[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติอิตาลี ระหว่างปี 2000-2020

และแล้วก็มาถึงคิวของทีมขวัญใจสาวไทยหลายคนอย่างทีมชาติอิตาลี ที่นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องฝีเท้าแล้ว เรื่องหน้าตาของนักฟุตบอลเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน ทัพอัสซูรีมีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก 4 สมัย เดิมทีเคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วง 30 ที่เป็นแชมป์โลกถึง 2 สมัยในยุคนั้น ซึ่งหลังจากนั้นต้องรออีกกว่า 50 ปีถึงจะมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งในปี 82 และหนล่าสุดเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นแม้พวกเขาจะเคยเข้าชิงในศึก ยูโร 2012 ที่ผ่านมา แต่ในอีกหลาย ๆ ทัวนาแมนต์ที่พวกเขาทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง เราจึงอยากพาทุกท่านไปดูกันว่าตั้งแต่จุดตกต่ำไปถึงจุดสูงสุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ มีแข้งรายไหนกันบ้าง ที่ดีพอที่จะติดในทีม ”11 ผู้เล่นที่ว่ากันว่าดีสุดของทีมชาติอิตาลีแห่งศตวรรษที่ 21”
1. ผู้รักษาประตู - จิอันลุยจิ บุฟฟอน
Gigi Buffon after Italy's 2006 World Cup win! #FridayFeeling pic.twitter.com/x5qHkAJbbS
— Top Eleven (@topeleven) January 12, 2018
ยอดนายทวารระดับตำนานของอิตาลี และทีมยูเวนตุส เจ้าของสถิตินักเตะที่ติดทีมอัสซูรีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 176 เกมด้วยกัน บุฟฟอน เข้ามารับใช้ชาติตั้งแต่อายุ 19 ปี ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาฝีมือจนประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้สำเร็จเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา
2. แบ็คขวา - จานลูกา ซามบร็อตตา
?? 98 #Italy caps
— Italy (@azzurri) February 19, 2018
⚽️ 2 #Azzurri goals
? 2006 #WorldCup winner
? Happy Birthday to Gianluca #Zambrotta who was born on 19th February 1977 in Como! #VivoAzzurro pic.twitter.com/PxVfxG6gs7
แบ็คขวาที่ว่ากันว่าครบเครื่องที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของทีมอัสซูรี ค้าแข้งอยู่ในยุคคาบเกี่ยวระหว่างปี 90 และ 2000 ประสบความสำเร็จในระดับสโมสรกับ บาร์เซโลนา ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน ซามบร็อตตา ติดทีมชาติไปแล้วกว่า 98 เกม เป็นหนึ่งในกำลังหลักชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 เช่นกัน
3. กองหลัง – อเลสซานโดร เนสต้า
Alessandro Nesta & Fabio Cannavaro, Italy 2002 pic.twitter.com/fnW3DyEErx
— Classic Calcio (@ClassicCalcio) March 11, 2014
ยอดกองหลังขวัญใจแฟนบอล เอซี มิลาน อเลสซานโดร เนสต้า แจ้งเกิดกับการเล่นให้กับ ลาซิโอ ในช่วงต้นยุค 90 กระทั่งปี 2002 ปีศาจแดงดำ จัดการกระชากตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวกว่า 28 ล้านปอนด์ แต่เจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความคุ้มค่าด้วยการพาทีมเถลิงบรรลังแชมป์แทบจะทุกรายการที่ได้ลงเล่นกระทั่งหมดสัญญากับทีมไปในปี 2002 ด้านทีมชาติเขาเป็นหนึ่งในกำลังหลักชุดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 เมื่อปี 2006 ที่ผ่านมา ซึ่งรวมแล้วตลอดอาชีพการค้าแข้ง เนสต้า ลงสนามให้กับทัพอัสซูรีไปทั้งสิ้นกว่า 78 เกมด้วยกัน
4. กองหลัง - ฟาบิโอ คันนาวาโร
Italy captain Fabio Cannavaro celebrates winning the FIFA World Cup2006,
— tphoto (@tphoto2005) February 3, 2020
Italy vs France 1-1(PK5-3) at Olympic Stadium in Berlin, Germany on 9 July 2006
Photo by Masahide Tomikoshi/TOMIKOSHI PHOTOGRAPHY pic.twitter.com/KkjxsHAqO2
ปราการหลังรายล่าสุดที่คว้ารางวัล ฟีฟ่า บัลลงดอร์ มาได้ ฟาบิโอ คันนาวาโร แจ้งเกิดจากการค้าแข้งให้ ปาร์มา กระทั่งย้ายไปโด่งดังกับ อินเตอร์ มิลาน ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ด้านผลงานกับทีมชาติเจ้าตัวจัดว่าเป็นกำลังหลักในทีมชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 คันนาวาโร ติดทีมชาติไปทั้งสิ้น 136 นัดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีมชาติอิตาลี เป็นรองเพียง บุฟฟอน เท่านั้น
5. แบ็คซ้าย – เปาโล มัลดินี
Paolo Maldini, Italy 2002#VivoAzzurro pic.twitter.com/qEiwRMe00h
— Classic Calcio (@ClassicCalcio) October 13, 2014
ยอดกองหลัง “วันแมนคลับ” ของ เอซี มิลาน ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทุกรูปแบบกับทีมปีศาจแดงดำ มัลดินี ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1988 น่าเสียดายที่ยุคของเขา พลพรรคอัสซูรี ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ทำได้เพียงแค่ตำแหน่งรองแชมป์โลกปี 1994 ที่แพ้จุดโทษ บราซิล ไปอย่างน่าเสียดายเท่านั้น
6. กองกลาง – ดานิเอเล เด รอสซี
CLASS: Daniele De Rossi left his 2006 World Cup medal in the coffin of the Italy kit man who recently died. pic.twitter.com/iFiR4sg9N6
— Oh My Goal (@OhMyGoalUS) March 20, 2016
กองกลางผู้แจ้งเกิดและเติบโตกับ โรมา แม้ตลอดเวลาเกือบ 20 ปี เจ้าตัวจะแทบไม่ประสบความสำเร็จกับทีมหมาป่ากรุงโรม มากนัก แต่ด้วยฝีเท้าคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเจ้าตัวคือระดับเวิลด์คลาสของจริง ด้านทีมชาติ เด รอสซี เป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 โดยรวมแล้วเขาติดทีมชาติไปทั้งสิ้นกว่า 117 นัด ทำไปได้ทั้งหมด 21 ประตูด้วยกัน
7. กองกลาง - อันเดรีย ปิร์โล
Andrea Pirlo was an international legend:
— Goal (@goal) May 19, 2019
1️⃣1️⃣6️⃣ Italy caps
1️⃣3️⃣ Italy goals
2006 World Cup winner ?pic.twitter.com/IH1AJG0cX6
จอมเทคนิคที่ลีลาความพริ้วไหวของเขาไหลลื่นเนียนตาชวนเพลิดเพลินซะเหลือเกิน ในระดับสโมสร ปีร์โล ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งกับ เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส ส่วนในแคมป์ทีมชาติก็ไม่น้อยหน้า เจ้าตัวติดทีมชาติไปทั้งสิ้นกว่า 116 นัดด้วยกัน แถมยังเป็นมิดฟิลด์ตัวสำคัญในทีมชุดแชมป์โลกเมื่อปี 2006 ที่ผ่านมาอีกด้วย
8. กองกลาง - มาร์โก แวร์รัตติ
Marco Verratti (Italy) in action during the Nations League football match between Italy and Portugal at Stadio Giuseppe Meazza on November 17, 2018 in Milan Italy.
— Massimiliano Ferraro (@massimferraro) November 18, 2018
Final results: 0-0 - © Massimiliano Ferraro #marcoverratti #verratti #italyportugal #italiaportogallo #nationsl… pic.twitter.com/GvbaMOKrFK
หนุ่มน้อยน้องเล็กที่สุดในบรรดาผู้คนในลิสวันนี้ ซึ่งเป็นรายเดียวที่ยังรับใช้ชาติอยู่ในปัจจุบัน แวร์รัตติ แจ้งเกิดกับ เปสคารา ก่อน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จะดึงตัวไปร่วมทัพเมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัวเพียง 10 ล้านปอนด์เท่านั้น ในนามทีมชาติเจ้าตัวถูกคาดหวังให้เป็นตัวตายตัวแทนของ อันเดรีย ปิร์โล ที่จะมาคอยขับเคลื่อนเกมในแดนกลาง ซึ่งในเรื่องฝีเท้าของเขากับ แปแอสเช คงไม่มีใครสงสัยใด ๆ ต้องมาดูกันว่ากับทัพอัสซูรีเขาจะพาทีมประสบความสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้ได้หรือไม่
9. กองหน้า – ฟรานเชสโก้ ต็อตติ
5 - Francesco #Totti is the Italian player to have directly involved in the most goals (5) in the World Cup 2006 (1 goal and 4 assists). Decisive.#Italy #WorldCup pic.twitter.com/WG7B6M0D0d
— OptaPaolo (@OptaPaolo) March 26, 2020
หัวหอกฉายา “เจ้าชายหมาป่า” เป็นอีกหนึ่งวันแมนคลับที่เรียกได้ว่าแฟน ๆ โรมา รักและเทิดทูนสุด ๆ แม้เขาจะไม่ได้กอบโกยถ้วยรางวัลมากมายกับต้นสังกัด แต่ในเรื่องฝีเท้าแน่นอนว่าทุกคนบนโลกต่างยอมรับในความยอดเยี่ยมของเขาคนนี้อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับทีมชาติ ต็อตติ ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งการคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 แถมยังเคยเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของอิตาลีถึง 2 สมัยด้วยกัน ในปี 2000 และ 2003 ด้วยกัน
10. กองหน้า - อเลสซานโดร เดล ปิเอโร
?? Happy birthday, 2006 world champion & Italy hero Alessandro Del Piero! ?? pic.twitter.com/GPPRveAdL9
— UEFA EURO 2020 (@EURO2020) November 9, 2016
กองหน้าตัวเก่งจากค่ายม้าลาย ที่เรียกได้ว่ามีประสบการณ์ร่วมกับทีมมาแทบทุกรสชาติตั้งแต่คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือแม้แต่การถูกปรับตกชั้นในปี 2006 ที่เขาก็ยังคงอยู่เป็นกำลังหลักให้กับทีมตลอดมา กับทีมชาติเจ้าตัวถือเป็นกองหน้าจอมเทคนิคคนหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบ และที่สำคัญอยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์โลกเมื่อปี 2006 อีกด้วยเช่นกัน
11. กองหน้า – คริสเตียน วิเอรี
??| A very happy birthday to Christian #Vieri who is 44 today!
— Italy (@azzurri) July 12, 2017
? https://t.co/Jh6YNRzcvr@vieri_bobo #Italy #AzzurriLegends ??#Azzurri pic.twitter.com/pm15jXBGxr
อีกหนึ่งหัวหอกร่วมสมัยที่เริ่มต้นค้าแข้งตั้งแต่ช่วงปลายยุค 80 ก่อนจะมาโด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงปลายยุค 90 วิเอรี ติดทีมชาติไปเพียง 49 เกม ทำไปได้ 23 ประตู น่าเสียดายที่ยุคทองของเขา ทัพอัสซูรีไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าใดนัก แต่ต้องบอกเลยว่าผลงานส่วนตัวของเขาจัดว่าไม่ธรรมดา โดยเฉพาะความเฉียบขาดในกรอบเขตโทษที่สามารถสร้างความหวันใจให้กับแผงหลังทีมคู่แข่งได้อยู่เสมอ ๆ
บทความชุด Best XI นานาชาติ
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติอังกฤษระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติบราซิลระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติญี่ปุ่นระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติอาร์เจนตินาระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติโครเอเชียระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติฝรั่งเศสระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติโคลอมเบียระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติไอวอรี โคสต์ระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติสเปน ระหว่างปี 2000-2020
[BEST XI] จัดทีม 11 นักเตะดีที่สุดของทีมชาติเบลเยียมระหว่างปี 2000-2020
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด