ตัดเกรดนักเตะ แมนซิตี้ ไร้ชัย 6 นัดติดต่อกัน หลังเสมอ เฟเยนูร์ด 3-3 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก : Player Ratings

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่างถึง 3-0 แต่สุดท้ายโดน เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ตามตีเสมอ 3-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
  • จบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนจาก 5 เกม หล่นไปอยู่อันดับ 15
  • นัดต่อไป แมนฯ ซิตี้ จะออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีก
UEFA Champions League 2024/25 League Phase MD5Manchester City FC v Feyenoord Rotterdam
UEFA Champions League 2024/25 League Phase MD5Manchester City FC v Feyenoord Rotterdam / ANP/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟส

วันแข่งขัน

วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567

สนาม

เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผลการแข่งขัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-3 เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมือนจะหยุดสถิติห่วยแพ้ติดต่อกันมา 5 นัด เมื่อนำห่างถึง 3-0 แต่สุดท้ายโดน เฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ตามตีเสมอ 3-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

"เรือใบสีฟ้า" นำขาดถึง 3-0 จากจุดโทษของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ นาทีที่ 44 จากนั้นครึ่งหลัง อิลคาย กุนโดกัน บวกสกอร์เพิ่มนาทีที่ 50 แล้วก็เป็น ฮาแลนด์ เบิ้ลอีกลูกนาทีที่ 53

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ช็อตเอาดื้อ ๆ โดนยิงคืนสามลูกรวดจาก อานิส ฮัดจ์ มุสซ่า นาทีที่ 75, ซานติอาโก้ กิเมเนซ นาที 82 และก็เป็น ดาวิด ฮันค์โก้ ยิงตีเสมอนาที 89

จบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 8 คะแนนจาก 5 เกม หล่นไปอยู่อันดับ 15 ส่วน เฟเยนูร์ด มีเพิ่ม 7 แต้ม อยู่ที่ 20


คะแนนนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เอแดร์ซอน – 4

บอลคืนหลังของ กวาร์ดิโอล ยากเกินกว่าที่เขาจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้จนเสียประตูตีไข่แตก ประตูที่สองควรปิดเสาแรกให้ดีกว่านี้ ส่วนประตูที่สามก็ออกมาจั่วลมอีก

ริโก้ ลูอิส – 5

ขยับเข้าไปช่วยกองกลางเมื่อทีมเป็นฝ่ายครองบอลและมีส่วนสำคัญในการบิลด์อัพของ แมนฯ ซิตี้ ตลอดช่วงเกม อย่างไรก็ตามเขาก็มีส่วนทำให้ทีมเสียประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกม

มานูเอล อคานจี – 5

มีจังหวะเสียสมาธิไปบ้าง แต่การจ่ายบอลยังเป็นจุดเด่นของเจ้าตัว ซึ่งฝากสถิติผ่านบอลมากที่สุดในเกมด้วยจำนวน 81 ครั้ง

นาธาน อาเก้ – 6

น่าจะดูดีที่สุดในแผงเกมรับของทีม เข้าสกัดบอลได้ดี จ่ายบอลแม่นยำมากถึง 97% แต่หลังจากโดนเปลี่ยนตัวออก ทีมก็มาเสีย 3 ประตูเลย

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – 4

ยังเมาค้างจากเกมก่อนอยู่เลย ผิดพลาดแบบเต็ม ๆ กับประตูแรกที่จ่ายคืนหลังไม่ดี ประตูที่สามก็ลงไปช่วยเกมรับไม่ทันอีก น่าห่วงว่าเกมเจอ ลิเวอร์พูล ปัญหาความมั่นใจแบบนี้จะยังได้ลงตัวจริงอีกหรือไม่

อิลคาย กุนโดกัน – 6

พอมีพลังงานจาก นูเนส กับ แบร์นาร์โด้ มาช่วยแดนกลาง ทำให้เขางานเบาขึ้นเยอะเลย แต่เกมรับของ กุนโดกัน ยังเป็นปัญหาสำหรับเจ้าตัวอยู่ดี แม้ว่าจะยิงประตูได้ก็ตาม

มาเตอุส นูเนส – 7

นี่เป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของ นูเนส การเคลื่อนไหวและความสามารถในการเจาะแนวรับถือเป็นปัจจัยสำคัญ จังหวะในการวิ่งทะลุเกมรับทีมเยือนพร้อมทำแอสซิสต์ให้ ฮาแลนด์ ยิงประตูที่สองของตัวเอง ขอยกนิ้วให้เลย

ฟิล โฟเด้น – 6

พยายามสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม คอยป้อนอยู่ด้านหลัง ฮาแลนด์ อันตรายมาก ๆ เมื่อมีบอลอยู่กับตัว แล้วก็เกือบจะทำประตูได้หลายครั้ง แต่สุดท้ายหมดโอกาสเพราะโดนเปลี่ยนตัวเมื่อทีมนำขาด

แบร์นาร์โด้ ซิลวา – 7

เพรสซิ่งสูงให้ เฟเยนูร์ด ตั้งเกมได้ยาก และคอยแย่งบอลจากตำแหน่งที่ได้เปรียบหลายครั้ง เสียดายที่ไม่มีแอสซิสต์ติดตัวในเกมนี้

แจ็ค กรีลิช – 6

พลาดโอกาสทองที่จะทำให้ทีมนำห่าง 4-0 ทำได้ดีเมื่อบอลอยู่กับตัว เพราะคอยดึงแนวรับทีมเยือน สร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมเล่นได้ง่ายขึ้น

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ – 8

แก้ตัวจากนัดก่อน ๆ ที่ปืนฝืดด้วยการเหมาคนเดียว 2 ประตู น่าจะทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำหากไม่ชนเสา ตอนนี้ทำไปแล้ว 17 ประตูรวมทุกรายการ


ตัวสำรอง

จาห์ไม ซิมป์สัน-พูซีย์ (แทน อาเก้ น. 68') – 4

ประสบการณ์สำคัญมาก ๆ ในเกมที่กดดันแบบนี้ นอกจากเกมรับที่ไม่ได้ช่วยอะไรมากแล้ว การขึ้นเกมก็ดูติดขัดอีก

เควิน เดอ บรอยน์ (แทน โฟเด้น น. 69') – 6

เหมือนลงมาเพื่อสร้างความฟิตก่อนเกมเจอ ลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายโดนเซอร์ไพรส์จากคู่แข่งยิงคืน 3 ลูก

เจมส์ แม็คอาที (แทน กุนโดกัน น. 69') – 5

ลงมาแล้วก็ไม่ได้มีอิมแพ็คในแดนกลางมากนัก แถมโดนใบเหลืองอีก


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม แมนฯ ซิตี้ ได้ที่นี่

feed