ทีมชาติไทย 0-0 ทีมชาติเลบานอน : ประเด็นหลังเกมอุ่นเครื่อง ช้างศึกสายเลือดใหม่ทำได้เพียงเสมอ
- ทีมชาติไทย อันดับ 96 ของโลก เปิดบ้าน เปิดบ้านเสมอกับ ทีมชาติเลบานอน อันดับ 115 ของโลก ด้วยสกอร์ 0-0
- มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ทดลองทีมโดยเรียกนักเตะหน้าใหม่เข้ามาถึง 6 ราย
- ไทย หาโอกาสยิงได้มากกว่าถึง 12 ครั้ง แต่ตรงกรอบเพียงหนเดียวเท่านั้น
โดย Asree Samuyae
รายการ | อุ่นเครื่อง |
---|---|
วันแข่งขัน | วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 |
สนาม | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต |
ผลการแข่งขัน | ทีมชาติไทย 0-0 ทีมชาติเลบานอน |
"ช้างศึก" ทีมชาติไทย อันดับ 96 ของโลก เปิดบ้านเจอกับ ทีมชาติเลบานอน อันดับ 115 ของโลก ก่อนจบลงด้วยผลเสมอกัน 0-0 ในแมตช์อุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ นัดแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ทดลองทีมโดยเรียกนักเตะหน้าใหม่เข้ามาถึง 6 ราย และส่งลงตัวจริงถึง 3 ราย นำโดย ศฤงคาร พรมสุภะ, ทิตาธร อักษรศรี และ พันธมิตร ประพันธ์
ครึ่งหลังยังให้โอกาส วันชัย จารุนงคราญ และ เสกสรรค์ ราตรี ลงมาเพิ่มด้วย แต่สกอร์ก็ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ได้ลุ้นจาก พันธมิตร, อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ รวมถึง รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก แต่จบสกอร์ไม่เด็ดขาดเอง
ไทย หาโอกาสยิงได้มากกว่าถึง 12 ครั้ง แต่ตรงกรอบเพียงหนเดียวเท่านั้น ส่วนเกมรับก็ไม่มีอะไรผิดพลาดเพราะ เลบานอน ได้ยิงแค่ 5 ครั้ง แล้วไม่ตรงกรอบเลย
โปรแกรมนัดต่อไปของ ไทย จะรับการมาเยือนของ ลาว วันอาทิตย์นี้
เดบิวต์นักเตะสายเลือดใหม่
อย่างที่ทราบกันว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จำเป็นต้องทดลองทีมเนื่องจากเหล่าตัวหลักเรียกตัวมาไม่ได้ เพราะต้นสังกัดไม่ปล่อย
นั่นทำให้มีนักเตะหน้าใหม่ถูกเรียกเข้ามาถึง 6 ราย และ อิชิอิ ไม่รอช้าส่งลงตัวจริงถึง 3 ราย ได้แก่ ศฤงคาร พรมสุภะ, ทิตาธร อักษรศรี และ พันธมิตร ประพันธ์
ครึ่งหลังก็ยังส่ง วันชัย จารุนงคราญ และ เสกสรรค์ ราตรี เพิ่มเติมอีก เหลือเพียง ชิษณุพงศ์ โชติ รายเดียวเท่านั้นที่ยังรอโอกาสประเดิมสนามกับชุดใหญ่
พันธมิตร ประพันธ์ เด็กคนนี้มีของ
จาก 6 แข้งหน้าใหม่ ผมขอพูดถึง พันธมิตร ประพันธ์ หน่อยละกัน เด็กคนนี้ฟอร์มกระฉูดแตกมาก ๆ กับต้นสังกัด พีที ประจวบ ภายใต้การคุมทีมของ สะสม พบประเสริฐ ในฤดูกาลนี้
การถูกเรียกติดทัพหนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย ผลงานของแนวรุกวัย 21 ปีเป็นที่ประจักษ์ บวกกับตัวหลัก ๆ ชุดเดิมดันไม่ถูกปล่อยจากสโมสรด้วย มันเลยเป็นโอกาสของเขา
น่าเซอร์ไพรส์ที่ อิชิอิ กล้าส่งเด็กที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในเวทีทีมชาติลงตัวจริงต่อกรกับทีมอาหรับอย่าง เลบานอน ที่รั้งอันดับ 115 ของโลก ซึ่งเมื่อเทียบกับขุมกำลังไทยชุดนี้แล้วก็สูสีเลย
ทั้งที่มีตัวเก๋าอย่าง รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก ซึ่งคุ้นชินกับสนามอย่างดี หรืออาจให้ พันธมิตร ไปเดบิวต์เกมเจอ ลาว ก็น่าจะเซฟกว่า แต่ก็ต้องชม อิชิอิ ที่กล้าลอง แล้วผลงานของ พันธมิตร ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย แม้ยังดูตื่นสนามอยู่ก็ตาม
วรชิต กับตำแหน่งเบอร์ 10
วรชิต กนิตศรีบําเพ็ญ ทำได้ดีกับตำแหน่งเบอร์ 10 สมัยยังเล่นให้ ชลบุรี เอฟซี แต่ช่วงหลังเขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งเบอร์ 8 กับ ท่าเรือ เอฟซี รวมถึงถ่างไปเป็นปีกขวาบ่อย
นัดนี้ด้วยบทบาทตัวปั้นเกมทำให้ดาวเตะวัย 27 ปี ถูกคาดหวังไม่น้อยเมื่อต้องอุดรอยโหว่จาก ชนาธิป สรงกระสินธ์
ต้องยอมรับว่าเกมนี้ วรชิต ทำผลงานได้น่าผิดหวัง การสร้างสรรค์โอกาสน้อย การจ่ายทะลุช่องก็น้อยและไม่แม่นยำด้วย เลยคิดอีกแบบว่าถ้าสลับบทบาทกันระหว่าง วรชิต กับ อัครพงศ์ โดยให้รายหลังยืนสูงก็น่าสนใจไม่น้อย
วรชิต จัดว่าเป็นนักเตะที่มีทักษะสูง ไม่มีใครกังขาในศักยภาพหมอนี่เลย แต่ด้วยวัยของเขาและเหล่าตัวหลักที่เริ่มโรยรา "เจ้ายิม" จำเป็นต้องยกระดับเพื่อทดแทนให้ได้
ศฤงคาร กลบจุดด้อยของตัวเองอยู่หมัด
ก่อนเกมเริ่มยอมรับตามตรงว่าผมแอบกังวล ศฤงคาร พรมสุภะ ไม่น้อย ในการรับมือลูกกลางอากาศของ เลบานอน เพราะเชื่อว่าทีมดังจากตะวันออกกลางจะเล่นงานจุดนี้แน่นอน
สิ่งแรกที่มองเห็นในตัว ศฤงคาร เลยคือความเร็ว หลังทราบจากนักพาย์ว่าสมัยเด็ก "เจ้าเหน่ง" เคยเป็นนักวิ่งมาก่อนก็ไม่แปลกใจเลย
เขาไม่ปล่อยให้กองหน้าของ เลบานอน ได้พลิกบอลง่าย จะพยายามเข้าหาจังหวะแรกตลอด แต่เมื่อโดนพลิกก็ใช้ความเร็วเข้าสู้ ส่วนลูกกลางอากาศก็เป็นหน้าที่ของ เอเลียส ดอเลาะ เก็บกิน
เลบานอน หาโอกาสบุกใส่เราได้น้อย แต่เมื่อมีโอกาสแล้วแนวรับของเราก็ไม่ผิดพลาดเลย กลายเป็นว่าการจับคู่ของ เอเลียส กับ ศฤงคาร ลงตัวซะงั้น