ก่อนถึงคิว ชูอาเมนี ย้อนดู 9 แข้งก่อนหน้าที่ เรอัล มาดริด คว้าตัวมาจาก ลีกเอิง - FEATURE
หากไม่มีอะไรผิดพลาด เรอัล มาดริด กำลังจะได้ตัว ออเรลียง ชูอาเมนี มาจาก โมนาโก ด้วยค่าตัวรวมถึง 100 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าเป็นยอดเงินที่ไม่ธรรมดาเลยสำหรับผู้เล่นที่อายุเพียง 22 ปี
อย่างไรก็ดี แม้ว่า ชูอาเมนี จะมีสถิติการเข้าปะทะที่โดดเด่นเป็นอย่างมากตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังถูกตั้งข้อครหาเกี่ยวกับการเล่นใน ลีกเอิง อยู่ดี ลีกที่ใครหลายๆคนมองว่าเป็นลีกที่การแข่งขันต่ำ
แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ เมื่อพิจารณาจากผู้เล่นหลายคนก่อนหน้านี้ที่ เรอัล คว้าตัวมาจากลีกสูงสุดของ ฝรั่งเศส ที่ก็ดูจะประสบความสำเร็จและแจ้งเกิดได้ก็หลายคนทีเดียว
1. เอดูอาร์โด กามาแว็งก้า
ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่เดบิวต์ให้กับ แรนส์ เมื่อสองปีที่แล้วกับวัยเพียง 16 ปี ก่อนที่สองฤดูกาลถัดมา เรอัล มาดริด จะหอบเงินจำนวน 34 ล้านมาสู่ขอเขาไปร่วมทีม
อันเชล็อตติ ไม่รีบร้อนผลักความกดดันให้กับแข้งวัย 19 รายนี้และพยายามค่อยๆให้โอกาสเขาลงสนามในฐานะแบ็คอัพของสามกองกลางระดับตำนานสโมสร
อย่างไรก็ดี ทุกเมื่อที่ กามาแว็งก้า ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง เขาก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยกับความสามารถในการผ่านบอลยาวไปจนถึงเทคนิคการแกะเพรสซิ่งที่ช่วยทีมเป็นอย่างมากในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เปแอสเช และ แมนฯ ซิตี้
2. อัลฟอรซ์ อาเรโอลา
อาเรโอลา ลงเล่นให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไปกว่า 100 นัด หลังทะลุขึ้นมาจากอคาเดมีของสโมสร
โดยหลังจากที่ เคย์เลอร์ นาบาส ย้ายไปเล่นใน พาร์ เดอร์ แพรงส์ มือกาวรายนี้ก็ย้ายข้ามฟากสลับมาเฝ้าเสาที่ ซานติอาโก เบอร์นาเบส แทน
เขาได้ลงเล่นอยู่บ้างในฤดูกาลที่ทีมคว้าแชมป์ ลาลีกา มาครองได้ แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะได้รับสัญญาถาวรจาก เรอัล อยู่ดี
3. แฟร์ล็องด์ เมนดี้
เมื่อ มาร์เซโล เริ่มแสดงให้เห็นถึงฟอร์มที่ถดถอยเพราะอายุที่มากขึ้น - เมนดี้ จึงถูกดึงตัวมาด้วยค่าตัวเกือบ 50 ล้านยูโรจาก ลียง เมื่อฤดูกาล 2018
เขามาพร้อมกับความมั่นใจและประกาศออกทีวีของสโมสรว่าต้องการที่จะสืบสานตำนานของฟูลแบ็คชาว บราซิล
หลังผ่านการออกสตาร์ทที่ขรุขระเล็กน้อย ในตอนนี้ เมนดี้ ลงเล่นให้สโมสรไปกว่า 100 เกมและถูกยกให้เป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายตัวรับที่เยี่ยมยอดที่สุดคนหนึ่งของ ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเล่นงาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในรอบชิง แชมเปี้ยนส์ลีก เสียจนไปไม่เป็นเลย
4. มาเรียโน ดิอาซ
ย้ายไป ลียง ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านในฤดูกาล 2017 หลังได้โอกาสลงเล่นเพียงหยิบมือกับ เรอัล มาดริด ก่อนที่จะถูกคว้าตัวกลับมาในปีถัดมาเพราะยิงสลุตไปถึง 18 ประตู
น่าเสียดายที่แม้จะได้สวมเบอร์ 7 เบอร์เดียวกับ โรนัลโด้ แต่เขากลับไม่สามารถทำได้ใกล้เคียงกับที่แข้งชาว โปรตุเกส ทำได้ แถมยังต้องรับบทตัวสำรองอดทนเสียเป็นส่วนใหญ่
ปัจจุบันในวัย 28 เขาทำท่าว่าจะได้ย้ายออกไปอีกครั้ง เพื่อหาโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับทีมอื่น
5. ฮาเมส โรดริเกวซ
สืบเนื่องจากฟอร์มสุดปังใน ฟุตบอลโลก 2014 เรอัล มาดริด จึงกล้าทุ่มเงินถึง 63 ล้านยูโรเพื่อพรากเขามาจาก โมนาโก
ดาวเตะชาว โคลอมเบีย ทำไป 17 ประตูกับ 18 แอสซิสต์ในฤดูกาลแรกพร้อมติดทีมยอดเยี่ยมของ ลาลีกา อีกด้วย
น่าเสียดายที่หลัง คาร์โล อันเชล็อตติ แยกทางออกไป ฮาเมส ก็ควาญหาฟอร์มเดิมของตัวเองไม่เจออีกเลย แต่ก็ยังได้แชมป์ลีกและ แชมเปี้ยนส์ลีก อีกอย่างละสองสมัย ก่อนจะย้ายไป เอฟเวอร์ตัน แบบไร้ค่าตัวเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้
6. ราฟาเอล วาราน
ย้ายมาจาก ล็องส์ ที่เพิ่งตกชั้นไป ลีกเดอซ์ มาหมาดๆ ด้วยค่าตัวเพียง 11 ล้านยูโร หลังตกเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน
เขาค่อยได้โอกาสลงเล่นสลับกับ เปเป้ ก่อนจะขึ้นมาเป็นตัวหลักเคียงข้างกับ เซร์คิโอ รามอส และช่วยทีมคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วนตลอดช่วงเวลา 10 ปีของเขากับ มาดริด
ซัมเมอร์ที่แล้ว เขาตัดสินใจย้ายไป โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัวที่ทำให้อดีตสังกัดได้กำไรถึงเกือบ 4 เท่าเลยทีเดียว
7. คาริม เบนเซมา
อีกหนึ่งแข้งที่ปฏิเสธ ยูไนเต็ด เพื่อย้ายมา เรอัล มาดริด ในปี 2009 จาก ลียง หลังแจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดคนหนึ่งของลีก
โดยตลอด 9 ฤดูกาลแรกของเขา เบนเซมา รับบทกองหน้าพระรองช่วยปลุกปั้น คริสเตียโน โรนัลโด้ จนเป็นจอมถล่มประตู
ปัจจุบันในวัย 34 ปี เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเองมีดีกว่าการเป็นพระรองและกลายเป็นคนสำคัญในการพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างสมศักดิ์ศรี
8. มาฮามาดู ดิยาร์รา
ฟาบิโอ คาเปลโล ร้องต่อบอร์ดเองเลยว่าจะต้องไปเอาตัวกองกลางรายนี้มาจาก ลียง ให้ได้ เพราะความดุดันในเกมรับของเขา
โดยหลังเป็นตัวหลักช่วยทีมคว้าแชมป์ ลาลีกา ในฤดูกาล 2007 และ 2008 เขาก็มาเจอเคราะห์ร้ายกับอาการบาดเจ็บระหว่างเล่นให้ทีมชาติจนทำให้ไม่ได้ไปต่อกับ เรอัล มาดริด และถูกส่งกลับไป ฝรั่งเศส กับ โมนาโก
9. ราฟาเอล มาร์ติน บาซเกวซ
เพลย์เมคเกอร์ที่เป็นผลผลิตของ เรอัล มาดริด ตัดสินใจย้ายออกไปเล่นให้ โตริโน ในปี 1990 เพื่อหวังจะสร้างชื่อให้กับตัวเอง ก่อนจะตามมาด้วยการย้ายไป โอลิมปิก มาร์กเซย
2 ปี หลังย้ายออกไป เขาถูกดึงตัวกลับมาอีกครั้ง และแม้จะมีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์ ลาลีกา แต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าจนแทบจะไม่สามารถลงเล่นได้อย่างต่อเนื่อง
ท้ายที่สุด บาซเกวซ ก็ได้รับอนุญาตให้ย้ายทีมอีกครั้งในปี 1995