กรีซ 0-3 อังกฤษ : เก็บตกประเด็นหลังเกม สิงโตคำราม บุกล้างแค้นพร้อมทะยานขึ้นจ่าฝูง เนชั่นลีกส์
- อังกฤษ บุกไปล้างแค้นเอาชนะ กรีซ ได้ถึงถิ่น 3-0
- เหล่านักเตะใหม่พากันโชว์ฟอร์มไฉไล
- เคอร์ติส โจนส์ ยิงประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้แบบสุดสวย
รายการ | ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ลีก บี กรุ๊ป 2 นัดที่ 5 |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 |
สนาม | โอลิมปิก สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | กรีซ 0-3 อังกฤษ |
เหล่าแข้งใหม่ฟอร์มไฉไล เชื่อ ทูเคิ่ล ปวดหัวแน่นอน
การแข่งขันอันดุเดือดทั้งในฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยทำให้เหล่าแข้งคนสำคัญของทีมชาติ อังกฤษ ทยอยกันถอนตัวไปเพราะอาการบาดเจ็บ โดยไม่กี่วันก่อนหน้า 8 แข้งอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลีไว โคลวิลล์, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช, โคล พาลเมอร์, แอรอน แรมส์เดล, ดีแคลน ไรซ์, และ บูกาโย่ ซาก้า จำเป็นต้องถอนตัวจากแคมป์เพราะสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงทำให้มีความน่ากังวลเล็กน้อยว่า อังกฤษ ชุดนี้จะบุกไปคว้าแต้มสำคัญจาก กรีซ ได้หรือไม่ เพราะนัดที่แล้วเปิดบ้านยังแพ้เลย
แต่ท้ายที่สุดเหล่านักเตะชุดสำรองของ อังกฤษ ก็มีคุณภาพมากเพียงพอที่จะบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้ทีมเจ้าบ้านได้ โดยที่พวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างไฉไล พับสนามบุกอยู่ข้างเดียว และสามารถยิงประตูได้ถึง 3 ลูก
สิ่งที่น่าจับตามองคือเหล่านักเตะหน้าใหม่ไม่ว่าจะเป็น โนนี่ มาดูเอเก้, แอนโธนี กอร์ดอน, เคอร์ติส โจนส์, ริโก้ ลูอิส, มอร์แกน โรเจอร์ส, มอร์แกน กิ๊บบส์-ไวท์, และอีกหลายคน แสดงให้เห็นว่าพวกเขาดีพอในฐานะนักเตะชุดใหญ่ของทีมชาติ อังกฤษ แล้วถ้าหาก โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีม กุนซือชาว เยอรมัน จะต้องปวดหัวขนาดไหนในการเรียกนักเตะมาติดทีม
พิคฟอร์ด โคตรเหนียว !
แม้จะเป็นเกมที่ทัพ สิงโตคำราม ครองเกมบุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียว แต่ในช่วงเวลาที่พวกเขาเสียบอลแล้วถูก กรีซ โต้กลับมา คนที่ทำให้ทีมไม่เพลี้ยงพล้ำจนเจ้าบ้านจุดประกายความหวังขึ้นมาสำเร็จก็คือนายทวารอย่าง จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่วันนี้เฝ้าเสาได้อย่างเหนียวหนึบ
ในครึ่งแรกมีจังหวะที่ คอสตาส ซิมิคาส เล่นบอลชิ่ง 1-2 กับเพื่อนแล้วได้ตะบันด้วยซ้ายเต็ม ๆ ในกรอบเขตโทษ แต่ พิคฟอร์ด ก็สามารถยืนปิดมุมได้ดีพร้อมพุ่งตัวปัดบอลออกไปได้อย่างมั่นคงทำให้ อังกฤษ ยังไม่โดนตีเสมอ
ส่วนในครึ่งหลัง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ไปเสียบอลตรงบริเวณกลางสนามแล้วโดนโต้กลับ ทำให้ตัวสำรองของ กรีซ อย่าง โฟติส โยอานนิดิส ได้โอกาสหลุดไปซัดด้วยขวาแต่ พิคฟอร์ด ก็สามารถปฏิเสธลูกยิงดังกล่าวออกไปได้เช่นกัน
จริงอยู่ที่หลายตำแหน่งอาจถูกปรับเปลี่ยนไปเมื่อ ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีม แต่หนึ่งตำแหน่งที่น่าจะยังคงไม่เปลี่ยนมือก็คือผู้รักษาประตูที่ต้องบอกว่า พิคฟอร์ด น่าจะได้ครองตำแหน่งมือ 1 ไปแบบยาว ๆ
ประตูทีมโกล์ของ อังกฤษ
หากใครติดตามทีมชาติ อังกฤษ มาตั้งแต่สมัย แกเร็ธ เซาธ์เกต คุมทีมคงจะจำกันได้ว่าในยุคนั้นประตูจำนวนไม่น้อยที่ทำได้มาจากความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะที่มักจะบุกตะลุยฝ่าดงเข้าไปทำประตูได้ หรือไม่ก็ลูกเซ็ตพีซและจุดโทษ แต่ตั้งแต่มีการเปลี่ยนมือผู้จัดการทีม อังกฤษ เริ่มได้ประตูแบบ 'ทีมโกล์' มากขึ้น
ประตูแรกในวันนี้มาจากการเล่นชิ่งกันของ โนนี่ มาดูเอเก้ กับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ก่อนที่ปีกขวาจาก เชลซี จะพาบอลควบเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วปาดให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ได้ยิงแบบเหน่ง ๆ เข้าประตูไป
ส่วนลูกที่ 3 ที่ อังกฤษ ทำได้ในวันนี้ก็ต้องบอกว่าผสมผสานทั้งการทำงานเป็นทีมและความสามารถเฉพาะตัว โดยเริ่มต้นจากจังหวะที่ จาร์ร็อด โบเว่น ได้บอลทางด้านริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะพาตะลุยขึ้นมาส่งให้ มอร์แกน กิ๊บบส์-ไวท์ รับช่วงต่อไปปาดให้ เคอร์ติส โจนส์ ยิงบอลไขว้หลังแบบงามหยดเป็นประตู โดยที่ลูกดังกล่าวยังเป็นประตูแรกของ โจนส์ ในฐานะนักเตะทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่ด้วย