ลิเวอร์พูล 2-0 มิดทิลแลนด์ : ชำแหละทุกความเป็นไปหลังชัยชนะของ หงส์แดง ในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รองแบ่งกลุ่ม 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 2-0 มิดทิลแลนด์
สนาม : แอนฟิลด์
1. แนวรุกชุดสองน่าเป็นห่วง
เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพในเกมที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการโรเตชันเอา ดิโอโก้ โชต้า, ทาคูมิ มินามิโนะ และ ดิว็อค โอริกี ทำหน้าที่เป็น 3 ประสานในแดนหน้าโดยมี เซอร์ดาน ชากิรี ทำหน้าที่จอมทัพ
หงส์แดง แทบจะกลายเป็นคนละทีมอย่างที่เราเคยรู้จักในครึ่งแรกเมื่อไม่สามารถสร้างโอกาสอย่างถนัดถนี่ได้เลย (ยิง 4 ครั้งไม่ตรงกรอบ) นับเป็นครั้งแรกในรอบ 51 เกมเหย้าเมื่อรวมทุกรายการนับตั้งแต่ตุลาคม 2018 ที่พวกเขาดวลกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งไม่สามารถส่องตรงกรอบได้
นอกจากจะขาดการทะลุทะลวงจากแนวรุกริมเส้นทั้ง 2 รายอย่าง โชต้า ที่ฝั่งขวาและ โอริกี ที่ฝั่งซ้ายแล้ว มินามิโนะ ในบทบาทฟอลส์ไนน์ยังถูกเข้าปะทะกระเด็นกระดอนจนไม่สามารถกดดันคู่แข่งได้ เช่นเดียวกับ ชากิรี ที่ถูกลักพาตัวหายไปจากเกม
มีเพียง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เท่านั้นที่ดูพอจะสร้างอันตรายได้จากการเติมขึ้นไปครอสบอลที่ริมเส้น
2. ฟาบินโญ น่าเป็นห่วง
จากวิกฤตอาการบาดเจ็บของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ในช่วงก่อนหน้า พลพรรค เร้ดแมชีน ดูจะมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อยู่บ้างเมื่อ ฟาบินโญ กลายเป็นตัวแทนของปราการหลังชาว ดัตช์ อย่างไม่เคอะเขินตลอดทั้ง 2 เกมที่ผ่านมากับ อาแจ็กซ์ และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ฝันร้ายจะมาเยือน เดอะค็อป หลังผ่านเกมนี้ที่ แอนฟิลด์ ราว 30 นาที
ดาวเตะทีมชาติ บราซิล ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อแฮมสตริงในจังหวะที่พยายามสปรินท์กลับไปป้องกันลูกครอสของทีมเยือนจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและเป็นโอกาสของ รีส วิลเลียมส์ เซ็นเตอร์แบ็คลูกหม้อวัย 19 ปีทำหน้าที่แทน
การขาดหายของ ฟาบินโญ ทำให้ หงส์แดง จะเหลือเพียงแค่ โจ โกเมซ และ โจเอล มาติป เท่านั้นที่เป็นปราการหลังอาชีพในทีมชุดใหญ่ให้ใช้งานโดยในรายหลังยังเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บมาในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน ที่แม้จะไม่รุนแรงมากนักแต่ก็ทำให้เขาพลาดการมีชื่อมีส่วนร่วมในเกมนี้ที่ แอนฟิลด์
โดย เยอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่าจะส่ง ฟาบินโญ สแกนอย่างละเอียดต่อไป
3. ซาลาห์ ยังไว้วางใจได้เช่นเคย
แม้จะถูกโรเตชันดร็อปอยู่บนม้านั่งสำรองในเกมนี้แต่เพียงเวลาแค่ 30 นาทีที่ถูกส่งลงสนามก็เพียงพอให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สร้างความแตกต่างต่อรูปเกมได้
ทักษะการพาบอลลากตะลุยเดี่ยวยังคงสร้างปัญหาต่อเกมรับของคู่แข่งกระทั่งกลายเป็นคนเรียกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนจะลุกขึ้นมาสังการด้วยตนเองเป็นประตูปิดกล่อง
แต่ในทางเดียวกัน เชื่อว่า เดอะค็อป ก็อาจจะอดเป็นห่วงแนวรุกของทีมไม่น้อยเมื่อยังคงต้องพึ่งพาสตาร์ทีมชาติ อียิปต์ เป็นหัวใจสำคัญเมื่อบรรดาผู้เล่นในเกมรุกชุด 2 ของทีมยังไม่อาจแสดงให้เห็นถึงระดับที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน ซาลาห์ ได้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด