อาร์เซนอล 3-0 โบโด/กลิมท์: เก็บตกประเด็นหลังเกม ปืนใหญ่ ยังยอดเยี่ยมนำฝูงกลุ่มยูโรป้า ลีก
อาร์เซนอล ยังคงเก็บชัยชนะต่อเนื่อง แม้ว่าในเกมนี้พวกเขาจะมีการหมุนเวียนนักเตะมากถึง 8 คนจากเกมพรีเมียร์ ลีก นัดล่าสุด
ชัยชนะในเกมนี้ทำให้เส้นทางยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มของพวกเขาสวยงามกับชัยชนะรวดสองเกมติดต่อกันพร้อมกับขึ้นเป็นจ่าฝูงกลุ่มเรียบร้อย หลังผ่านไป 2 เกมเท่านั้น และนี่คือประเด็นที่น่าสนใจสำหรับเกมนี้ของพวกเขา
การหมุนเวียนทีมในขนาดทีมที่ใหญ่ขึ้นของอาร์เซนอล
ด้วยสถานการณ์ที่เดือนตุลาคมเป็นเดือนมหาโหดสำหรับทุกทีม การหมุนเวียนนักเตะก็ต้องเกิดขึ้น ซึ่งการปรับนักเตะถึง 8 คนที่เป็นสำรองลงเล่นในเกมนี้ก็ชัดเจนว่า อาร์เซนอล มีขนาดทีมที่มากพอในการทำแบบนี้ได้ นักเตะแทบทุกคนในเกมนี้ผ่านประสบการณ์ระดับสูงมากันหมดแล้ว แม้กระทั่ง มาร์ควินญอส ดาวรุ่งบราซิลก็ผ่านลีกสูงสุดของบราซิลมาแล้วหลายสิบเกม รวมถึง แมตต์ เทอร์เนอร์ ในฐานะมือหนึ่งทีมชาติสหรัฐอเมริกา เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าปีนี้อาร์เซนอลแก้ไขเรื่องจำนวนผู้เล่นได้ดีขึ้นมากจากปีที่แล้ว แม้ตอนนี้จะมีนักเตะ 2-3 คนต้องพักจากอาการบาดเจ็บก็ตาม
สปิริตนักสู้ของทีมจากนอร์เวย์
ในฐานะทีมแชมป์ลีกนอร์เวย์ โบโด/กลิมท์ อาจจะเป็นรองอาร์เซนอลด้วยทั้งลีก, ผู้เล่น และผลงานของทีม แต่เกมนี้พวกเขาทำได้ดีในการต่อสู้กับอาร์เซนอล โดยเฉพาะครึ่งหลังที่พวกเขากล้าโชว์การเซตบอลในเกมรับเพื่อสร้างเกมรุก แม้จะพลาดบ้าง แต่ก็หลายครั้งที่พวกเขาสร้างเกมรุกไปจนถึงการได้ลุ้นประตู ทำให้เกมนี้ใน 45 นาทีหลัง พวกเขาไม่ได้โดนขึงเกมบุกทุบอยู่ฝ่ายเดียว
การ “ผิดแผน” ของผู้มาเยือนใน 45 นาทีแรก
เกมวันนี้ โบโด/กลิมท์ ซื้อเกมรับของพวกเขาเป็นอย่างมาก และรอลุ้นในจังหวะสวนกลับ 20 นาทีแรกทีมเยือนทำได้ดีมาก เกมรับพวกเขามาพร้อมกับวินัยการเล่น ความพยายามในการตัดคู่กองกลาง ชาก้า – โลกอนก้า ในการเล่นเกมรุก หรือปิดพื้นที่กลางสนามไม่ให้เป็นพื้นที่ผ่องถ่ายบอลของเจ้าบ้าน ตรงนี้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาทำการบ้าน ศึกษาเกมอาร์เซนอลมาเป็นอย่างดี
จังหวะผิดพลาดเกิดขึ้นจากจังหวะเสียบอลในเกมรุกของพวกเขาเอง เมื่อเสียบอลแล้วพื้นที่ตรงกลางที่เคยแน่น กลับเปิดช่องว่างใหญ่กลางสนาม และต้องชมนักเตะอาร์เซนอลที่เข้าทำเร็วตั้งแต่เคลียร์บอลมาจนถึงจังหวะจบสกอร์ เป็นจังหวะสวนกลับที่ทรงประสิทธิภาพประตูหนึ่ง และมันกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม
อย่างไรก็ตามทีมเยือน “ผิดแผน” ที่สุดคือการเสียประตูที่สองเร็ว การเล่นเกมรับที่ดีมาตลอดแต่มาเสียประตูที่สองจากจังหวะต่อเนื่องของลูกตั้งเตะนับเป็นเรื่องเสียหายใหญ่สำหรับพวกเขาและเป็นจุดที่ทำให้พวกเขาลำบากจนต้องเจอกับความพ่ายแพ้ในที่สุด
โลกอนก้า กับการยืนตัวต่ำสุดของกองกลาง
การเลือกพักโธมัส ปาเตย์ กองกลางคนสำคัญของทีมเป็นสิ่งที่ถูกคาดเดาได้อยู่แล้ว เมื่อพวกเขามีเกมใหญ่กับลิเวอร์พูลรออยู่ เช่นเดียวกับการเลือก โลกอนก้า ลงมาแทนที่ เขาไม่ใช่กองกลางตัวรับ แต่ด้วยแผนการเล่นของทีม ต้องมีกลางตัวต่ำหนึ่งคน ซึ่งเกมนี้เขาก็ทำงานได้ตามมาตรฐานตัวเอง คุมพื้นที่ได้จ่ายบอลไปรอบตัว เพิ่มเติมด้วยครึ่งหลังหาจังหวะดันเกมขึ้นหน้าบ้างในบางจังหวะ
การวิ่งในเกมรับของเขา ด้วยตำแหน่งการเล่นที่บทบาทเป็นคนที่เชื่อมเกมจากหลังมากลาง จังหวะการวิ่ง การรับบอลของเขาไม่ได้ช่วยให้ง่ายต่อการออกบอลของนายทวาร หรือแนวรับ หลายครั้งไม่ได้ช่วยทีมในแบบที่ควรจะเป็น ผ่านไปอีกหนึ่งเกม โลกอนก้า ยังไม่เหมาะกับการเล่นตำแหน่งนี้
แผนการเล่นของอาร์เซนอลกับการใช้แทคติก Invert Full Back ในหลายเกมก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างทีมที่ให้ระบบมาเอื้อต่อผู้เล่นในทีมด้วยเช่นกัน