บอร์นมัธ 2 – 0 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ ประเดิมพ่ายเกมแรกในฤดูกาลนี้
• อาร์เซนอล โดนใบแดงเป็นครั้งที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
• วิลเลี่ยม ซาลิบา โดนใบแดงเป็นครั้งแรกในชีวิตการเล่นฟุตบอลอาชีพ
อาร์เซนอล ถูกยัดเยียดความปราชัยเป็นครั้งแรกใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ หลังจากเหลือสิบคนนานถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ก่อนจะพลาดท่าเสียประตูในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ขณะที่ บอร์นมัธ คว้าสามคะแนนได้ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมและเป็นการเอาชนะ ปืนใหญ่ ได้เป็นหนแรกในรอบกว่า 6 ปี
รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ลีก 2024/25
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2024
สนามแข่งขัน : ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : บอร์นมัธ 2 - 0 อาร์เซนอล
30 นาทีที่น่าอึดอัดใจ
อาร์เซนอล ลงเล่นเกมนี้ ด้วยความคาดหวังว่าจะจบเกมด้วยชัยชนะ แต่เกมนี้มันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเขาตั้งแต่นาทีแรกที่พวกเขาเจอฟุตบอลของเจ้าบ้าน ชวนเล่นเร็วตั้งแต่แรก เพรสซิ่งกดดันอย่างหนักแถมเจ้าถิ่นยังเล่นได้อย่างมีวินัยในเกมรับ จน อาร์เซนอล ไม่ได้เล่นในจังหวะของตัวเองเท่าไรนัก ด้านทีมเยือนพยายามเอาคืนด้วยการเล่นเพรสซิ่งคืน ซึ่งก็ทำให้เกมออกมาเป็นการสู้กันที่กลางสนามเสียส่วนใหญ่ บอลอาจจะตั้งเกมได้ในแดนตนเอง แต่พอเข้าแดนคู่แข่งไปก็โดนไล่บีบหนักจนเสียการครองบอล การเล่นริมเส้นด้านข้างของ อาร์เซนอล ในวันนี้ไม่มีประสิทธิภาพมากพอแม้จะมีผู้เล่น 11 คนเท่ากันก็ตาม
“Personal Error”
ความผิดพลาดของส่วนตัวของผู้เล่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่สำหรับ อาร์เซนอล พวกเขาเกิด “Personal Error” ขั้นร้ายแรงถึงสองครั้ง และมันส่งให้พวกเขาพ่ายแพ้ในเกมนี้
ความผิดพลาดจากการออกบอลคืนหลังที่ไม่ละเอียดของ ทรอสซาร์ นำมาซึ่งการตัดสินใจครั้งสำคัญของ ซาลิบา ในการเลือกหยุด เอวานิลซอน ที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าตนเอง และกลายเป็นการเสียฟาลว์ แถม VAR กลับมารีวิว พร้อมการไปดูภาพรีเพลย์อีกครั้งของผู้ตัดสินในสนาม สุดท้ายกลายเป็นใบแดงโดยตรง และนี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมอย่างแท้จริง เพราะ อาร์เซนอล เสียโมเมนตัมของเกมไปจากการเหลือผู้เล่นที่น้อยกว่า ขณะที่ “Personal Error” ที่สองของเกมคือความผิดพลาดของ ยาคุบ คิวิออร์ ที่ออกบอลสั้นเกินไป และ เอวานิลสัน คนเดิมที่ถึงบอลก่อน สุดท้ายเป็น ดาบิด ราย่า ออกมาตัดพลาดเป็นการฟาวล์กลายเป็นจุดโทษที่ฝังกลบโอกาสในการกลับมามีคะแนนของทีมไปในที่สุด
เกมนี้ เอวานิลสัน อาจจะไม่โดดเด่นเท่ากับ อ็องตวน เซเมนโย หรืออีกหลายคนในทีม แต่สองจังหวะสำคัญมากในเกมนี้ของเขากลายเป็นจังหวะชี้เป็นชี้ตายและตัดสินผลการแข่งขัน
What if ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจาก “Personal Error” ของเจ้าบ้าน
อาร์เซนอล ในเกมนี้มีโอกาสยิง 4 ครั้ง และหนึ่งในนั้นคือในช่วงกลางครึ่งหลังที่สกอร์ยังคง 0-0 และเกิดจาก “Personal Error” ของ เกปา อาร์ริซาลาบากา นายทวารทีมเจ้าบ้านที่ออกบอลพลาด และ มาร์ติเนลลี่ ได้ยิงเน้น ๆ แต่ไม่เฉียบขาดมากพอและยิงไปติดนายด่านชาวสเปน นี่ก็เป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญอีกจุดที่ทำให้รูปเกม 10 คนของ อาร์เซนอล ไม่สามารถชิงความได้เปรียบในผลการแข่งขันได้ ก่อนที่ตนเองจะผิดพลาดและพ่ายแพ้ไปในที่สุด
ลูกตั้งเตะทีเด็ดของเจ้าบ้าน
อาร์เซนอล อาจจะถูกยกย่องว่าเป็นทีมที่เล่นลูกตั้งเตะได้อันตรายในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่สำหรับเกมนี้ บอร์นมัธ เองก็เอาประตูได้จากลูกตั้งเตะเช่นกัน และเป็นการเล่นลูกสูตรที่ทำให้แนวรับทั้งแนวของทีมเยือนไปกองในพื้นที่หกหลาของตัวเอง และเกิดเป็นพื้นว่างบริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนจะเปิดบอลมาถึงจุดนัดพบและส่องเน้น ๆ เข้าไปและกลายเป็นประตูที่สวยงามแบบหมดจด ขณะเดียวกัน อาร์เซนอล มีโอกาส 4 ครั้งจากการเล่นลูกตั้งเตะแต่ทั้งหมดไม่สามารถเปลี่ยนเป็นจังหวะอันตรายได้เลย นั่นก็ต้องยกเครดิตให้แนวรับทีมเจ้าบ้านที่เตรียมตัวมาอย่างดีในเรื่องนี้เช่นกัน
ความใจสู้ของทีมเยือน
สิ่งดีสิ่งเดียวที่ไม่น่าเสียใจในเกมนี้ของ อาร์เซนอล คือ ลูกทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ไม่แสดงถึงการถอดใจแบบที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนเลย พวกเขาเดินหน้าบุกสู้ พยายามอย่างหนักจนกระทั่งจบเกม แม้จะไม่ได้สิ่งที่หวังหลังสิ้นเสียงนกหวีด แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าทีมชุดนี้เติบโตขึ้นในแง่ของหัวจิตหัวใจ ส่วนที่เหลือขึ้นกับว่าพวกเขาจะสร้างผลงานได้ดีแค่ไหนและดีพอต่อการไปถึงความสำเร็จได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันประเด็นการที่โดนใบแดงไปแล้ว 3 ครั้งใน 8 เกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปเน้นย้ำภายในทีมให้มากยิ่งขึ้น เพราะสถิติบ่งชัดว่าสามเกมที่พวกเขาไม่ชนะในลีกปีนี้ ทุกเกมพวกเขาจบเกมแบบไม่ครบ 11 คนทั้งหมด รวมถึงเกมนี้ที่ถูกยัดเยียดความปราชัยเป็นครั้งแรกของฤดูกาล