5 การเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังหมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน - FEATURE
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ตลาดซื้อขายซัมเมอร์ของ โอเล กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปีนี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสามารถคว้าตัว 2 ดาวดังอย่าง เจดอน ซานโช และ ราฟาเอล วาราน ได้สำเร็จ โดยทั้งคู่มีค่าตัวรวมกันกว่า 115 ล้านปอนด์ ถือเป็นการลงทุนที่ถูกใจกองเชียร์ยิ่งนัก
อาจกล่าวได้ว่าซูเปอร์สตาร์ทั้ง 2 รายนี้ถือเป็นการเสริมทัพที่เข้าตามากที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่หมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลยก็ว่าได้ และยังเป็นการสร้างความหวังในการกลับมาลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้งในฤดูกาลนี้
อันที่จริง ยูไนเต็ด ก็มีีดีลเจ๋ง ๆ แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง และนักเตะเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมในชุดปัจจุบันอีกด้วย
นี่และคือ 5 การเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ เร้ดเดวิลส์ นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา
1. ลุค ชอว์ : ย้ายมาร่วมทีมปี 2014 จาก เซาแธมป์ตัน ค่าตัว 27 ล้านปอนด์
ชอว์ ย้ายมาจาก เซาแธมป์ตัน ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล พร้อมกับสตาร์อีกล็อตใหญ่อย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, อันเดร เอร์เรรา, มาร์กอส โรโฮ, ดาลีย์ บลินด์, ราดาเมล ฟาลเกา และ บิคตอร์ บัลเดส ในช่วงซัมเมอร์ 2014
ผ่านมา 7 ปีกลายเป็นกองหลังทีมชาติอังกฤษเพียงคนเดียวที่เหลือรอดอยู่ในทีมชุดปัจจุบันของ โอเล กุนนาร์ โซลชา แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะยังไม่สามารถแจ้งเกิดและวนเวียนอยู่กับโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บ แต่ด้วยความไว้ววางใจจากกุนซือนอร์วีเจี้ยน ทำให้ ชอว์ ได้กลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่และโชว์ศักยภาพที่แท้จริงจนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยพาทีมคว้ารองแชมป์ พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซันก่อนพร้อมกับเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติอังกฤษในศึก ยูโร 2020 ที่ผ่านมา
2. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช : ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2016 จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ค่าตัว ฟรี
“พระเจ้า” เป็นหนึ่งในนักเตะชุดแรกที่ โชเซ มูรินโญ ดึงเข้ามาร่วมทีม พร้อม ๆ กับ ปอล ป็อกบา, เอริค ไบยี และ เฮนริค มคิทาร์ยาน และด้วยดีกรีและชื่อเสียง นี่จึงถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามาก ๆ แม้ตอนนั้นเจ้าตัวจะอายุปาเข้าไป 35 ปีแล้วก็ตาม
แม้ว่า ซลาตัน จะมีโอกาสร่วมงานกับ ปีศาจแดง ซีซันกว่า ๆ แต่เขาก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลและ “เดอะสเปเชียลวัน” ด้วยการลงเล่นไปทั้ง 53 นัดยิงได้ 29 ประตูและทำ 10 แอสซิสต์ โดยเฉพาะในซีซันแรกที่ย้ายมาร่วมทีม เจ้าตัวยิงประตููในลีกไปได้ 17 ประตูจากการลงสนาม 28 นัด และยังช่วยพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้ง ยูโฟา ยูโรป้าลีก และ ลีกคัพ มาครองได้ในปี 2017
3. ปอล ป็อกบา : ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2016 จาก ยูเวนตุส ค่าตัว 89 ล้านปอนด์
กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสย้ายกลับมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้งด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในตอนนั้น หลังจากที่เมื่อปี 2012 เขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับสโมสรและหันไปซบ ยูเวนตุส แบบไม่มีค่าตัว ก่อนจะไปสร้างชื่อให้ตัวเองในดินแดนมักกะโรนีและสถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลก
ป็อกบา โดนวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นอย่างหนักในช่วงแรกรวมทั้งยังมีปัญหากับ โชเซ มูรินโญ ผู้ที่ดึงเขาเข้ามาร่วมทีม ก่อนที่จะค่อย ๆ คืนฟอร์มเก่งในยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา โดยเริ่มจากซีซัน 2018-2019 ซึ่งยิงได้ถึง 13 ประตูกับ 9 แอสซิสต์จากการลงสนาม 35 นัดใน พรีเมียร์ลีก และเมื่อได้ บรูโน แฟร์นันเดส เข้ามาเสริมทัพก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวได้โชว์ฝีเท้ามากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นตัวหลักในแผงกองกลางที่ทีมขาดไม่ได้แล้วในตอนนี้
4. แฮร์รี แม็คไกวร์: ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2019 จาก เลสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 80 ล้านปอนด์
แม็คไกวร์ ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามหาตั้งแต่หมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในตอนแรกหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเงินตั้ง 80 ล้านปอนด์กับนักเตะจากทีมกลาง ๆ มันจะคุ้มค่าจริงหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดแล้วเซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติอังกฤษก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือกองหลังที่ ยูไนเต็ด ขาดไม่ได้แล้วในเวลานี้
แม้จะยังไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ใด ๆ ได้ แต่นายใหญ่ ปีศาจแดง ก็เชื่อว่าการสร้างทีมที่มีรากฐานจากเกมรับที่เหนียวแน่นของอดีตกองหลัง เลสเตอร์ คือทิศทางที่ถูกต้องของสโมสร ซึ่งมันได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วเมื่อฤดูกาลก่อนที่พวกเขาสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว
5. บรูโร แฟร์นันเดส: ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2020 จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ค่าตัว 46.5 ล้านปอนด์
กองกลางตัวรุกที่ตกเป็นข่าวกับทีม ปีศาจแดง มานาน ก่อนที่พวกเขาจะสามารถคว้าตัวมาร่วมทีมได้ในช่วงเดือนมกราคมปีที่แล้ว และสาวก เร้ดเดวิลส์ สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่านี่คือนักเตะที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสโมสรในยุคหลัง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
บรูโน ไม่ได้เป็นเพียงคนที่เข้ามาสร้างสรรค์เกมรุกในแดนกลาง แต่เขายังนำพาสปิริตและจิตวิญญาณในแบบฉบับของ แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด กลับมาด้วย ดาวเตะโปรตุกีสเป็นผู้เล่นประเภทที่ยกระดับทุกส่วนของทีม และเป็นคนที่คอยเค้นศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมทั้ง ปอล ป็อกบา, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เอดิสัน คาวานี, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ และ เฟร็ด ทำให้ทีมกลับมาเล่นฟุตบอลด้วยเกมที่ดุดัน เร้าใจ และสู้ไม่ถอย พร้อมทั้งเป็นตัวจุดประกายความหวังในการกลับมาสู่บัลลังก์แชมป์ของ ยูไนเต็ด ในซีซันนี้อีกด้วย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด