เวสต์แฮม 2-1 แมนยู: เก็บตกประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก ''ผีแดง'' เจอพิษวีเออาร์ ไร้ชัยที่ ลอนดอน อีกครั้ง
• ทีมของ เอริค เทน ฮาก เจอพิษวีเออาร์เล่นงานอย่างจัง
• จากความพ่ายแพ้ดังกล่าว ส่งผลให้ ปีศาจแดง หล่นไปอยู่อันดับ 14 ของตาราง เหนือโซนตกชั้นอยู่ 7 แต้ม
รายการ | พรีเมียร์ลีก 2024/25, นัด 9 |
---|---|
วันแข่งขัน | วันอาทิตย์ ที่ 27 ต.ค. 2024 |
สนาม | ลอนดอน สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | เวสต์แฮม 2-1 แมนฯ ยูไนเต็ด |
แมนยู ทำให้ตัวเองลำบากเอง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองไปถึง 4 ครั้ง จากโอกาสสับไกทั้งหมด 8 ครั้งในครึ่งแรก โดยมีค่า xG (ค่าความน่าจะเป็นของการได้ประตู) อยู่ที่ 1.48
- อเลฮานโดร การ์นาโช่ ซัดชนคานไป 1 ครั้ง และได้หลุดเข้าไปยิงเฉียดเสาอีก 1 ครั้ง
- บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้โอกาสโหม่งจ่อ ๆ แต่ข้ามคาน
- ราสมุส ฮอยลุนด์ ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ยิงไม่ผ่าน ลูคัส ฟาเบียงสกี จอมหนึบ ขุนค้อน
- ดิโอโก้ ดาโลต์ หนักกว่าใครเพื่อน พลาดโอกาสทองแบบเหลือเชื่อ เขากระดกบอลผ่านนายทวารไปได้แล้ว แค่ยิงให้ตรงกรอบเท่านั้นก็เป็นประตูแล้ว แต่ยิงหลุดออกกรอบไปซะอย่างงั้น
- กาเซมีโร่ ได้ขึ้นโขกจากลูกเปิดฟรีคิก แต่ ฟาเบียงสกี ซูเปอร์เซฟเอาไว้ได้
จากโอกาสทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก อย่างน้อย ๆ พวกเขาต้องผลิตสกอร์ได้ 1 ลูก แต่ขาดความเฉียบขาด ซึ่งมันคล้ายเกมลีกกับ คริสตัล พาเลซ ในครึ่งแรก เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
รู้หรือไม่ ?
แมนฯ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คือสองทีมที่ใช้โอกาสเปลืองมากสุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังผ่านไป 9 นัดแรก โดยทีมของ เอริค เทน ฮาก พลาดโอกาสทองไปแล้ว 22 ครั้ง
เจ้าถิ่นยกระดับตัวเองครึ่งหลัง
ในครึ่งแรก ''เดอะ แฮมเมอร์ส'' มีโอกาสสับไกไปเพียงแค่ครั้งเดียว ค่า xG ของพวกเขาแค่ 0.04 เท่านั้น แต่ครึ่งหลังพวกเขายกระดับตัวเองดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาสร้างโอกาสยิงไปทั้งหมด 11 ครั้ง และสร้างโอกาสทองได้ถึง 4 ครั้ง โดยมีค่า xG อยู่ที่ 2.95 (แมนฯ ยูไนเต็ด xG ครึ่งหลัง 0.63)
ต้องยกเครดดิตให้ ยูเลน โลเปเตกี ที่แก้เกมทันทีในช่วงพักครึ่ง ด้วยการเปลี่ยน แคลร์ โตดิโบ (แทน คอนสตานตินอส มาฟโรปานอส), โทมาส ซูเช็ก (แทน ลูกัส ปาเกต้า) และ คริเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ (แทน การ์ลอส โซเลร์)
- มาฟโรปานอส เซ็นเตอร์แบ็กโดนใบเหลืองไปแล้วในครึ่งแรก
- ซูเช็ก จุดเด่นอยู่ที่ลูกกลางอากาศ
- ซัมเมอร์วิลล์ มีความคล่องตัว และมีความเร็วสูง
และมันก็ได้ผลจริง ๆ เฉพาะอย่างยิ่งรายของ ซัมเมอร์วิลล์ ที่ลงมาป่วนเกมรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ดีนักแล ก่อนจะมาซัดให้ทีมออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 74
เยือน ลอนดอน คือของแสลง
จากความพ่ายแพ้ดังกล่าว ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ไปถึง 11 ครั้ง จาก 18 เกมพรีเมียร์ลีกที่มาเยือน ลอนดอน - ที่เหลือ เสมอ 5 และชนะไปเพียง 2 เกม
เท่านั้นไม่พอ นี่คือการแพ้เกมที่สามติดต่อกันที่รังเหย้าของ ขุนค้อน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ ปีศาจแดง ในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก
สร้างคอนเทนต์ได้ทุกสัปดาห์จริง ๆ
มีเรื่องให้พูดคุยกันทุกสัปดาห์จริง ๆ สำหรับการตัดสินของกรรมการพรีเมียร์ลีก และ วีเออาร์ หลังมอบจุดโทษชนิดที่ไม่น่าจะได้ให้แก่ เวสต์แฮม ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
พรีเมียร์ลีก แจงผ่าน X ว่า ''ตอนแรกผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่ เวสต์แฮม จากจังหวะที่ เดอ ลิกต์ เข้าปะทะกับ อิงส์''
''VAR พิจารณาว่ามันมีการสัมผัสที่ขาล่างของ อิงส์ เพียงพอแล้ว และแนะนำให้มีการทบทวนในสนาม ผู้ตัดสินจึงกลับคำตัดสินเดิมและให้จุดโทษ''
ผู้บรรยายต่างประเทศของช่อง พรีเมียร์ลีก พูดถึงจังหวะจุดโทษดังกล่าวว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ ''harsh'' มากเลยนะครับ คือมันรุนแรงเกินไป หมายความว่า ไม่จำเป็นต้องให้จุดโทษก็ได้ เพราะมันเป็นการ ''contact'' หรือการสัมผัสที่เบามาก ๆ
ด้าน อลัน เชียเรอร์ พูดถึงจุดโทษของ เวสต์แฮม ว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่แย่มาก ไม่ว่าคุณจะชอบ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือไม่ก็ตาม และผมก็ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่า ทำไม ไมเคิล โอลิเวอร์ (VAR) ถึงเข้ามาแทรกแซง”
ลีกอันดับ 1 ของโลก แต่ผู้ตัดสิน...ช่างไร้มาตรฐานจริง ๆ