เชลซี 8-0 โนอาห์ : เก็บตกประเด็นหลังเกม สิงห์บลูส์ ยิงไม่ไว้หน้าคู่แข่ง ครองจ่าฝูง คอนเฟอเรนซ์ ลีก ต่อเนื่อง
- เชลซี เปิดบ้านถล่ม โนอาห์ ยับ 8-0 ครองตำแหน่งจ่าฝูง คอนเฟอเรนซ์ ลีก แบบยาว ๆ
- เจา เฟลิกซ์ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู เหมากันไปคนละ 2 ประตู
- นักเตะที่ถูกวิจารณ์อย่าง มูดริก และ เอ็นโซ่ เริ่มกลับมาเข้าร่องเข้ารอยอีกครั้ง
รายการ | ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก 2024/25, รอบ ลีกสเตจ, นัด 3 |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2567 |
สนาม | สแตมฟอร์ด บริดจ์ |
ผลการแข่งขัน | เชลซี 8-0 โนอาห์ |
กองหน้า เชลซี ไม่มีใครยอมใคร
เจา เฟลิกซ์ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่วันนี้ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงสามารถทำประตูให้ เชลซี ได้คนละ 2 ลูก ซึ่งนับเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของประตูที่ทีมเจ้าบ้านชนะไปในวันนี้ โดยถ้ามองในภาพรวมก็อาจจะเป็นเรื่องปกติที่ทีมระดับ เชลซี ควรต้องถล่ม โนอาห์ ให้ขาดลอยอยู่แล้ว แต่หนึ่งประเด็นที่น่าจับตามองคือตอนนี้กองหน้า เชลซี ผลัดกันผลิตสกอร์ได้ทุกคน
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา บรรดาสื่อต่างเล่นข่าวว่า เชลซี ต้องการตัวกองหน้าตัวเป้าตัวจบคม ๆ เช่น วิคเตอร์ โอซิมเฮน เข้ามาแก้ปัญหาของทีม แต่กลายเป็นว่าตอนนี้แทบจะไม่มีใครพูดแล้วว่า เชลซี มีปัญหาในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า เพราะทั้ง เอ็นคุนคู, แจ็คสัน, และ เฟลิกซ์ ต่างผลิตสกอร์ให้ทีมกันได้เป็นกอบเป็นกำ
แม้อาจมีปัญหาในบางจังหวะที่ยังคงจบสกอร์กันไม่เฉียบคมบ้าง แต่การแข่งขันในตำแหน่งกองหน้าของทีม สิงห์บลูส์ ก็มีความดุเดือดมากพอที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า พร้อมจะดร็อปทุกคนเป็นสำรองได้ทุกเมื่อหากทำผลงานได้ไม่ดี และนี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เหล่ากองหน้าต้องขยันเร่งฟอร์มออกมากันสุด ๆ
พัฒนาการของ มิไคโล มูดริก
หลังผ่านมือเหล่าบรรดากุนซือมากหน้าหลายตามาตั้งแต่ย้ายเข้ามาร่วมทัพ เชลซี เมื่อปี 2023 เอ็นโซ่ มาเรสก้า ดูจะเป็นโค้ชคนที่รีดฟอร์ม มูดริก ออกมาได้ดีที่สุดจนถึงตอนนี้
แม้อาจจะยังไม่ถึงขั้นยึดพื้นที่ตัวจริงได้ถาวร แต่ฤดูกาลนี้ มิไคโล มูดริก ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีพัฒนาการก้าวกระโดดขึ้นจากซีซันที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเริ่มตัดสินใจเลือกจังหวะการเล่นได้ดีมากขึ้น เริ่มใช้ทักษะฟุตบอลเข้าไปผสมกับความเร็วที่มีเป็นทุนเดิมได้ลงตัวมากขึ้น และเริ่มมีการสร้างสรรค์เกมได้เป็นประโยชน์กับทีมมากขึ้น โดยเฉพาะในวันนี้ที่ดาวเตะชาว ยูเครน โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมพร้อมทำประตูสุดสวยไปได้อีก 1 ประตู
สิ่งที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ทำไม่ใช่การพยายามยัด มูดริก ลงไปในแผนการเล่นหรือพยายามให้เจ้าตัวได้มีนาทีลงเล่นมากที่สุด แต่เป็นการค่อย ๆ ให้ มูดริก ได้ลงไปสัมผัสเกมในจังหวะเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งเดียวกันเข้ามาก็ยิ่งเป็นประโยชน์ที่จะช่วยให้ มูดริก ได้ซึมซับทัศนคติการเล่นที่ถูกต้องเข้าไปเรื่อย ๆ
เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ในตำแหน่งถนัด
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ เจอสารพัดปัญหาทั้งในและนอกสนามพัวพันจนทำให้ตกเป็นตัวสำรองหลัง โรเมโอ ลาเวีย ที่เริ่มโชว์ฟอร์มได้แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ จนหลายคนตั้งคำถามว่า เอ็นโซ่ คนนี้ยังเป็นคนเดียวกับที่คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก อยู่หรือไม่
ตั้งแต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือ เชลซี เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ โดนจับขึ้นไปเล่นสูงขึ้นเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 8 กึ่ง 10 ซึ่งต้องขยับขึ้นไปเล่นเกมรุกหน้ากรอบเขตโทษคู่แข่งมากขึ้น และด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ฟอร์มของ เอ็นโซ่ ตกลงอย่างผิดหูผิดตา เพราะตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวคือ มิดฟิลด์ตัวรับ ที่คอยถ่ายบอลบัญชาเกมจากแนวลึก แต่เมื่อ มาเรสก้า เข้ามาคุมทีม เฟอร์นันเดซ ก็โดนจับไปเล่นสูงอยู่อีกบ่อย ๆ
มาในเกมเจอ โนอาห์ มาเรสก้า ต้องการยัดผู้เล่นเกมรุกเข้าไปให้มากที่สุดในแดนบน เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ จึงได้รับโอกาสลงเล่นเป็นกองกลางตัวบัญชาเกมตามที่เขาถนัด ซึ่งผลก็คือเจ้าตัวทำออกมาได้ดีมาก ๆ คุมแผงกองกลางคนเดียวอยู่หมัด แถมยังได้ 3 แอสซิสต์กลับบ้านแบบสวย ๆ อีกด้วย
จริงอยู่ที่การเจอทีมระดับ โนอาห์ อาจไม่สามารถวัดระดับฟอร์มการเล่นอะไรได้มากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นและมั่นใจได้ก็คือ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ เหมาะสมกับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับมากกว่าจริง ๆ