เซาธ์แฮมป์ตัน 1-5 เชลซี : เก็บตกประเด็นหลังเกม สิงห์บลูส์ ไม่กลัวบาปบุกอัด นักบุญ คาบ้านพร้อมขึ้นรองจ่าฝูง

โรเตชั่น 7 ตัวจริงเตรียมลุยกับ ไก่เดือยทอง

เข้าสู่ช่วงปลายปีของการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25 แน่นอนว่าความยากที่เพิ่มขึ้นคือตารางการแข่งขันที่เริ่มอัดแน่นเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้ เชลซี ที่เพิ่งจะลงเตะกับ แอสตัน วิลล่า ไปหมาด ๆ จำเป็นต้องโรเตชั่นผู้เล่นมากถึง 7 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกมหน้าพวกเขาจะต้องบุกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่แข่งสุดหินประจำเมือง ลอนดอน ด้วยกัน

4 ผู้เล่นตัวจริงที่ยังคงได้รับโอกาสออกสตาร์ทเหมือนเกมก่อนคือ โคล พาลเมอร์, มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ, และ มาร์ค คูคูเรญ่า ที่ปัจจุบันเปรียบเสมือนกำลังหลักของทีมชุดนี้โดยเฉพาะสองรายแรก

ส่วนอีก 7 คนที่เหลือก็เป็นชุดผู้เล่นที่ เอ็นโซ่ มาเรสก้า มักจะส่งลงเล่นใน คอนเฟอเรนซ์ ลีก อยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจหากจะเล่นได้เข้าขากันพอสมควร

ผลจบลงด้วยชัยชนะของ เชลซี ด้วยสกอร์ขาดลอย 5-1 ทำให้พวกเขาทะยานขึ้นเป็นรองจ่าฝูงอย่างเป็นทางการในเวลานี้ และยังคงรักษาโมเมนตั้มเอาไว้ชนกับเกมใหญ่นัดหน้าได้ด้วย

มาดูเอเก้ - พาลเมอร์ คนหนึ่งดีขึ้น อีกคนแย่ลง

แม้ผลการแข่งขันจะออกมาน่าพึงพอใจสำหรับ เชลซี แต่สิ่งหนึ่งที่ควรพูดถึงก็คือฟอร์มของ โคล พาลเมอร์ และ โนนี่ มาดูเอเก้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มจะสวนทางกันอย่างน่าใจหาย

หากใครติดตาม เชลซี มาโดยตลอดจะพอทราบว่า โนนี่ มาดูเอเก้ เป็นนักเตะพรสวรรค์สูงที่ได้รับความเชื่อใจจาก มาเรสก้า เป็นอย่างมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามาโดยตลอดก็คือเจ้าตัวชอบหวงบอลมากเกินไป หรือบางครั้งก็อยากยิงเอง จนแฟนบอลพากันเอือม

แต่ช่วงที่ผ่านมา มาดูเอเก้ ดูจะมีทัศนคติการเล่นที่ดีมากขึ้น รู้จักเล่นเพื่อทีมมากกว่าเพื่อตนเอง และยังเลือกใช้โอกาสในพื้นที่สุดท้ายได้อย่างคุ้มค่า จนทำให้หลายคนที่เคยวิจารณ์เขาเริ่มออกมาชื่นชมกันบ้างแล้ว

ในทางกลับกัน โคล พาลเมอร์ ที่มีดีกรีเป็นถึง 'ตัวแบก' ของ เชลซี อาจมีความกดดันตนเองมากขึ้นจนใน 2-3 แมตช์ที่ผ่านมา เจ้าตัวดูจะหวงบอลมากกว่าปกติ ทุกครั้งที่สัมผัสบอลก็ดูจะพุ่งทะยานเข้าไปเพื่อยิงมากกว่าสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้เล่น ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ 'คีย์แมน' คนสำคัญของทีมจะมีทัศนคติหวงบอลแบบที่ พาลเมอร์ เป็นอยู่ในตอนนี้

เกมจบตั้งแต่ครึ่งแรก

เกมในวันนี้แสดงให้เห็นว่า เซาธ์แฮมป์ตัน มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน และตัวกุนซืออย่าง รัสเซลล์ มาร์ติน ก็มีปรัชญาการทำทีมที่ใจกล้าไม่น้อยด้วยการสั่งให้ลูกทีมเซ็ตบอลจากแดนหลังพร้อมทั้งกล้าเปิดแลกไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม

แต่เมื่อจินตนาการกับความเป็นจริงไม่สามารถไปด้วยกันได้เพราะตัวผู้เล่นของทีม นักบุญ ไม่ได้มีศักยภาพเพียงพอจะเล่นตามแนวคิดได้ ผลออกมาจึงเป็นการโดนถล่มคาบ้านขาดลอยตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก มิหน้ำซ้ำประตูที่โดนยิง (และเกือบโดนยิง) ยังมาจากความผิดพลาดในการเล่นแดนหลังแบบง่าย ๆ อีกด้วย

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น กัปตันทีมอย่าง แจ็ค สตีเฟ่นส์ ก็มาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามก่อนจบช่วงครึ่งแรกเพียงไม่กี่นาที จึงเป็นเหตุให้ 45 นาทีหลัง เชลซี เป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่าและกดดันเจ้าบ้านอยู่ฝ่ายเดียว

ซานโช่ เบิกสกอร์แรกในสีเสื้อ เชลซี

ตั้งแต่ เจดอน ซานโช่ ย้ายซบทีม สิงโตน้ำเงินคราม เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เจ้าตัวมีวันที่ดีสลับกับวันที่แย่ปะปนกันไป แต่ก็ยังไม่มีวันไหนเลยทีดาวเตะรายนี้ยิงประตูได้สำเร็จ

เกมในวันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวันที่ เจดอน ซานโช่ จะจดจำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเจ้าตัวได้รับโอกาสลงมาในนาทีที่ 72 ก่อนจะสามารถเบิกสกอร์แรกให้ตนเองได้ในนาทีที่ 87 และยังเป็นการหลอกยิงเสาแรกแบบสุดสวยพร้อมพาทีมเก็บชัยชนะขาดลอยอีกด้วย

ประตูดังกล่าวทำให้ปัจจุบัน ซานโช่ ทำไปแล้ว 1 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 10 นัดในฤดูกาลนี้ และค่อนข้างเป็นที่แน่นอนแล้วว่าซีซันหน้า เชลซี จะต้องจ่ายเงินให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อเซ็นดาวเตะรายนี้เข้ามาร่วมทัพแบบถาวร

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม เชลซี ได้ที่นี่