นิวคาสเซิ่ล 1 – 0 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม “สาลิกาดง” มาตามแผน “ปืนใหญ่” แตกพ่ายเกมที่สองในฤดูกาลนี้
• พวกเขาเสียประตู 6 เกมติดต่อกัน ในพรีเมียร์ลีก
อาร์เซนอล ยังคงมีปัญหาเรื่องของผลงานกับการเสียประตูต่อเนื่อง 6 เกมในลีก และเกมนี้พวกเขาบุกมาถูก นิวคาสเซิ่ล ยัดเยียดความปราชัยเป็นเกมที่สองใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้
รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ ลีก 2024-2025
วันแข่งขัน : 2 พฤศจิกายน 2024
สนามแข่งขัน : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : นิวคาสเซิ่ล 1 – 0 อาร์เซนอล
การเพรสซิ่งและฉกฉวยจังหวะของเจ้าบ้าน
“สาลิกาดง” ทำงานหนักอย่างยิ่งในเกมนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่กลางสนามที่พวกเขาเล่นเพรสซิ่งกดดัน อาร์เซนอล ได้ดีมาก ไล่ตั้งแต่แดนบน บีบพื้นที่แดนกลาง ทำให้ ปืนใหญ่ เจอกับงานยากลำบากในการเซตเกมจากรับรวมถึงการลำเลียงบอลทำเกมรุกขึ้นไป
ปีกสองข้าง อาร์เซนอล เกมนี้ 45 นาทีแรกเอาชนะแบ็คสองข้างของ นิวคาสเซิล ได้น้อยมาก มาร์ติเนลลี่ เจอ 2:1 ทุกครั้งกับ ลิฟราเมนโต้ และ กอร์ดอน ฉีกหนีลำบาก ซาก้า วันนี้แม้จะครองบอลได้ แต่จังหวะสวย ๆ ทั้งตัดเข้าทำ หรือเปิดบอลก็แทบไม่มี การเชื่อมเกมตรงกลางร่วมกับ ไค ฮาแวตซ์ – ทรอตซาร์ ก็น้อยมาก คนที่เล่นด้วยกันมากที่สุดกับ ซาก้า ก็คือ ปาร์เตย์ ซึ่งวันนี้รับงานเป็นแบ็คขวา ซึ่งก็ไม่มีจังหวะวิ่งสอดทะลุในเกมรุกให้เห็นเลยเช่นกัน
บอล อาร์เซนอล เลยเป็นบอลกลาง ๆ ได้บอลเยอะ แต่ก็ไปไม่ถึงพื้นที่อันตราย ก่อนจะมาตายอยู่รอบนอกกรอบเขตโทษ ยิ่งเสียประตูไปก่อนจากจังหวะที่พวกเขาเองเคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทางคู่แข่งที่ออกบอลต่อไปริมเส้นด้านขวาก่อนตบเข้ากลางอย่างแม่นยำ อิซัค โหม่งสะบัดไม่มีเหลือ ลูกนี้สมบูรณ์ทั้งน้ำหนักทิศทางและมันเริ่มต้นจากความประมาทของ ปืนใหญ่ เอง
วินัยเกมรับ และการเก็บ “บอลสอง” กุญแจสำคัญสู่ชัยชนะของทัพ “สาลิกาดง”
หลังจากเสียประตู อาร์เซนอล ครองเกมได้มากก็จริง แต่สร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้น้อยมากแถมโอกาสยิงเข้ากรอบยังมีเพียงครั้งเดียว จาก 10 ครั้งที่เข้าทำ เพราะพวกเขาเจอกับ “วินัยเกมรับ” ที่เหนียวแน่นอของเจ้าบ้าน ทำงานกันเป็นระบบเคลื่อนที่เป็นแผง แม้เกมรับอาจไม่มีซุเปอร์สตาร์ที่โดดเด่นสำหรับเจ้าบ้าน แต่กลับมีทีมเวิร์คและวินัยอันยอดเยี่ยมจนเอาอยู่แทบทั้งหมด
“บอลสอง” นิวคาสเซิ่ล เกมนี้ใช้สามกองกลาง (โจ วิลล็อค – โจลินตัน และ บรูโน่ กิมาไรส์) สองผึ้งงาน หนึ่งพญาผึ้ง ที่คอยทำลายเกมรุก อาร์เซนอล ขณะที่ ดีแคลน ไรซ์ และ มิเคล เมริโน่ รวมถึง เลอันโดร ทรอตซาร์ โดนกลบมิด ไรซ์ อาจจะดูเด่นกว่าคนอื่น แต่เพียงคนเดียวมันก็ไม่พอจะสร้างอิมแพคให้กระแสเกมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้
จุดสำคัญคือ เกมสวนกลับของเจ้าบ้านพวกเขาสามารถเก็บบอลได้ และใช้จังหวะน้อยครั้งในแต่ละเพลย์ พาบอลไปถึงแดน อาร์เซนอล อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะจบด้วยการยิงประตูหรือไม่ แต่เป้าหมายเดียวคือ พวกเขาจะไม่ยอมโดนอาร์เซนอล ครองบอลขึงเกมเข้าใส่ฝ่ายเดียว และพวกเขาก็ทำได้จริง ๆ ที่ต้องคอยให้ผู้มาเยือนพะวงหลังบ้านอยู่ตลอด
ปืนใหญ่ เสียเวลาวนลูปกับการต้องเริ่มต้นไปเซตเกมใหม่จากการโดนสวนกลับหลายต่อหลายครั้ง ความหวังที่จะขึงเกมเล่นกดอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่เกิดขึ้น เพราะกองกลางของเจ้าถิ่นยังคงเก็บบอลได้ และแนวรับ อาร์เซนอล หยุดความเร็วของตัวริมเส้นด้านข้างของ สาลิกาดง ให้อยู่หมัดไม่ได้
เกมรุก-เกมรับ ปืนใหญ่ มีปัญหา
อาร์เซนอล เสียประตูในพรีเมียร์ ลีกมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน ถ้าเกมต่อไปพวกเขาเสียประตูอีกจะทำสถิติเท่ากับปลายฤดูกาล 2021-2022 ที่เสียประตู 7 เกมติดต่อกัน นั่นหมายถึงมาตรฐานเกมรับของพวกเขาถูกท้าทายจากคู่แข่งที่ยกระดับมากขึ้น กับการที่พวกเขามีปัญหาเกมรับที่ขาดตัวหลักลงเล่นแบบครบ ๆ ต่อเนื่องมากพอ ก็ยิ่งสร้างรอยรั่วในเกมรับจนพวกเขามาถึงจุด ๆ นี้ในที่สุด
ลูกตั้งเตะที่แม้ว่าจะได้ผลมากมาตลอดสองปี เกมนี้แม้จะมีหลายแผนให้ใช้ แต่ก็โดนอ่านได้ทั้งหมด ต้องยอมรับว่า เซตเพลย์ เป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกการเข้าทำที่ อาร์เซนอล ทำได้ดีขึ้นมาก แต่มันเป็นแค่หนึ่งตัวช่วยเท่านั้น ต่างกับโอเพ่นเพลย์ที่เปรียบเสมือนอาหารจานหลักที่ถูกจับตาโดยสื่อมวลชนและแฟนบอลมากเป็นพิเศษ
ความมั่นใจที่ต่างกัน
นิวคาสเซิ่ล ลงเล่นเกมนี้ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกระหึ่มแฟนบอลหนุนนำ ทั้งที่นี่คือทีมที่ไม่ชนะใคร 5 เกมรวดในพรีเมียร์ ลีก แต่มาเกมนี้พวกเขามั่นใจมาก กระตุ้นกันมาอย่างดี เล่นได้ตามแผน เครดิตตรงนี้ นิวคาสเซิ่ล สมควรได้รับการยกย่อง ขณะที่ อาร์เซนอล การสะดุดไม่ชนะมา 3 เกมติดต่อกัน อาจจะพูดได้ว่าเจอกับปัญหามากมาย ทั้งอาการบาดเจ็บ อาการเหนื่อยล้า ที่นำมาสู่ทีม 11 ตัวจริงที่ไม่นิ่งหมุนเวียนอยู่ตลอด
ยิ่งเหนื่อยล้ามากเท่าไหร่ สมาธิก็มีโอกาสเสียไปได้ง่าย ทุกสโมสรเป็นแบบนี้ทั้งสิ้น ไม่เว้นกระทั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมระดับแชมป์ก็พลาดในเกมสัปดาห์นี้ อาร์เซนอล ก็เช่นเดียวกัน และนั่นเป็นปัญหาที่ต้องแก้กันให้ได้ภายในทีม แน่นอนว่าชัยชนะเท่านั้นที่จะเรียกมันกลับมาได้ และไม่ใช่ในชัยชนะเกมบอลถ้วยใด ๆ ต้องเป็นเกมลีกเท่านั้น เพราะถึงตรงนี้การได้เพียง 1 จาก 9 คะแนนที่ควรทำได้ คือความจริงที่เจ็บปวด กับการตามหลังจ่าฝูงไปแล้ว 7 คะแนนหลังจบเกมสัปดาห์นี้