ทีมชาติไทย 1-1 ทีมชาติลาว : ประเด็นหลังเกมอุ่นเครื่อง ช้างศึกหลุดฟอร์มเสมออีกแล้ว
- ทีมชาติไทย ยังไม่ชนะในการอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ หลังทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ ทีมชาติลาว 1-1
- "ช้างศึก" ไม่ได้เหนือกว่าเลย แต่ขึ้นนำก่อนจาก เสกสรรค์ ราตรี อย่างไรก็ตาม ลาว ก็มาตีเสมอจาก บุนพะจัน บุนกอง
- การเสมอกับ ลาว เสียหายไม่น้อย เพราะมีผลต่อคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย
โดย Asree Samuyae
รายการ | อุ่นเครื่อง |
---|---|
วันแข่งขัน | วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 |
สนาม | ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต |
ผลการแข่งขัน | ทีมชาติไทย 1-1 ทีมชาติลาว |
ทีมชาติไทย ยังไม่ชนะในการอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ และล่าสุดทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ ทีมชาติลาว 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
"ช้างศึก" ผลงานไม่ได้เหนือกว่าเลย แต่ทำประตูขึ้นนำก่อนจาก เสกสรรค์ ราตรี นาที 60 อย่างไรก็ตาม ลาว ก็มายิงตีเสมอจาก บุนพะจัน บุนกอง นาทีที่ 69
ผลการแข่งขันครั้งนี้ทำให้ ไทย เสมอทั้ง 2 นัด หลังจากเกมแรกเสมอ เลบานอน 0-0
การเสมอกับ ลาว เสียหายไม่น้อย เพราะมีผลต่อคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย และนี่คือสิ่งที่ผมอยากบอกหลังจากได้ดูในเกมนี้
เจตนารมณ์ของ อิชิอิ
การเรียกนักเตะหน้าใหม่ หรือการให้โอกาสนักเตะที่ยังไม่ค่อยลงสนามคือแผนการที่ มาซาทาดะ อิชิอิ วางเอาไว้เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับการแข่งขันอาเซียน คัพ
การขาดความเข้าใจของกันและกันคือสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และผลการแข่งขันคือสิ่งที่ตามมา แต่ผมกลับมองอีกมุมนึงว่า อิชิอิ ทำถูกต้องแล้วที่ให้โอกาสคนใหม่ ๆ เข้ามา
จุดประสงค์ของ อิชิอิ ในอุ่นเครื่องหนนี้คือการ "ทดลอง" ว่าใครมีดีพอที่จะเบียดแย่งตำแหน่งจากชุดหลักบ้าง
มันคือตัวเลือกการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น ดีกว่าเลือกใช้แต่ขุมกำลังเดิม ๆ อีกทั้งนักเตะเองก็จะได้มีแรงผลักดัน กลับไปเล่นในลีก พัฒนาฝีเท้าต่อไปด้วย
เชื่อว่า อิชิอิ เองก็น่าจะมีภาพในใจด้วยว่าใครปั้นต่อได้ หรือใครไม่ไหวจริง ๆ
การเตรียมทีม
นี่คือปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมายาวนาน ไทยเรามีเวลาเตรียมทีมกันน้อยมาก ๆ ซึ่งก็มาจากโปรแกรมเตะในลีกที่มันยังไม่บาลานซ์สักที
อีกทั้งการที่สโมสรใหญ่ ๆ ชอบปฏิเสธปล่อยนักเตะคนสำคัญรับใช้ทีมชาติ เกมที่แพ้ จอร์เจีย 8-0 ในยุค มาโน่ โพลกิ้ง คือตัวอย่างที่เห็นชัดมาก ๆ
การขาดความต่อเนื่องกับขุมกำลังที่ อิชิอิ ตั้งใจจะใช้งานจริง ๆ ทำให้เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตลอด
สำหรับศึกอาเซียน คัพ ที่จะเริ่มแข่งขันกันในเดือนธันวาคม ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงฟีฟ่าเดย์ด้วย นั่นหมายความว่าพวกสโมสรใหญ่ ๆ ก็ไม่น่าจะปล่อยแข้งคนสำคัญให้กับทีมชาติ เพราะงั้น อิชิอิ ก็คงต้องเลือกใช้นักเตะกลุ่มที่อุ่นกับ เลบานอน และ ลาว เป็นหลัก
ตัวที่พอมีแวว
ตัวผู้เล่นหน้าใหม่ที่ อิชิอิ เรียกเข้ามาถือว่าทำได้ไม่เลวเลย และบางคนก็ดีพอสอดแทรกเป็นตัวจริงในอนาคตข้างหน้าได้เลย
เรากำลังมองหาแบ็คซ้ายที่จะเป็นตัวตายตัวแทนของ ธีราทร บุญมาทัน ในระยะยาว และมีไม่น้อยเลยที่คาดหวังจาก เควิน ดีรมรัมย์ ซึ่งฟอร์มสม่ำเสมอกับสโมสรแต่การถอนตัวกับทีมชาติกลายเป็นภาพจำของเจ้าตัวไปแล้ว แม้รอบล่าสุดดูเหมือนว่าจะเจ็บจริงก็ตาม
แบ็คซ้ายหนนี้เราเรียก วันชัย จารุนงคราญ และ ทิตาธร อักษรศรี ซึ่งทั้งคู่สลับกันเป็นตัวจริง และฟอร์มก็ไม่น่าเกลียดเลยนะครับ ไม่ได้มีความผิดพลาดอะไร
เสกสรรค์ ราตรี ทั้งที่ขาดนาทีลงสนามกับ บุรีรัมย์ และแทบไม่มีส่วนกับเกมเมื่อลงสำรองในนัดเจอ เลบานอน แต่เมื่อได้ลงตัวจริงแมตช์พบ ลาว สร้างความปั่นป่วนได้ไม่น้อย มีจุดเด่นในการสอดลุ้นทำประตูซึ่งเป็นที่มาของการเบิกสกอร์แรก
ศฤงคาร พรหมสุภะ ในเกมกับ เลบานอน โดนตั้งคำถามเรื่องส่วนสูง แต่เขาใช้ความเร็วและการเข้าสกัดที่แม่นยำกลบจุดด้อยได้อยู่หมัด พอมีลุ้นเป็นตัวสอดแทรกได้เหมือนกัน เพราะคู่หูเกมเสมอ ลาว อย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ และ สุพรรณ ทองสองค์ ที่พลาดเสียประตู
พันธมิตร ประพันธ์ ก็เคยพูดไปแล้วในเกมก่อน ด้วยวัยเพียง 21 ปี ซึ่งเท่ากับ เสกสรรค์ ทำให้ทั้งคู่ยังมีลุ้นอยู่ในสารบบของทีมชาติไปอีกนาน แต่สิ่งสำคัญคือต้องยืนระยะให้ได้ด้วย
เสมอที่ส่งผลต่อคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง
การเจอ เลบานอน แม้เป็นทีมที่อยู่ในอันดับต่ำกว่า แต่ก็ไม่ได้ห่างขนาดนั้น แถม ไทย มักจะแพ้ทางอาหรับด้วย พ่วงกับนักเตะใหม่ ๆ ด้วยแล้วผลเสมอก็ไม่ได้ขี้เหร่มากนัก
อย่างไรก็ตามการดวลกับ ลาว ก่อนเกมก็มีแต่เสียงฟันธงว่าชนะ คงแค่มาคาดการณ์เรื่องสกอร์เท่านั้นว่าจะขาดลอยหรือหวุดหวิด
ลาว รั้งอยู่อันดับ 187 ของโลก ซึ่งต่ำกว่าเราถึง 91 อันดับ เพราะงั้นการเสมอทำให้คะแนนฟีฟ่าแรงกิ้งของ ไทย ติดลบทันที -2.88 และเมื่อรวมกับที่เสมอ เลบานอน แมตช์ที่แล้ว (-0.61) หมายความว่า ไทย เสียแต้มรวม -3.49 แต้ม ในฟีฟ่าเดย์รอบนี้