ตัดเกรดนักเตะทีมชาติ อังกฤษ นัดเปิดรังถล่ม ไอร์แลนด์ 5-0 ผ่านเข้ารอบพร้อมเลื่อนชั้นสู่ลีก เอ : Player Ratings

  • อังกฤษ เปิดรัง เวมบลีย์ ถล่ม ไอร์แลนด์ ไป 5-0
  • เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม โดยไม่ต้องไปลุ้นเตะเพลย์ออฟให้ปวดหัว
  • ฤดูกาลหน้าจะได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีก เอ ของ เนชั่นลีกส์
England v Republic of Ireland - UEFA Nations League 2024/25 League B Group B2
England v Republic of Ireland - UEFA Nations League 2024/25 League B Group B2 / Alex Pantling/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ

ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กรุ๊ป 2 นัดที่ 6

วันแข่งขัน

คืนวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567

สนาม

เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

ผลการแข่งขัน

อังกฤษ 5-0 ไอร์แลนด์

ทีมชาติ อังกฤษ ตบเท้าเข้าสู่รอบถัดไปของ ยูฟ่า เนชั่นลีกส์ ในฐะนาจ่าฝูงของกลุ่มหลังเปิดบ้านถล่ม ไอร์แลนด์ ไปได้ 5-0 โดยเป็นเกมที่ทัพ สิงโตคำราม แทบจะดาหน้าบุกอยู่ฝ่ายเดียวด้วยชื่อชั้นและคุณภาพนักเตะที่ต่างกันพอสมควร

ครึ่งแรก อังกฤษ เจอความยากลำบากไม่น้อยในการเจาะเกมรับของ ไอร์แลนด์ ที่ลงไปรับลึกจนแทบไม่เปิดช่องว่างให้ได้โจมตี ก่อนจะมากุมความได้เปรียบหลัง เลียม สเกลส์ โดนใบแดงไล่ออกไปในช่วงครึ่งหลังแล้วมาได้ประตูขึ้นนำจากจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน เบิกสกอร์ให้ทีมคลายความกดดันสำเร็จ

หลังจากนั้น อังกฤษ มายิงรัวอีก 4 ลูกรวดจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ ขยับช่องว่างผลต่างประตูระหว่างอันดับ 2 อย่างทีมชาติ กรีซ ไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายผ่านเข้ารอบไปในฐานะแชมป์กลุ่มพร้อมเลื่อนชั้นกลับสู่ลีก เอ ในซีซันหน้า

คะแนนนักเตะ อังกฤษ

จอร์แดน พิคฟอร์ด - 7/10

แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยในเกมนี้ เพราะ อังกฤษ เป็นฝ่ายบุกยิงอยู่ฝ่ายเดียว มีจังหวะเซฟ 1 ครั้งซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ติโน่ ลิฟราเมนโต้ - 6.5/10

ฟอร์มยังไม่เข้าเป้าสักเท่าไร มีจังหวะเติมขึ้นไปช่วยเกมรุกทางกราบขวาหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถสร้างความอันตรายในพื้นที่สุดท้ายได้ โดยเฉพาะจังหวะครอสบอลที่ยังไม่แม่น

ไคล์ วอร์คเกอร์ - 6.5/10

ช่วงต้นเกมมีจังหวะเติมขึ้นไปโขกถึง 2 หนแต่ไม่ตรงกรอบ นอกจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากทำเกมโดยการสาดบอลจากแนวลึก

มาร์ค เกฮี -7.5/10

เป็นตัวคอยวางบอลยาวจากแดนหลังให้เหล่าตัวรุกเอาไปเล่น ได้มา 1 แอสซิสต์ในวันนี้จากจังหวะเตะมุมแล้วโหม่งเช็ดให้ กัลลาเกอร์ ยิงเข้าไปจ่อ ๆ

ลูอิส ฮอลล์ -7.5/10

เทียบกับแบ็คอีกฝั่งแล้ว ลูอิส ฮอลล์ มีส่วนร่วมกับเกมมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด วันนี้กล้าพาบอลเลี้ยงตะลุยผ่านคู่แข่งหลายครั้ง เกมรับก็เล่นดีไม่มีข้อผิดพลาด ลูกเปิดบอลก็แม่นกว่า

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - 8/10

เข้าถึงบอลก่อนคู่แข่งเสมอ ทำให้แดนกลางของ อังกฤษ วันนี้ไม่ยวบ คอยเอาบอลที่หลุดมาจากแดนหน้าเปลี่ยนเป็นเกมรุกต่อได้อย่างลื่นไหล แถมทำประตูแรกในนามทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่ได้ด้วย

เคอร์ติส โจนส์ - 6.5/10

หลังนัดที่แล้วโชว์ฟอร์มแจ๋วยิงไป 1 ประตู นัดนี้ โจนส์ ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมในการทำเกมสักเท่าไร หน้าที่รุกและรับส่วนใหญ่เป็นของ กัลลาเกอร์ ไปซะหมด

โนนี่ มาดูเอเก้ - 8/10

แม้จะมีขาด ๆ เกิน ๆ ไปหลายจังหวะ แต่โดยรวม มาดูเอเก้ วันนี้สร้างความเดือดร้อนให้แนวรับของ ไอร์แลนด์ ได้ไม่น้อย โดยเจ้าตัวใช้ความสามารถเฉพาะตัวไถเข้าไปในกรอบเขตโทษได้หลายครั้ง และยังทำสถิติครอสบอลคนเดียวไปถึง 8 ครั้ง

จู๊ด เบลลิ่งแฮม 9/10

ช่วงครึ่งแรกโชว์ฟอร์มไม่ค่อยออก ส่วนครึ่งหลังกลับมาเป็นคนละคน เรียกฟาล์วให้ทีมได้มากถึง 3 ครั้ง และยังหาโอกาสสับไกยิงได้ถึง 4 ครั้ง ครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น และมีส่วนสำคัญทำ 2 แอสซิสต์ให้ อังกฤษ ได้ประตู

แอนโธนี กอร์ดอน - 7.5/10

เอาจริง ๆ ฟอร์มการทำเกมและลากเลื้อยยังไม่ค่อยน่าประทับใจ แต่มาได้จังหวะยิงประตูทิ้งห่างที่ทำให้ฟอร์มดูโดดเด่นขึ้นมา

แฮร์รี่ เคน - 7/10

คุณภาพในกรอบเขตโทษยังไม่เฉียบขาดขนาดนั้น แต่ต้องชมว่าสามารถยิงจุดโทษได้อย่างแม่นยำ และยังมีประโยชน์มาก ๆ ในการถอยตัวลงมาทำเกมให้เพื่อนสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษ

ตัวสำรอง

เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส - (แทน ไคล์ วอร์คเกอร์ น. 62') - 7/10

ลงมาโขกเบิกสกอร์แรกในฐานะนักเตะ อังกฤษ ชุดใหญ่ได้สำเร็จ

มอร์แกน โรเจอร์ส - (แทน แอนโธนี กอร์ดอน น. 75') - 6.5/10

มีจังหวะสัมผัสบอลแรกได้อย่างแม่นยำแล้วส่งต่อให้เพื่อนได้ยิงแบบงาม ๆ แต่ไม่เป็นประตู

จาร์รอด โบเวน - (แทน โนนี่ มาดูเอเก้ น. 75') - 7.5/10

มีเวลาเล่นเพียงราว ๆ 15 นาทีแต่สามารถทำประตูได้ตั้งแต่สัมผัสบอลแรก หลังจากนั้นก็หาโอกาสยิงให้ตัวเองได้หลายครั้ง และยังสร้างสรรค์โอกาสทองให้เพื่อนได้ด้วย

โดมินิค โซลันกี้ - (แทน คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น. 75') - 6/10

มีจังหวะได้วิ่งชาร์จสับไกยิงแต่บอลหลุดกรอบ

อังเจล โกเมส - (แทน เคอร์ติส โจนส์ น. 79') - N/A