โครเอเชีย 0-0 เบลเยียม: บทสรุปทุกประเด็นหลัง ปีศาจแดงแห่งยุโรป ร่วงตกรอบ ฟุตบอลโลก
โดย โตมร นวลประเสริฐ
รายการ: ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน: คืนวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2022
ผลการแข่งขัน: โครเอเชีย 0-0 เบลเยียม
สนาม: อาหมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม
ทีมชาติโครเอเชีย ยันเสมอ เบลเยียม ไร้สกอร์ ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ในฐานะรองแชมป์กลุ่มเขี่ย ปีศาจแดงแห่งยุโรป ร่วงตกรอบ
เบลเยียม โชคดีสุดๆ เมื่อ ดรีส เมอร์เทนส์ ไปหวดผู้เล่นของ โครเอเชีย ล้มลงในกรอบเขตโทษโดยผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษทันที ก่อนการพิจารณาจาก วีเออาร์ ตัดสินให้กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าไปเสียก่อนทำให้ลูกจุดโทษดังกล่าวกลายเป็นโมฆะ
เกมหลังจากนั้นเป็น โครเอเชีย ที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยจากการเล่นแบบฉาบฉวยที่แดนบน แต่จนแล้วจนรอดเกมในครึ่งแรกก็ลงเอยแบบไร้สกอร์
โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไปเมื่อ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ส่ง โรเมลู ลูกากู ลงมาแทนที่ เมอร์เทนส์ ตั้งแต่หลังพักครึ่ง รูปเกมของ เบลเยียม ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมี บิ๊กรอม ปักหลักพักบอลที่แดนบนและเป็นตัวจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้าย โดยดาวยิงจาก อินเตอร์ มิลาน มีโอกาสทองชนิดระยะเผาขนเหน่งๆ หลายต่อหลายครั้งแต่เจ้าตัวกลับไม่อาจส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ และทำให้สกอร์ลงเอยด้วยผลเสมอร่วงตกรอบในที่สุด
สิ้นสุดยุคทอง ปีศาจแดงแห่งยุโรป? เบลเยียม ร่วงตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยผลเสมอกับ โครเอเชีย ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม โครเอเชีย 0-0 เบลเยียม แคนาดา 1-2 โมร็อกโก #ฟุตบอลโลก2022 #FIFAWorldCup #Qatar2022
Posted by 90min on Thursday, December 1, 2022
คะแนนนักเตะของทั้ง 2 ทีม
โครเอเชีย: ลิวาโควิช (7/10); ยูราโนวิช (6/10), ลอฟเรน (6/10), กวาร์ดิโอล (8/10), โซซา (7/10); โมดริช (7/10), โบรโซวิช (6/10), โควาชิช (6/10); ครามาริช (6/10), ลิวายา (6/10), เปริซิช (6/10)
ผู้เล่นสำรอง: เพ็ทโควิช แทนที่ ลิวายา 64' (6/10), พาซาลิช แทนที่ ครามาริช 64' (6/10), เมเยอร์ แทนที่ โควาชิช 90+2' (N/A)
เบลเยียม: กูร์ตัวส์ (7/10); เดนด็องเคอร์ (6/10), อัลเดอร์ไวเรลด์ (6/10), แฟร์ตองเก้น (7/10); มูนิเยร์ (7/10), วิตเซล (7/10), เดอ บรอยน์ (8/10), กาสตาญ (6/10); ทรอสซาร์ (6/10), เมอร์เทนส์ (5/10), การ์รัสโก้ (6/10)
ผู้เล่นสำรอง: ลูกากู แทนที่ เมอร์เทนส์ 46' (3/10), ต. อาซาร์ แทนที่ ทรอสซาร์ 59' (6/10), โดกู แทนที่ การ์รัสโก้ 72' (7/10), ตีเลมันส์ แทนที่ เดนด็องเคอร์ 72' (6/10), อ. อาซาร์ แทนที่ มูนิเยร์ 87' (N/A)
คีย์แมน - ยอสโก้ กวาร์ดิโอล
ปราการหลังจากค่าย แอร์เบ ไลป์ซิก ยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นในแนวรับเคียงข้างกับ เดยัน ลอฟเรน โดยเป็น กวาร์ดิโอล ที่ยืนถูกที่ถูกเวลา สกัดบอลในจังหวะสำคัญๆ ได้บ่อยครั้ง หนึ่งในช็อตที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าตัวล้มตัวสไลด์ก่อนที่บอลจะไปถึง โรเมลู ลูกากู ในกรอบ 6 หลาชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด สะกิดบอลด้วยปลายสตั๊ดเซฟทีมไว้สำเร็จ
ทั้งนี้ กวาร์ดิโอล ทำสถิติเคลียร์มากที่สุดในสนามจำนวน 9 ครั้ง
ประเด็นหลังเกม
เกมออกสตาร์ทด้วยความวูบวาบของ เบลเยียม จากการประสานงานระหว่าง เควิน เดอ บรอยน์ กับ ดรีส เมอร์เทนส์ และ ยานนิค การ์รัสโก้ แต่หลังเกมผ่านราว 10 นาที โครเอเชีย ก็เป็นฝ่ายครอบครองเกมไว้ได้ ทั้งการเล่นฉาบฉวยที่แดนบนยามมีบอลอยู่กับตัว และตั้งโซนรับอย่างแน่นหนาปิดประตูตายเกมของทัพ ปีศาจแดงแห่งยุโรป
โชคร้ายสุดๆ ของทัพ โครแอต เมื่อพวกเขาได้ลูกโทษในช่วงต้นเมื่อแนวรุกถูกอัดล้มลงในเขตโทษ แต่กลายเป็นว่าเมื่อพิจารณาจาก วีเออาร์ ดันเป็นช็อตที่ถูกจับล้ำหน้าไปเสียก่อน
เกมของ เบลเยียม กระเตื้องขึ้นเมื่อ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ ส่ง โรเมลู ลูกากู แทนที่ ดรีส เมอร์เทนส์ ตั้งแต่ต้นครึ่งหลังโดย บิ๊กรอม มีศักยภาพมากพอที่จะแปรเปลี่ยนโอกาสทองครั้งแล้วครั้งเล่าในเขตโทษให้เป็นการส่งบอลสู่ก้นตาข่ายจากโอกาสสับไกยิงทั้งหมด 5 ครั้ง แต่แทบไม่น่าเชื่อว่ากองหน้าจาก อินเตอร์ มิลาน จะทำหมูหกพลาดโอกาสดังกล่าวไปทั้งหมด