คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง ลิเวอร์พูล - เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดสนามวันอาทิตย์นี้ - FEATURE

วิเคราะห์คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่จะลงสนามในเกม พรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์ หงส์แดง บุกรัง สิงโตน้ำเงินคราม วันอาทิตย์นี้
Tottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League
Tottenham Hotspur v Liverpool FC - Premier League / Getty Images/GettyImages
facebooktwitterreddit

คู่แข่งขัน

เชลซี พบ ลิเวอร์พูล

วันแข่งขัน

วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2023

สนาม

สแตมฟอร์ด บริดจ์

ผู้ตัดสิน

แอนโทนี เทย์เลอร์

เวลาการแข่งขัน

22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย

เป็นเกมเปิดสนามที่น่าสนใจสุด ๆ ของฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นการพบกันของสองทีมฟอร์มตกเมื่อปีก่อนอย่าง เชลซี ที่จะเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้องรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยที่ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมาทั้งคู่ต่างทำการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่เหมือน ๆ กันเพื่อหวังจะกลับสู่เส้นทางของความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ลิเวอร์พูล แทบจะยกเครื่องแดนกลางใหม่ทั้งหมด โละตัวเก๋าถ่ายสายเลือดใหม่พร้อมปิดดีลมิดฟิลด์ตัวตายตัวแทนเข้าสู่ทีมอย่างเป็นทางการแล้ว 2 คน ทั้ง อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ จาก ไบรท์ตัน และ โดมินิค โซโบสซไล จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่ง ณ ปัจจุบันแว่ว ๆ ว่าใกล้จะได้ตัว มอยเซ ไคเซโด้ จาก ไบรท์ตัน มาร่วมทีมอีกรายแล้ว แต่หากเป็นจริงก็คาดว่าน่าจะยังลงทะเบียนไม่ทันเกมสุดสัปดาห์นี้

ด้านเจ้าบ้าน เชลซี โละตัวหลักเดิมออกจากทีมไปมากกว่า 10 รายในช่วงที่ผ่านมา ก่อนจะเน้นสอยดาวรุ่งสายเลือดใหม่เข้ามาร่วมทีมเป็นส่วนใหญ่โดยตัวดัง ๆ ก็มีทั้ง คริสตอฟ เอ็นคุนคู จาก ไลป์ซิก นิโกลาส แจ็คสัน จาก บียาร์เรอัล อักเซล ดิซาซี จาก โมนาโก หรือแม้แต่นายทวารอย่าง โรเบิร์ต ซานเชซ จาก ไบรท์ตัน

นี่จึงเป็นประเด็นที่แฟนบอลต่างจับตาไม่น้อยสำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีมในเกมนัดประเดิมฤดูกาลในวันอาทิตย์ วันนี้เราจึงลองมาวิเคราะห์และคาดการณ์ความเป็นไปได้ของทั้ง สิงห์บลู และ หงส์แดง เดาใจผู้จัดการทีมทั้งสองฝ่ายดูว่าจะส่งใครลงประเดิมสนามกันบ้าง...

FBL-EUR-C1-TOTTENHAM-LIVERPOOL
FBL-EUR-C1-TOTTENHAM-LIVERPOOL / OSCAR DEL POZO/GettyImages

เชลซี

ณ ปัจจุบัน สิงโตน้ำเงินคราม มีรายงานนักเตะบาดเจ็บอยู่ 6 รายด้วยกันทั้ง มาร์คัส เบตติเนลลี ผู้รักษาประตูมือสาม คริสตอฟ เอ็นคุนคู แข้งใหม่ที่โชคร้ายเจ็บเข่าตอนปรีซีซั่นต้องเข้ารับการผ่าตัดพักยาวจนถึงปลายปี เช่นเดียวกับ เวสลีย์ โฟฟานา กองหลังชาวฝรั่งเศสที่เจ็บหนักไปก่อนหน้านี้ ส่วนรายที่ยังต้องรอลุ้นอาการก็มีทั้ง อาร์มันโด้ โบรยา เบอร์นัวต์ บาดิลชีล และ นอนี มาดูเอเก้

ดังนั้นหากนำผู้เล่นที่เหลือมาจัดทีมสไตล์ที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ถนัดด้วยแผน 4-2-3-1 คาดว่าจะออกมาดังนี้

ผู้รักษาประตู - เคปา อาร์ริซาบาลาก้า
นายทวารชาวสเปนคาดว่าน่าจะได้รับโอกาสให้ลงเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่งก่อน โดยมี โรเบิร์ต ซานเชซ รอเสียบหากผลงานไม่เข้าตา

เซ็นเตอร์แบ็ค - ติอาโก้ ซิลวา
แน่นอนว่าแม้จะแก่รุ่นลุง แต่เชื่อว่าปราการหลังชาวบราซิลรายนี้ก็ยังเป็นคนที่น่าจะไว้ใจได้มากที่สุด ด้วยประสบการณ์ด้วยความนิ่งน่าจะช่วยคุมน้อง ๆ ให้อยู่ในเกมได้เป็นอย่างดี

เซ็นเตอร์แบ็ค - อักเซล ดิซาซี
ด้วยสถานการณ์ที่ทีมมีเซ็นเตอร์ใช้งานไม่มากนักเชื่อว่า ดิซาซี กองหลังคนใหม่น่าจะได้โอกาสลงสนามก่อนทั้ง ลีวาย โคลวิลล์ รวมถึง เทรโวห์ ชาโลบาห์ ส่วน โฟฟานา และ บาดิลชีล ยังบาดเจ็บไม่พร้อมใช้งาน

แบ็คขวา - รีซ เจมส์
กัปตันทีมคนใหม่อย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าเจ้าตัวจะเป็นแบ็คตัวหลักให้ทีมในฤดูกาลนี้แบบเต้มตัว โดยมี มาโล กุสโตเป็นอะใหล่บนม้านั่ง

แบ็คซ้าย - เบน ชิลเวลล์
แน่นอนว่าสองคนที่จะเบียดแย่งตำแหน่งกันในปีนี้คงหนีไม่พ้น ชิลเวลล์ และ คูคูเรญา แต่เชื่อว่าด้วยความบาลานซ์ของแบ็คทีมชาติอังกฤษน่าจะได้รับโอกาสก่อนในนัดนี้ แถมทีมยังดึง เอียน มัตเซน แบ็คซ้ายดาวรุ่งขึ้นมาอีกราย ขณะที่ เลวิส ฮอลล์ กำลังจะย้ายไปร่วมทีม คริสตัล พาเลซ ด้วยสัญญายืมตัว

กองกลาง - เอ็นโซ เฟอรนันเดซ
ด้วยตำแหน่งผู้เล่นในแดนกลางที่มีจำกัด ณ เวลานี้ แน่นอนว่า เอ็นโซ หากไม่เจ็บไม่ป่วย ยังไงก็น่าจะจองตำแหน่งตัวจริงของทีมในฐานะ "ดีปไลน์เพลย์เมคเกอร์" ตัวหลักของทีมอย่างแน่นอน

กองกลาง - คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์
เป็นอีกคนที่คาดว่าจะก้าวขึ้นมามีบทบาทอย่างเต็มตัวในปีนี้สำหรับกองกลางดีกรีทีมชาติอังกฤษที่เล่นได้ทั้งตัวต่ำและตัวรุก ซึ่งคาดว่าช่วงแรก พอช น่าจะจับมายืนต่ำคอยทำเกมคู่ เอ็นโซ ไปก่อน หากในอนาคตได้ตัวรับเข้ามาใหม่ก็ค่อยดันขึ้นไปยืนสูงมากขึ้น

กองกลางตัวรุก - คาร์นีย์ ชควูเมก้า
เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ซึ่งเดิมทีคาดว่า เอ็นคุนคู จะเข้ามาประจำการเป็นตัวปั้นเกม แต่ดันมาเจ็บยาวไป ทำให้อาจะเป็น ชูควูเมก้า ที่จะได้ประจำการ แต่หากต้องการเกมรับที่แน่นหนาอาจเป็น อังเดร ซานโตส ที่ได้ลงสนามก็เป็นได้

ปีกขวา - ราฮีม สเตอร์ลิง
อีกหนึ่งตัวเก๋าที่ยังอยู่รอดปลอดภัยในทีมซีซั่นนี้ ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวก็จะยังคงเป็นตัวหลักในฐานะซีเนียร์ของทีมต่อไป

ปีกซ้าย - มิเคย์โล มูดริค
แข้งดีกรีตัวความหวังหมายเลข 10 คนใหมีของทีมที่แม้ฤดูกาลก่อนจะยังไปเปรี้ยง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับทีมได้มากขึ้นและฉายแววออกมาพอสมควร ด้วยความเร็ว ความคล่องตัวเชื่อว่าเจ้าตัวจะเป็นกำลังหลักในเกมรุกให้กับ โปเช็ตติโน ฤดูกาลนี้

กองหน้า - นิโกลาส แจ็คสัน
หัวหอกคนใหม่ที่ทีมไปสอยมาจาก บียาร์เรอัล หากดูจากผลงานในช่วงปรีซีซั่นต้องบอกว่าไม่เลวเลยทีเดียว แต่ก็ต้องมาลุ้นว่าเมื่อเจอของจริงแล้วจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน

Julian Ryerson, Mykhailo Mudryk
Borussia Dortmund v Chelsea FC / Daniel Bartel/ISI Photos/GettyImages

ลิเวอร์พูล

ก่อนแข่ง หงส์แดง มีรายงานนักเตะบาดเจ็บเพียง 2 รายซึ่งก็เป็นตำแหน่งแดนกลางทั้งสิ้นประกอบด้วย ติอาโก้ อัลคันทารา ที่บาดเจ็บสะโพกมาตั้งแต่ท้ายฤดูกาลก่อน เช่นเดียวกับ สเตฟาน บาจ์เซติช ที่แม้จะกลับมาซ้อมเบา ๆ ได้แล้วแต่คาดว่า คล็อปป์ เองน่าจะยังไม่เสี่ยงใช้งานในเกมสุดสัปดาห์นี้

และหากนำมาประกอบกับแนวทาง 3-4-3 ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ปรับใช้ตั้งแต่ท้ายซีซั่นก่อนจะได้...

ผู้รักษาประตู - อลิสซอน เบ็คเกอร์
แน่นอนว่านายทวารชาวบราซิลรายนี้จะยังคงยึดมือหนึ่งในถิ่น แอนฟิลด์ แบบไร้ผู้ท้าชิงต่อไป

เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งขวา - อิบราฮิมา โคนาเต้
เรียกได้ว่าต้องทำหน้านี้ควบตำแหน่งทั้งปราการหลังตัวกลางรวมถึงรับผิดชอบฝั่งขวาไปในตัว ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวในช่วงท้ายฤดูกาลก่อน

เซ็นเตอร์แบ็คตัวกลาง - เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
ยังคงดเป็นคนที่ไว้ใจได้มากที่สุดแม้ว่าช่วงหลังเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นในการรับหน้าที่เก็บกวาดเป็นตัวสุดท้ายให่กับทีม

เซ็นเตอร์แบ็คฝั่งซ้าย - แอนดี้ โรเบิร์ตสัน
อันที่จริงแม้จะยืนในแผงกองหลัง แต่เจ้าตัวก็ยังสามารถดันสูงขึ้นไปเติมเกมรุกได้ตามปกติ แต่หากยามที่ทีมต้องการเน้นเกมรับเจ้าตัวจะสามารถถอยมายืมคุมเกมรับเป็นเซ็นเตอร์ฝั่งซ้ายได้นั่นเอง

กองกลาง - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์
ค้นพบตัวตนใหม่มาตั้งแต่ท้ายฤดูกาลก่อนกับการดันขึ้นไปยืนเป้นตัวฟรีในแดนกลางที่สามารถขยับไปมาขึ้นลงทำเกมได้อย่างอิสระ แต่ในยามที่ต้องการตั้งรับก็จะถอยลงมาเติมในตำแหน่งแบ็คขวาตามเดิมได้ (หากลงมาทัน)

กองกลาง - อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์
แข้งใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามาแบกเกมแดนกลางในฐานะเพลย์เมคเกอร์ตัวปั้นเกม ซึ่งด้วยฝีเท้านั้นน่าจะไม่มีปัญหา แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะปรับตัวเข้าระบบได้มากแค่ไหนแล้วนับตั้งแต่ย้ายมา

กองกลาง - เคอร์ติส โจนส์
ผลงานกลับมาดูดีขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงการพบกับทีมอย่าง เชลซี ก็สามารถถอยช่วยเกมรับได้ ทำให้น่าจะเป็นตัวเลือกก่อน ฮาวีย์ เอลเลียตต์ ที่ถนัดเกมรุกมากกว่า

กองกลาง - โดมินิค โซโบสซไล
กองกลางหน้าใหม่จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่น่าจะเป็นอีกคนที่ต้องลงประจำการเป็นตัวจริงทันที ซึ่งบทบาทน่าจะอยู่ที่เกมรุก ช่วยไล่บอลบีบเกมตั้งแต่แดนบน

ปีกขวา - โม ซาลาห์
แน่นอนว่าตำแหน่งนี้เจ้าตัวรับกินแบบนอนมาสำหรับหัวหอกชาวอิยิปต์ที่คาดว่าก็จะยังเป็นความหวังสูงสุดในการผลิดตสกอร์ให้กับทีมฤดูกาลนี้

ปีกขวา - ดาร์วิน นูนเญซ
ตำแหน่งนี้ดูเหมือนว่าจะมีตัวเลือกค่อนข้างเยอะทั้ง หลุยส์ ดิอาซ หรือแม้แต่ ดิโอโก้ โจต้า เองก็ขยับมาเล่นอยู่บ่อย ๆ แต่มองว่าเกมนี้ คล็อปป์ อาจจะใช้งาน ดาร์วิน นูนเญซ ลงวิ่งปั่นป่วนรวดเกมรับ เชลซี ก่อนในช่วงแรก

กองหน้า - โคดี้ กัคโป
เป็นอีกคนที่น่าจะยึดตัวหลักในตำแหน่งฟอลส์ 9 ก่อนใครเพื่อน ซึ่งในช่วงท้ายฤดูกาลก่อนเจ้าตัวก็เริ่มทำผลงานได้ดี แต่หากฟอร์มยังย่ำแย่ก็มี โจต้า ที่พร้อมจะเสียบแทนทุกเมื่อ

Mohamed Salah, Alphonso Davies
Liverpool FC v Bayern Muenchen - Pre-Season Friendly / Apinya Rittipo/GettyImages