ทีมชาติ เวลส์ กับ 64 ปีที่รอคอยและการสร้างทีมจากแข้งที่โดนเมิน - FEATURE
ลูกยิงแฉลบของ แกเร็ธ เบล ช่วยให้พวกเขาเอาชนะ ยูเครน ในรอบเพลย์ออฟและคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี โดยจะอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับ อังกฤษ, สหรัฐ และ อิหร่าน
ทีมนี้เกิดจากการรวมตัวของคนที่ไม่มีใครเอาเกือบจะยกทีม ไล่มาตั้งแต่สตาร์อย่าง แกเร็ธ เบล ที่ได้ลงเล่นเพียง 290 นาทีให้กับ เรอัล มาดริด ตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา หรือ แอรอน แรมซีย์ ที่ขนาดย้ายไป เรนเจอร์ส ยังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 3 เกม แถมยังเป็นคนยิงจุดโทษพลาดในรอบชิง ยูโรปาลีก อีกด้วย
ไหนจะ เวย์น เฮนเนสซี่ นายประตูวัย 35 ที่เซฟอุตลุดในเกมนัดล่าสุดก็ไม่ได้ลงเฝ้าเสาเลยตั้งแต่วันที่ 2 มกราคมเพราะต้องหลีกทางให้ นิค โป๊ป
ตามมาด้วย โจ โรดอน แข้งสำรองอดทนที่ได้สัมผัสสนามเพียง 22 นาทีกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึง คีฟเฟอร์ มัวร์ หัวหอกจาก บอร์นมัธ น้องใหม่ของ พรีเมียร์ลีก กับการได้ลงสนามเพียง 4 เกมในปี 2022
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคงหนีไม่พ้น โรเบิร์ต เพจ ผู้จัดการทีมที่หลังโดนไล่ออกจาก นอร์ทแธมป์ตัน ในปี 2017 ก็ว่างงานมาโดยตลอด กระทั่ง ไรอัน กิ๊กส์ โดนพักงานเพราะมีคดีความจนหวยมาออกที่เขา
และแม้จะมีเวลาเตรียมทีมเพียงสามเดือน แต่เขาก็ยังพา เวลส์ ทะลุรอบแบ่งกลุ่มที่มีทั้ง อิตาลี, ตุรกี และ สวิตเซอร์แลนด์ มาได้อย่างเหนือความคาดหมายด้วยเกมรับที่เหนียวแน่น
แถมล่าสุดเขายังเผยกับสื่อดังอย่าง ดิ แอธเลติก ด้วยว่าสมาคมคงไม่เก็บเขาไว้หากพลาดท่าพ่ายในรอบเพลย์ออฟ
"เราอาจจะไม่ใช่ทีมที่รวมคนมากพรสวรรค์อย่างใครเขา แต่เราใส่เต็มร้อยและเล่นด้วยใจทุกนาทีที่อยู่ในสนามอย่างแน่นอน" เบน เดวี่ส์ ปราการหลังของ เวลส์ กล่าวในบทสัมภาษณ์หลังเกมกับ ยูเครน
ที่เหลือก็ต้องมาดูกันว่าปลายปีนี้ แรงใจของ เวลส์ จะพาพวกเขาไปได้ไกลแค่ไหน หลังจากที่ต้องอกหักมาหลายต่อหลายครั้งและอยู่ใต้เงาของ อังกฤษ มาโดยตลอด