ไบรท์ตัน 2-3 ลิเวอร์พูล : เก็บตกหลังเกม คาราบาว คัพ นัดหงส์แดงเดินหน้าไปต่อ แถมมีแววทะลุถึงตัดเชือก
• อาร์เน่อ สล็อต จัดสำรองลงโค่น ไบรท์ตัน ถึงที่ 3-2
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกม คาราบาว คัพ แมตช์นี้
รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2024/25 รอบ 4
วันแข่งขัน: พุธ 30 ตุลาคม 2567
สนาม: ดิ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : ไบรท์ตัน 2-3 ลิเวอร์พูล
หงส์กับนางนวล
ที่จริง ตำแหน่งที่ยืนของทั้งสองยังอยู่กันค่อนข้างห่าง ด้วยว่า ไบรท์ตัน & โฮฟ อัลเบี้ยน ยังจัดเป็นทีมดาวรุ่งพุ่งแรง เรื่องประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันยังมาไม่ถึง
แต่ข้อเท็จจริงก็ฟ้องชัด ไบรท์ตัน นี่แหละ "ตัวอันตราย" ของ ลิเวอร์พูล
- 2020/21 เสมอ 1-1, ไบรท์ตันชนะ 1-0
2021/22 เสมอ 2-2, ลิเวอร์พูลชนะ 2-0
2022/23 เสมอ 3-3, ไบรท์ตันชนะ 3-1, ไบรท์ตันชนะ 2-1 (เอฟเอคัพ)
2023/24 เสมอ 2-2, ลิเวอร์พูลชนะ 2-1
ก่อนเกมนี้ เจอกันทั้งหมด 9 ครั้ง (ใน 4 ปี) ลิเวอร์พูล ชนะได้แค่ 2 / ไบรท์ตัน ชนะ 3 / ที่เหลือเสมอกัน 4
เท่ากับไม่ว่าจะเจอกันที่ไหนเมื่อไหร่รายการใด ลิเวอร์พูล ล้วนแต่เจองานไม่ง่ายจาก ไบรท์ตัน ทั้งนั้น
พรึ่บ!
แต่แม้ อาร์เน่อ สล็อต จะรู้อยู่แล้วว่า ไบรท์ตัน เป็นของแข็งประมาทไม่ได้ กระนั้นเมื่อมองหน้าเช็กสภาพลูกทีมแต่ละราย ก็ "เอาวะ เปลี่ยนก็เปลี่ยน"
ปรับกี่คนจากเกมเสมอ อาร์เซน่อล ก็ขี้เกียจนับ แต่เอาเป็นว่าปรับหมดตั้งแต่หลังสุดมาหน้าสุด
ประตู เปิดที่ทางให้จอมหนึบเช็กมือ 3 วิเทสลาฟ ยารอส (23) ลงเฝ้าเสาบ้าง
หลังบ้าน คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ หายเจ็บลงแบ็กขวา เซนเตอร์สลับเป็น โจ โกเมซ - จาเรลล์ ควอนซาห์ และแบ็กซ้ายให้เป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในฐานะกัปตันทีม
แดนกลาง วาตารุ เอ็นโด ได้ลงตัวจริงหนที่ 2 ของซีซั่น ขนาบข้างด้วย เคอร์ติส โจนส์ กับเด็กวัย 21 ไทเลอร์ มอร์ตัน
และข้างหน้า (ที่ตัวเลือกมีไม่มาก) ต้องดัน โดมินิค โซบอสซ์ไล ขึ้นไปยืนหน้าเป้าจำเป็น โดยมี โคดี้ กัคโป กับ หลุยส์ ดิอาซ เป็นซ้ายและขวา ตามลำดับ
เกมนี้ของ CG18
ก็ "ไม่ง่าย" เหมือนที่เป็นมาจริงๆ และ ลิเวอร์พูล ก็ต้องออกแรงหนักเลยทีเดียว กว่าจะโค่น ไบรท์ตัน ลงได้ 3-2
หงส์แดงอาจคุมสถานการณ์ได้บ้างในบางจังหวะ แต่ก็ไม่ตลอดทั้งเกม และ วิเทสลาฟ ยารอส ยังต้องโชว์ความเหนียวหนึบออกมาช่วยเอาไว้ กับจังหวะเข้าทำของทั้ง ทาริค แลมพ์ตี้ย์, ไซม่อน อาดินกร้า หรือใครอื่น
ต้องเป็นครึ่งหลังที่ ลิเวอร์พูล ได้เฮมาเป็นลำดับ ด้วยฟอร์มระดับ "ร่างทอง" ของ CG18 - โคดี้ กัคโป
เปิดครึ่งไปแค่ราวๆ 40 วินาที ด้วยจังหวะจบของถนัด ลากตัดเข้าในแล้วส่องเข้าข้อ (ซึ่งได้ลองมาครั้งนึงแล้วในครึ่งแรก) คราวนี้บอลพุ่งเข้าเสียบเสาสองอย่างยอดเยี่ยม
ให้หลัง เกือบแอสซิสต์ลูก 2-0 จังหวะเดินเกมสวน 3:1 แต่ โซบอสซ์ไล จบไม่ลง
แต่แล้วก็เช็คบิล 2-0 ในนาที 63 ที่ชงเองกินเอง แย่งลูกจากกองหลังแล้วพาขึ้นมากดเปรี้ยงมุดเสาแรกแบบที่ เจสัน สตีล ต้องยอม
แม้จากนั้น ไบรท์ตัน จะโถมเกมสู้จนได้สองประตู (2-1 อาดินกร้า น.81, 3-2 แลมพ์ตี้ย์ น.90) แต่ ลิเวอร์พูล ก็ยิงจบเพิ่มได้ในสกอร์ 3-1 จาก หลุยส์ ดิอาซ น.85 ซึ่งมากเพียงพอที่จะทำให้ชัยชนะตกมาถึงมือพวกเขา
เป็นการสร้างความต่อเนื่องได้สำเร็จ แม้ใช้ทีมชุดสลับสำรองก็ตาม
กัปตันซามูไร
คงไม่ต้องเกริ่นกันอีกแล้วว่าทำไม นักเตะระดับกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น และคนที่ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล 43 นัดซีซั่นก่อน ถึงหลุดเป็นสำรองถาวรของทีมซีซั่นนี้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตลอดชั่วโมงเศษของเกมที่ ดิ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม วานนี้ คงพอสรุปได้ 3 ข้อ
1. คุณภาพของ วาตารุ เอ็นโด ยังยอดเยี่ยม - ยืนตัวต่ำ ตัดเกมฉ่ำ ออกบอลได้ เซนส์บอลสูง มาตรฐานการเล่นของแข้งซามูไรวัย 31 ไม่มีปัญหาอะไรเลย และสนิมก็ไม่เกาะแข้งด้วย แม้นัดนี้จะเพิ่งเป็นเกมที่ 2 ของการลงตัวจริง (และอีก 4 สำรอง)
2. แต่ก็เหมือนจะยังไม่โดนใจเจ้านาย - ถ้าเข้าตา เอ็นโด ต้องอยู่จนจบเกม ถึงไหนถึงกัน เมื่ออย่างไรเสียเกมถัดไป (ไบรท์ตันต่อในลีก) ก็ต้องถอยไปสำรองอยู่แล้ว แต่นี่ยังโดนถอดออกในนาที 64 ให้ เทรย์ เอ็นโยนี่ ลงไปแทน
3. 1+2 = ประตูย้ายออกยังเปิดกว้าง - ตลาดหน้าหนาว ม.ค. ที่จะถึง คงไม่แคล้วที่ เอ็นโด จะโดนปักป้ายขาย ใครก็ตามสามารถทาบทามได้ด้วยราคาสมน้ำสมเนื้อ
โอกาสที่จะพลิกเป็นอื่นไปจากนี้ คือแค่ต้องมีกองกลางคนไหนเจ็บเพิ่ม เท่านั้น
'โซโบ' ในฐาแนะหอกเป้า
เลี่ยงไม่ได้... เมื่อ ดีโอโก้ โชตา บาดเจ็บ และ เฟเดริโก้ เคียซ่า กระดูกเปราะขนาดนั้น
เช่นกัน ดาร์วิน นูนเยซ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ควรถึงเวลาได้พักบ้างไรบ้าง
มันจึงกลายเป็น โดมินิค โซบอสซ์ไล ถูกดันขึ้นไปเล่นหน้าเป้า
ในภาพรวม ไม่ถือว่าขี้เหร่ แต่ในรายละเอียด ก็ชัดเจนว่า โซบอสซ์ไล "ยังไม่ใช่"
โดยเฉพาะโอกาสทองฝังเพชรในนาที 61 ที่ กัคโป เคาะมาให้จบโล่งๆ แล้ว แต่ยิงผ่านนายด่านคู่แข่งไม่สำเร็จ
ไปกันต่อ
การจับสลากรอบ 5 หรือ 8 ทีมสุดท้าย ตามมาให้หลังจากผลการแข่งขันทุกคู่ของรอบ 4 ปรากฏขึ้นไม่นาน
และเลขที่ออกสำหรับหงส์แดงก็คือ...
คุณมีสิทธิ์ได้ไปต่อรอบตัดเชือกสูงมากครับ!
เพราะไม่ใช่ นิวคาสเซิ่ล ไม่ใช่ สเปอร์ส ไม่ใช่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องเป็นคู่แข่งขัดแข้งขัดขา
ลิเวอร์พูล ได้เจอกับ เซาแธมป์ตัน ในรอบถัดไป ซึ่งจะเล่นกันตอนกลางเดือน ธ.ค.
เซาแธมป์ตัน : เตะ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ 9 นัด แพ้ไป 8 พะงาบๆ อยู่ที่ตำแหน่งบ๊วย
ใน คาราบาว คัพ ทีมนักบุญของ รัสเซลล์ มาร์ติน อาจมาได้ถึงรอบ 8 ทีม แต่สองในสามคือการเจอทีมลีกรอง (5-3 คาร์ดิฟฟ์, 3-2 สโต๊ค) และอีกหนึ่งคือชนะ เอฟเวอร์ตัน ด้วยการดวลจุดโทษ (6-5 หลังเสมอ 1-1)
ต่อให้ อาร์เน่อ สล็อต จะปรับส่งสำรองลงเพียบเหมือนวันนี้ ก็ยังดูมีภาษีดีกว่า เซาแธมป์ตัน อยู่นั่นเอง
เพราะฉะนั้น รอบตัดเชือกรออยู่อีกไม่ไกล และต้องเป็นอะไรที่ "พลิกล็อก" เท่านั้น ลิเวอร์พูล ถึงจะหยุดเส้นทางรายการนี้ไว้ที่รอบหน้า