เส้นทางสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในทุกความเป็นไปได้ของ ทีมชาติอังกฤษ พร้อมวัน-เวลาการแข่งขันในรอบน็อคเอาท์ - FEATURE
- ทีมชาติอังกฤษ ยังคงรอคอยความสำเร็จในฟุตบอลรายการนี้
- สิงโตคำราม อยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ สโลวิเนีย เดนมาร์ก และ เซอร์เบีย
- มีความเป็นไปได้ที่ทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะโคจรมาพบกับ ฝรั่งเศส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ไม่ว่านักเตะทีมชาติอังกฤษชุดนี้จะไร้เทียมทานมากขนาดไหน จะประสบความสำเร็จในระดับสโมสรมากเพียงใด แต่สุดท้ายแฟน ๆ ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะในประวัติศาสตรที่ผ่านมาพวกเขาก็เต็มไปด้วยซุเปอร์สตาร์อัดแน่นเดินไหล่ชนไหล่แทบทุกยุคทุกสมัย แต่พอลงเล่นในรายการใหญ่กลับเอาตัวไม่รอดไปไม่เคยถึงฝั่งฝันเลยโดยเฉพาะในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรายการนี้
กระทั่งการมาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ดูเหมือนจะทำให้แฟนบอลทรีไลออนกลับมามีความหวังเล็ก ๆ จากผลงานที่พอจะลุ้นได้ตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 ที่พวกเขาเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย รวมถึงเข้าถึงรอบชิงใน ยูโร 2020 แต่กลับพลาดท่าพ่ายต่อ อิตาลี ในการดวลจุดโทษชี้ขาดและจบด้วยตำแหน่งพระรองไปอย่างน่าเสียดายในปีนั้น
นั่นทำให้ไม่แปลกนักที่แฟน ๆ จะคาดหวังผลงานที่ดีในศึก ยูโร 2024 นี้ว่า ทัพสิงโตคำราม จะยังคงสามารถต่อยอดความสำเร็จได้ แถมพวกเขายังถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งมากนัก ซึ่งประกอบด้วย เดนมาร์ก สโลวิเนีย และ เซอร์เบีย โดยวันนี้เราจะลองมาวิเคราะห์ถึงโอกาสในการเข้ารอบน็อคเอาท์รวมถึงความน่าจะเป็นต่าง ๆ ที่ ทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสประสบพบเจอในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
จบแชมป์กลุ่ม
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าในรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติอังกฤษ จะพบกับทั้ง เดนมาร์ก เซอร์เบีย และ สโลวิเนีย ซึ่งหากมองดูแค่ชื่อชั้นบอกได้เลยว่าอังกฤษยังไงต้องแชมป์กลุ่มเท่านั้น ! ซึ่งหากพวกเขาทำสำเร็จ ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีโอกาสต้องโคจรไปพบกับทีมอันดับ 3 ของกลุ่ม ดี อี หรือ เอฟ
กลุ่ม ดี - ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ส, ออสเตรีย, โปแลนด์
กลุ่ม อี - เบลเยี่ยม, ยูเครน, โรมาเนีย, สโลวาเกีย
กลุ่ม เอฟ - โปรตุเกส, ตุรกี, สาธารณรัฐเช็ก, จอร์เจีย
โดยความเป็นไปได้ของคู่แข่งในรอบต่อไปนั้น ต้องมาดูคะแนนของอันดับ 3 แต่ละกลุ่มซึ่งปีนี้จะมีการนำ 4 ทีมที่ดีที่สุดผ่านเข้ารอบต่อไป หลังจากนั้นหาก อังกฤษ ยังคงผ่านไปได้ ในรอบ 8 ทีมจะได้ไปพบกับผู้ชนะระหว่างการพบกันของอันดับ 2 จากสองกลุ่ม เอ และ บี ซึ่งคาดว่าจะเป็น สวิตเซอร์แลนด์ กับ อิตาลี และสุดท้ายคงจะเป็น ทัพอัสซูรี ที่ได้รีแมทช์รอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 กับ อังกฤษ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ขณะที่รอบ 4 ที่ อังกฤษ มีโอกาสพบกับคู่แข่งอย่าง ฝรั่งเศส หาก ทีมตราไก่ คว้าแชมป์กลุ่มและมาตามนัดทะลุผ่านทีมใหญ่ ๆ ที่มีโอกาสเจออย่าง เบลเยียม มาได้
รอบน็อคเอาท์ | คู่แข่งที่คาด | วัน-เวลาแข่งขัน |
---|---|---|
16 ทีมสุดท้าย | ออสเตรีย / โรมาเนีย / เช็ก | 30/06/24 / 23:00 น. |
8 ทีมสุดท้าย | อิตาลี | 06/07/24 / 23:00 น. |
4 ทีมสุดท้าย | ฝรั่งเศส | 11/07/24 / 02:00 น. |
จบอันดับสอง
นี่อาจจะเป็นสถานการณ์ที่หนักหน่วงอย่างมากสำหรับอังกฤษ และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะการที่พวกเขาเป็นรองแชมป์กลุ่ม จะมีโอกาสสูงมากที่จะต้องไปเจอกับแชมป์ของกลุ่ม เอ ซึ่งก็ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือการพบกับเจ้าภาพอย่าง เยอรมนี ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
และหากโชคดีผ่าน เยอรมนี ไปได้พวกเขาจะต้องโคจรมาพบกับทีมดันอับหนึ่งของกลุ่ม เอ ซึ่งโอกาสเป็นไปได้มีอยู่สองทีมนั่นคือ อิตาลี หรือ สเปน
ซึ่งหากอังกฤษยังดีพอที่จะผ่านไปได้พวกเขามีโอกาสได้เจอกับทีมอย่าง โปรตุเกส หรือ เนเธอร์แลนด์ส ที่จะไขว้จากอีกสายมาเจอกันในรอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไป
รอบน็อคเอาท์ | คู่แข่งที่คาด | วัน-เวลาแข่งขัน |
---|---|---|
16 ทีมสุดท้าย | เยอรมนี | 29/06/24 / 02:00 |
8 ทีมสุดท้าย | สเปน / อิตาลี | 05/07/24 / 23:00 |
4 ทีมสุดท้าย | โปรตุเกส / เนเธอร์แลนด์ส | 09/07/24 / 02:00 |
จบอันดับสาม
สถานการณ์นี้แม้มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ก็ยังมีสิทธื์เกิดขึ้นได้สำหรับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งการจะจบอันดับ 3 แต่เข้ารอบนั้น อย่างน้อยพวกเขาควรจะต้องมี 3 คะแนนในมือพร้อมกับผลต่างประตูได้-เสียที่ไม่น่าเกลียดมากนัก
โดยคู่แข่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีโอกาสเป็นทีมอันดับ 1 ของกลุ่ม อี หรือ เอฟ ซึ่งคาดว่าจะเป็น โปรตุเกส และ เบลเยียม แถมหากผ่านไปได้ยังมีโอกาสไปเจอกับ ฝรั่งเศส ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายอีกด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับผลงานและผลการจับสลากหลังจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยว่าพวกเขาจะถูกจับไปชนกับสายใดเมื่อพลาดท่าต้องเข้ารอบเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดแบบนี้