บาเยิร์น (7) 4-1 (1) เชลซี : สำรวจทุกความเป็นไปหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

FC Bayern Muenchen v Chelsea FC - UEFA Champions League Round of 16: Second Leg
FC Bayern Muenchen v Chelsea FC - UEFA Champions League Round of 16: Second Leg / Matthias Hangst/Getty Images
facebooktwitterreddit

ข้อมูลการแข่งขัน
การแข่งขัน - ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2019/20 รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง
วันแข่งขัน - คืนวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2020
ผลการแข่งขัน - บาเยิร์น มิวนิค (7) 4-1 (1) เชลซี
สนาม - อัลอิอันซ์ อารีนา


1. มาตรฐานแข้ง เชลซี เทียบ บาเยิร์น ไม่ติด

FC Bayern Muenchen v Chelsea FC - UEFA Champions League Round of 16: Second Leg
FC Bayern Muenchen v Chelsea FC - UEFA Champions League Round of 16: Second Leg / Matthias Hangst/Getty Images

ด้วยสถานการณ์หลังพิงฝาของ สิงห์บลู ที่ปราชัยต่อทัพ เสือใต้ ในเลกแรกด้วยสกอร์ 3-0 ทำให้พวกเขาต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยการขาดผู้เล่นตัวหลักหลายรายอันเนื่องมาจากปัญหาอาการบาดเจ็บไม่ว่าจะเป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, คริสเตียน พูลิซิช, เปโดร ไปจนถึง มาร์กอส อลอนโซ​ และ จอร์จินโญ จากโทษแบนยิ่งทำให้ทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ด้อยศักยภาพลงอย่างเห็นได้ชัด

แม้ สิงโตน้ำเงินคราม จะสร้างโอกาสฉาบฉวยจากการวางบอลยาวที่แนวลึก ทะลุไลน์รับสูงของเจ้าบ้านให้เห็นอยู่บ้าง แต่เมื่อขาดการสนับสนุนจากแถวสองที่ดีทำให้พวกเขาแทบจะไม่สามารถทำอันตรายทีมเยือนได้เลยจนกระทั่งถูกทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยมกว่าอย่างเห็นได้ชัดของ บาเยิร์น เล่นงานจนปราชัยขาดลอย

2. แนวรับที่ต้องการยกเครื่องอย่างเร่งด่วน

FBL-EUR-C1-BAYERN MUNICH-CHELSEA
FBL-EUR-C1-BAYERN MUNICH-CHELSEA / TOBIAS SCHWARZ/Getty Images

เป็นที่น่าแปลกใจไม่น้อยเมื่อ เชลซี เดินหน้าเสริมทัพต่อเนื่องด้วยผู้เล่นในแนวรุกไม่ว่าจะเป็น ฮาคิม ซีเย็ค ไปจนถึง ติโม แวร์เนอร์ ทั้งที่ปัญหาของพวกเขาอยู่ที่แนวรับอย่างที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเกมนี้อีกครั้ง

มีเพียง เคิร์ท ซูมา เท่านั้นที่เซนส์ในเกมรับของเจ้าตัวดูจะตามทันเกมรุกอันวูบวาบของ บาเยิร์น ขณะที่นักเตะอย่าง รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซน ไปจนถึง เอเมอร์สัน พัลมิเอรี ไม่มีคนใดที่สอบผ่านเลย

3. ก็องเต้ หัวใจ สิงห์บลู

FBL-EUR-C1-BAYERN MUNICH-CHELSEA
FBL-EUR-C1-BAYERN MUNICH-CHELSEA / TOBIAS SCHWARZ/Getty Images

จากบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับ เอ็นโกโล ก็องเต้ ขยับขึ้นมารับบทบาทเป็นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ของ สิงห์บลู ภายใต้การคุมทีมของ แลมพาร์ด อีกครั้ง เจ้าตัวกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่แดนกลางทั้งในเกมรับและเกมรุกเมื่อแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นอย่างต่อเนื่อง


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!
*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด