เก็บตกประเด็นหลังเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม ฟอเรสต์ 3-0 กลับขึ้นท็อปโฟร์ ศึกพรีเมียร์ลีก : FEATURE
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หยุดสถิติห่วยไร้ชัย 7 เกมติดต่อกันในทุกรายการได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0
- เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริง 4 ตำแหน่ง โดยให้ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน
- ชัยชนะของ "เรือใบสีฟ้า" ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เหลือเพียง 9 แต้ม
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก อังกฤษ |
---|---|
วันแข่งขัน | วันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 |
สนาม | เอติฮัด สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หยุดสถิติห่วยไร้ชัย 7 เกมติดต่อกันในทุกรายการได้สำเร็จ หลังจากเปิดบ้านเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไปได้ 3-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริง 4 ตำแหน่งจากเกมแพ้ ลิเวอร์พูล 2-0 โดยกัปตันทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน ในขณะที่ ฟิล โฟเด้น ไม่มีชื่อแม้กระทั่งสำรองเนื่องจากมีอาการหลอดลมอักเสบ
ความยอดเยี่ยมของ เดอ บรอยน์ เป็นสิ่งที่ แมนฯ ซิตี้ ขาดหายไปในช่วงที่ทีมฟอร์มตก แล้วกองกลางเบลเยียมแผลงฤทธิ์ด้วยการทำไป 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์ ก่อนได้แสตนดิ้งโอเวชั่นตอนเปลี่ยนตัวออก ส่วนอีก 2 ประตูที่เหลือมาจาก แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ เฌเรมี่ โดกู
แมนฯ ซิตี้ เพิ่งผ่านประสบการณ์นำห่างถึง 3 ประตูเมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึง 15 นาที แต่สุดท้ายโดน เฟเยนูร์ด ตามตีเสมอ 3-3 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นทำให้พวกเขารัดกุมเป็นพิเศษในช่วงเวลาที่เหลือหลังนำห่าง 3-0 ตั้งแต่นาทีที่ 55
ชัยชนะของ "เรือใบสีฟ้า" ถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของพวกเขา นับตั้งแต่เชือด เซาแธมป์ตัน 1-0 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม และยังขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ในตารางพรีเมียร์ลีกอีกด้วย โดยตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ที่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-3 เหลือเพียง 9 แต้ม
เป๊ป ตอกย้ำไม่มีปัญหา เดอ บรอยน์
แกรี่ เนวิลล์ และ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ร่วมลงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ เควิน เดอ บรอยน์ ขัดแย้งกัน หลังดาวเตะชาวเบลเยียมได้รับโอกาสลงสนามอันน้อยนิดตั้งแต่หายเจ็บ โดยเฉพาะการลงเป็นสำรองช่วงที่ทีมตามหลัง 2-0 ในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมเจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ เดอ บรอยน์ แล้วที่ยังไม่ให้ดาวเตะวัย 33 ปีลงตัวจริงก็เพียงเพราะต้องถนอม เนื่องจากเจ็บแล้วต้องพักไปนาน
กระนั้นในแมตช์นี้ กวาร์ดิโอล่า มองว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะให้ เดอ บรอยน์ ออกสตาร์ทตัวจริงในรอบกว่า 2 เดือน ซึ่ง เดอ บรอยน์ ก็ตอบแทนด้วยการทำไป 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์
ระหว่างการเปลี่ยนตัว ภาพที่ เดอ บรอยน์ สวมกอดกับ กวาร์ดิโอล่า ข้างสนาม พร้อมด้วยรอยยิ้มเป็นการตอกย้ำกว่าทั้งคู่ไม่ได้ผิดใจอะไรทั้งนั้น
ฮาแลนด์ เท้าบอด
หนึ่งในความกังวลของ กวาร์ดิโอล่า คือผลงานของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ดร็อปลงไป เพราะเขายิงในลีกไม่ได้มา 3 เกมติดต่อกันแล้ว และก่อนหน้านี้เขาก็เคยมีช่วงที่ยิงไม่ได้ 3 นัดในลีกแล้วเช่นกัน
ฤดูกาลนี้ ฮาแลนด์ ทำไปแล้ว 12 ประตูจาก 14 เกมในพรีเมียร์ลีก จากตอนแรกเป็นดาวซัลโวอยู่ดี ๆ ตอนนี้เขาโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แซงหน้าเป็นที่เรียบร้อย หลังแนวรุกอียิปต์เพิ่งเหมา 2 ประตูในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกเสมอ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-3
ซีซั่นที่แล้ว ฮาแลนด์ ทำไป 27 ประตู จาก 31 เกมในลีก พร้อมคว้ารองเท้าทองคำไปครอง มันยังเหลืออีกหลายเกมให้ศูนย์หน้านอร์เวย์ยิงในระดับเดียวกัน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟอร์มของเขาต่ำกว่ามาตรฐานเล็กน้อย
กวาร์ดิโอล หวนลงตัวจริง
หลังจากฟอร์มหลุดไปในช่วงหลัง กวาร์ดิโอล่า จึงต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการยอมดร็อป ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เป็นตัวสำรองในเกมเจอ ลิเวอร์พูล แล้วให้โอกาส นาธาน อาเก้ ลงตัวจริง
ผลงานของ อาเก้ ในนัดนั้นทำได้ดีเลย จนมีเสียงเรียกร้องให้แข้งดัตช์แมนยึดตัวจริงต่อไป แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องดีต่อนักเตะที่ต้องการเรียกความมั่นใจกลับคืนมา นั่นทำให้ กวาร์ดิโอล่า เลือกให้ทั้ง อาเก้ และ กวาร์ดิโอล ลงตัวจริงพร้อมกันเลย
กวาร์ดิโอล ได้เล่นแบ็คซ้าย ส่วน อาเก้ ถูกหุบไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็ค ซึ่งทั้งคู่ต่างทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่า กวาร์ดิโอล ยังมีข้อผิดพลาดเรื่องเกมรับอยู่บ้าง แต่มันคือสัญญาณที่ดีหลังจากเจอมรสุมก่อนหน้านี้
เป๊ป เจออาการเจ็บให้กังวลอีกแล้ว
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอมรับหลังจบเกมว่าเขารู้สึกเศร้าแม้ว่า แมนฯ ซิตี้ จะยุติสถิติไม่ชนะ 7 เกมติดต่อกันได้สำเร็จก็ตาม เนื่องจากอาการบาดเจ็บของกองหลัง 2 คน
มานูเอล อคานจี ซึ่งได้เล่นแบ็คขวาในเกมนี้ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง โดยให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ลงไปแทนเมื่อเริ่มครึ่งหลัง จากนั้น นาธาน อาเก้ ก็เจ็บไปอีกรายในช่วงท้ายเกม และให้ เจมส์ แม็คอาที ลงเล่นแทน
กวาร์ดิโอล่า เปิดเผยว่า อคานจี ต้องลงเล่นด้วยปัญหาอาการเจ็บตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่คาดว่ากองหลังชาวสวิสจะต้องพลาดอย่างน้อย 1 เกมต่อจากนี้ ส่วน อาเก้ อาจต้องพักนานกว่า นั่นอาจทำให้ แมนฯ ซิตี้ เหลือเซ็นเตอร์แบ็คตัวหลักเพียงคนเดียวที่พร้อมลงสนามในเกมกับ คริสตัล พาเลซ ส่วน จอห์น สโตนส์ ก็ยังไม่พร้อมเช่นกัน