บราซิล 2-0 เซอร์เบีย: เจาะประเด็นหลังเกม ทัพแซมบ้า โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งแชมป์ ศึกฟุตบอลโลก 2022
รายการ: ฟุตบอลโลก 2022, รอบแบ่งกลุ่ม, กลุ่ม จี, นัดแรก
วันแข่งขัน: คืนวันพฤหัสบดี ที่ 24 พฤศจิกายน 2022
เวลาแข่งขัน: 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สนาม: ลูซีล ไอคอนิค
ผลการแข่งขัน: บราซิล 2-0 เซอร์เบีย
1. เกมแพลนของ เซอร์เบีย ดี แต่ยืนระยะไม่นาน
ดราแกน สตอยโควิช ติดตั้งระบบ 3-4-2-1 โดยใช้ นิโกล่า มิเลนโควิช, มิลอส เวลจ์โควิช และ สตราฮินย่า พาฟโลวิช ยืนเป็นสามเซ็นเตอร์แบ็ก
วิงแบ็กสองฝั่งเป็น อันดรีย่า ซิฟโควิช (ขวา) และ ฟิลิป มลาเดโนวิช (ซ้าย) ขณะที่กลางสองคนเป็น ซาซ่า ลูคิซ กับ เนมันย่า กูเดลจ์ ส่วนแผนกตัวรุกเป็น ดูซาน ทาดิช กับ เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช คอยสนับสนุน อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช หอกเป้า
เวลาถอยลงมาตั้งรับจะยืนในรูปแบบ 5-3-1-1 หรือจะเป็น 5-4-1 ก็ย่อมได้ โดย สตอยโควิช กุนซือ เซอร์เบีย สั่งให้ลูกทีมของเขา เพรสซิ่งใส่นักเตะ บราซิล ไม่เปิดพื้นที่ให้นักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูงอย่าง วินิซิอุส และ เนย์มาร์ มีพื้นที่เล่นง่ายๆ พยายามปิดพื้นที่ ยืนกันแน่น ทำให้ บราซิล เจาะเข้าในลำบาก ซึ่งบางครั้งก็ต้องอาศัยยิงไกลแทน
เซอร์เบีย เป็นทีมที่มีความแข็งแกร่ง เน้นพละกำลัง มีสมาธิกับเกมสูง เกมรับดุดัน พวกเขาใช้ลูกหนักเล่นงานนักเตะ แซมบ้า เฉพาะอย่างยิ่งกับ เนย์มาร์
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในครึ่งแรก พวกเขาทำได้ดีมากในแง่เกมรับ แต่พวกเขาดีแค่เพียง 45 นาที
2. สมราคาเต็งแชมป์
เต็ง 2 อย่าง อาร์เจนตินา แพ้ ซาอุดิอาระเบีย แบบช็อกโลก แต่ เต็ง 1 บราซิล ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง แม้ว่าครึ่งแรกพวกเขาจะเจอเกมที่อึดอัดก็ตาม
พวกเขาค่อยๆ นวดคู่แข่ง เกมรุกหลากหลาย เจาะทุกพื้นที่ในพื้นที่สุดท้าย ทั้งริมเส้นสองฝั่ง, พื้นที่ฮาล์ฟสเปซ และ โซน 14 พวกเขาเล่นด้วยทีมเวิร์ค ผสมผสานกับความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น อาวุธติดมือเยอะ แถมยังติดตั้งลูกยิงไกลอีกต่างหาก
อนึ่ง นับตั้งแต่ที่พวกเขาแพ้ อาร์เจนตินา ในนัดชิงชนะเลิศ ศึก โคปา อเมริกา เมื่อปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 16 นัดติด แบ่งเป็นคว้าชัย 13, เสมอ 3, กดไป 40 ลูก, เสียเพียง 5 ลูก และเก็บไป 11 คลีนชีต
3. ฮีโร่
ดาวเตะสังกัด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เหมาคนเดียวสองประตูในนัดนี้ แถมยิงใน เวิลด์คัพ เท่ากับ โรนัลดินโญ่ อีกต่างหาก
ครึ่งแรกอาจจะดูเงียบไปหน่อย แต่ครึ่งหลังเขามีบทบาทมากขึ้น บอลมาถึงตัวเขามากขึ้น หาพื้นที่และยืนตำแหน่งได้ดี โดยสถิติระบุว่า เขาสัมผัสบอลไป 25 ครั้ง สับไก 3 ครั้ง ตรงกรอบ 2 ครั้ง ได้ 2 ประตู
นอกจากนี้ 7 นัดหลังสุดกับ ทีมชาติ บราซิล เขาซัดไปถึง 9 ตุง
4. หัวใจสำคัญแดนกลาง
กาเซมิโร่ กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีอย่างต่อเนื่อง เขาเป็นอีกคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดนี้
เขาตัดบอลได้เยี่ยม เขาจ่ายบอลแบบ ''คีย์พาส'' ไป 1 ครั้ง, วางบอลยาวแม่นยำ 3 ครั้งจาก 5, แท็คเกิ้ล ไป 3 ครั้ง, บล็อคลูกยิง 1 และ เคลียร์บอลไปอีก 1
อันที่จริงเขาเกือบมีชื่อเป็นผู้ทำประตูในครึ่งหลังจากจังหวะยิงไกล แต่น่าเสียดายที่บอลมันไปชนคาน
5. เนย์มาร์ เจ็บ
กองหน้าวัย 30 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวา ซึ่งมีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด โดยล่าสุด โรดรีโก้ ลาสมาร์ แพทย์ประจำทีมชาติบราซิล ยืนยันว่า เนย์มาร์ ข้อเท้าพลิก และต้องประเมินอาการของเขาอีกทีวันศุกร์นี้
''เนย์มาร์ ข้อเท้าพลิก มันเป็นอาการบาดเจ็บโดยตรง มีอาการบวมออกมาอย่างเห็นได้ชัด เราได้เริ่มต้นรักษาอาการเจ็บของเขาแล้ว ซึ่งฝ่ายกายภาพบำบัดเป็นคนคอยดูแล'' แพทย์ระบุ
ทั้งนี้ เกมกับ เซอร์เบีย เนย์มาร์ โดนคู่แข่งไล่อัดใส่อย่างหนักหลายจังหวะ