เบลลิ่งแฮม สะใจสุดขีดหลังพาทีมชาติ อังกฤษ โกงความตายในช่วงทดเจ็บ

ทีมชาติ อังกฤษ เกือบจะต้องกลับบ้านเร็วกว่ากำหนดเมื่อพวกเขายังคงเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานจนถูก สโลวาเกีย ขึ้นนำและยื้อเกมไปจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนที่ จู๊ด เบลลิ่งแฮม จะก้าวเข้ามาเป็นผู้ยิงประตูตีเสมอสุดสวยในนาทีสุดท้ายก่อนจบการแข่งขัน พลิกให้ อังกฤษ กุมโมเมนตั้มของเกมกลับมาครองจนพลิกแซงได้ในทันเวลาพอดี ซึ่งล่าสุดฮีโร่ประจำเกมอย่าง จู๊ด ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าตนสะใจแบบสุด ๆ ที่ได้แสดงให้นักวิจารณ์ทั้งหลายเห็นว่าพวกเขามีดีกว่าที่คิด

"การลงเล่นรับใช้ทีมชาติ อังกฤษ ควรจะเป็นโมเมนต์ที่น่าภาคภูมิใจในชีวิต แต่ช่วงหลัง ๆ มันดูจะไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นความกดดันที่สูงมาก แฟนบอลคาดหวังจากพวกเรามากทั้ง ๆ ที่เราเล่นได้ดีในสองทัวร์นาเม้นต์ที่ผ่านมา บางทีพวกเขาก็วิจารณ์กันเกินไป ซึ่งคุณก็ต้องมองเป็นเรื่องส่วนตัวบ้างแหละ พวกเราก็พยายามกันอย่างหนักในเกมนี้ รวมถึงซ้อมอย่างหนักในทุกวันเพื่อให้แฟนบอลมีความสุข ซึ่งบางทีมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด บางทีพวกเขาก็ทับถมเรามากไป มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสบอารมณ์นักนะ แต่บางครั้งคุณก็สามารถนำคำพูดเหล่านั้นมาพัฒนาตนเอง และโยนมันกลับไปที่พวกเขาบ้าง"

"มันค่อนข้างยากนะที่จะเปิดเผยความรู้สึกเวลานักฟุตบอลอย่างเราให้สัมภาษณ์ เพราะมีแต่ผู้คนคอยจ้องจะตัดสิน ดังนั้นสำหรับผม ฟุตบอลจึงเป็นเรื่องในสนาม การยิงประตูและดีใจเป็นวิธีที่ผมจะได้ปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดออกไป บางครั้งก็เป็นการส่งสัญญาณถึงใครบางคนด้วย ผมมีมากสุขมากในเกมวันนี้ อดรีนาลีนพุ่งพล่านเต็มที่เลย"

"ผมคิดว่าเราเล่นได้ดีทีเดียวนะซึ่งก็ทำให้เรายิงประตูได้ในตอนท้าย เราควบคุมเกมได้เป็นส่วนใหญ่ สร้างความอันตรายได้ในพื้นที่สุดท้าย ถึงแม้จะยังสร้างสรรค์โอกาสในจังหวะสุดท้ายได้ไม่เฉียบขาดนัก มันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีซึ่งจะช่วยให้เราก้าวต่อไปอย่างแน่นอน"

"พวกผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา เราร่วมชนะเกมนี้ไปด้วยกันนะ ไม่ใช่แค่ผม, แฮร์รี่, หรือใครคนใดคนหนึ่ง ทั้ง ไอแวน โทนี่ย์, เอเบริชี่ เอเซ่, โคล พาลเมอร์, หรือแม้กระทั่ง บูกาโย่ ซาก้า ซึ่งถูกจับไปเล่นเป็นแบ็คซ้าย มันเป็นการเสียสละอย่างมากเพื่อทีม และมันเป็นพลังที่เราต้องสะสมไว้ใช้ต่อสู้ในศึกถัดไป"

จู๊ด เบลลิ่งแฮม และทีมชาติ อังกฤษ ยังอยู่ในเส้นทางการพิสูจน์ตนเองว่าพวกเขาดีพอจะก้าวถึงตำแหน่งแชมป์ ยูโร 2024 หรือไม่ ซึ่งในเกมหน้าพวกเขาจะต้องลงฟาดแข้งกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในคืนวันเสาร์ที่ 6 กรกฏาคม 2567 ซึ่งเป็นทีมที่ไม่แพ้ใครมาถึง 8 นัดติดต่อกันแล้ว ต้องมาลุ้นกันว่าทีมชาติ อังกฤษ ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะยกระดับการเล่นขึ้นมาได้ถึงระดับไหน และ จู๊ด เบลลิ่งแฮม จะยังคงรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นของเขาได้จนจบม้วนหรือไม่

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในศึก ยูโร 2024 ได้ที่นี่