำลังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก นัดล่าสุดที่เขาซัดประตูชัยพาทีมเอาชนะ ไลป์ซิก ณ เรดบูลล์ อารีน่า ได้สำเร็จ

แม้จะเป็นเพียงประตูที่ 2 ในฤดูกาลนี้ แต่การโฉบเข้าไปจิ้มลูกโหม่งของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณนักล่าประตูที่เฉียบคม ต่างจากภาพลักษณ์ที่หลายคนมองว่า เขามักพลาดโอกาสง่าย ๆ อยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ เมอร์ซีย์ไซด์

ตลอดการค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล นั้น นูนเญซ ทำไปแล้ว 35 ประตู ซึ่งหลายลูกเป็นประตูที่สวยงามและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการยิง 2 ประตูใส่ สปาร์ตา ปราก ลูกยิงโค้งสุดสวยใส่ บอร์นมัธ หรือการจบสกอร์อันยอดเยี่ยมใส่ นิวคาสเซิล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นกองหน้าที่มีพรสวรรค์และความสามารถสูงขนาดไหน

แม้ว่าการออกสตาร์ทซีซันใหม่นี้จะทำให้เขาตำไปเป็นตัวสำรอง แต่ในช่วงที่ ดิโอโก้ โชต้า ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ซี่โครง นี่คือโอกาสทองของ นูนเญซ ที่จะพิสูจน์ตัวเองและยึดตำแหน่งตัวจริง  ซึ่งการทำประตูง่าย ๆ แบบเกมล่าสุด คือสิ่งที่เขาต้องทำให้ได้บ่อยขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจจากทีม

อาร์เนอ ชล็อต เองแม้จะไม่ได้กล่าวชื่นชม นูนเญซ มากนักหลังจบเกม แต่ก็ยอมรับถึงผลงานที่แข็งแกร่งของเขา โดยเฉพาะการต่อกรกับกองหลัง ไลป์ซิก การเล่นเกมรับ และการครองบอล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าชัยชนะได้

นอกจากประตูชัยแล้ว ผลงานโดยรวมของกองหน้าชาวอุรุกวัยในเกมนี้ก็น่าประทับใจ เขาน่าจะได้จุดโทษจากจังหวะที่ถูก วิลลี ออร์บัน ทำฟาวล์ และยังมีโอกาสทำประตูจากลูกโหม่งที่ถูก ปีเตอร์ กูลาซซี เซฟไว้ได้อย่างสวยงาม

การพัฒนาการเล่นเกมรับและการเชื่อมเกมของ นูนเญซ เด่นชัดในเกมเอาชนะ เชลซี 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาทำงานหนักและสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง กัคโป และ ซาลาห์ ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะไม่ได้รับโอกาสยิงประตูมากนักในระบบของ ชล็อต  แต่ก็แสดงให้เห็นว่าสามารถปรับตัวและพัฒนาฝีเท้าในการเล่นเป็นทีมได้

สำหรับเกมสุดสัปดาห์นี้ที่จะพบกับ อาร์เซนอล ที่ขาด วิลเลียม ซาลิบา แนวรับคนสำคัญ นูนเญซ ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีน่าจะเป็นความหวังสำคัญของ ลิเวอร์พูล ในการเก็บ 3 แต้มเพื่อทิ้งห่างคู่แข่งลุ้นแชมป์ออกไปเป็น 7 คะแนน ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเขาเองว่าจะคว้าโอกาสทองนี้ไว้ได้หรือไม่

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม ลิเวอร์พูล ได้ที่นี่