Faces of Football: แคนาดา - จดหมายถึงทีมชาติ

Faces of Football: Canada
Faces of Football: Canada / Aaron Hooper
facebooktwitterreddit

ถึงทีมชาติแคนาดา,

ผมเพิ่งจะมีอายุได้ 12 ปีตอนที่ได้ตกหลุมรักทีมนี้ พวกคุณเพิ่งจะเติมเต็มความฝันของชาว แคนาดา ที่พวกเราส่วนใหญ่คิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้

ผมชื่อ อารอน ฮูเปอร์ จาก อ็อตโตวา ประเทศแคนาดา ผมติดตามความเป็นไปของทั้งทีมชายและทีมหญิงมาตั้งแต่ปี 2006 ในฐานะที่เป็นเด็กซึ่งตกหลุมรักกับฟุตบอลแคนาดา มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ง่ายเลย บรรดาแฟนบอลแคนาดารวมไปหลังนักเตะบางรายในทีมชุดนี้ (ผมแน่ใจว่าเรามีอายุใกล้เคียงกัน) ต่างจำได้ว่าช่วงเวลาที่ แคนาดา ไร้ซึ่งทีมฟุตบอลอาชีพเป็นอย่างไร - ก่อนที่จะมีวี่แววของการก่อตั้ง โตรอนโต้ เอฟซี ในปี 2007 ถัดมา แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่สำคัญเอาการในเวลานั้นแล้ว

การเป็นแฟนฟุตบอลในประเทศของเราเวลานั้นโดยเฉพาะเมื่อผมยังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมต้นไม่ใช่เรื่องที่มันเจ๋งแต่อย่างใด พวกเรามักจะถูกล้อเลียนจากแฟนฮ็อคกี้ในโรงเรียนอยู่เสมอ ต้องบากหน้าไปขอร้องให้เพื่อนๆ มาฝึกซ้อมและเล่นฟุตบอลกับเรา พร้อมความฝันว่าสักวันหนึ่งฟุตบอลคงจะได้รับความนิยมขึ้นมาบ้างสักเล็กน้อย หรือแค่ได้รับความเคารพบ้างก็ยังดี

ผมจำได้ว่ามีเพื่อนร่วมทีมเป็นนักเรียนในชั้นมัธยม การได้ฝึกซ้อมร่วมกันตอน 6 โมงครึ่งช่วงเช้า หรือหลังจากเลิกเรียนต่อด้วยการพูดถึงเรื่อง ฟุตบอลโลก เราคุยกันว่า ‘นี่พวก ลองจินตนาการดูสิว่า แคนาดา ได้เล่นใน เวิลด์คัพ…มันคงจะเยี่ยมไปเลย…ผมหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนั้น…’ แต่ผมมักจบบทสนทนาด้วยการพูดว่า ‘แต่มันอาจจะเกิดขึ้นก็ได้นะ…บางทีเมื่อตอนที่เรามีหลานให้อุ้มกันแล้ว’

แต่ด้วยเหตุผลบางประการในหัวใจของผม ผมเชื่อนะ เชื่อจริงๆ ว่าในช่วงชีวิตของผม ทีมฟุตบอลชายจะผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสำเร็จ

จากความพ่ายแพ้ 8-1 ต่อ ฮอนดูรัส เมื่อไม่กี่ปีก่อน พวกเราคิดว่าความสำเร็จของเราอาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้กระทั่งปี 2026 ที่ แคนาดา ร่วมเป็นเจ้าภาพแน่ๆ แต่ผมบอกอะไรให้ พวกคุณก้าวข้ามความฝันทั้งหลายทั้งปวงของพวกเราไปแล้ว คุณทำให้ชาว แคนาดา ศรัทธา ทำให้แฟนบอลที่ตามทีมมาทั้งชีวิตและอดีตนักเตะทีมชาติทั้งหมดภาคภูมิใจ คุณทำให้ฝันของพวกเรากลายเป็นความจริงและได้สร้างความฝันชุดใหม่แก่เหล่าแฟนบอลตัวน้อยที่ฝันถึงการเล่นฟุตบอลเป็นอาชีพ ตอนนี้พวกเขายังฝันถึงการได้มีส่วนร่วมลงเล่นใน เวิลด์คัพ อีกด้วย แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การเล่นให้กับทีมชาติอันเป็นชาติกำเนิดของพ่อแม่พวกเขา แต่เป็นการเล่นให้กับทีมชาติของ พวกเรา และการได้เห็นเส้นทางรวมทั้งความฝันที่จะเล่นในลีกระดับท็อปในยุโรปมีความเป็นไปได้ และโอกาสที่จะได้เล่นเคียงข้างกับนักเตะอย่าง โจนาธาน เดวิด, อัลฟอนโซ เดวีส์, มิลาน บอร์ยาน และ อาติบา ฮัทชิสัน

การได้มีทีมชาติของเราใน ฟุตบอลโลก ครั้งนี้มันคือความฝันที่กลายเป็นจริงไปแล้ว การที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายยิ่งเหนือจริงขึ้นไปอีก ผมรู้ว่าพวกหนุ่มๆ และ จอห์น เฮิร์ดแมน (ผู้ที่สมควรมีอนุสาวรีย์ของตนเอง) ตั้งความหวังไว้ยิ่งไปกว่านั้น แต่สิ่งที่น่ายินดีสำหรับพวกเขาคือเราไม่ได้คาดหวังใดๆ ไร้ซึ่งความกดดันและความกลัว

พวกนายแสดงให้เห็นถึงการไร้ความกลัวใดๆ ในสนามกับทุกๆ คู่แข่งที่ได้เจอ ผมตระหนักได้ทันทีนับตั้งแต่ที่พวกคุณชนกับ สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และ ฮอนดูรัส แต่ยังสามารถผ่านเข้ารอบมาได้ คุณทำให้เราเชื่อมั่นในตัวพวกคุณ

จากการเป็นเด็ก 12 ขวบผู้ตกหลุมรักกับฟุตบอลแคนาดา และศรัทธาในศักยภาพของประเทศเราแต่กลับถูกมองว่าเป็นพวกบ้า และตอนนี้ก็ได้เห็นแล้วว่ามันเหลือเชื่อเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับพวกเราที่น้ำตาตกทั้งจากความปิติและความหงุดหงิด, เฝ้าอดทนรอ, การเฝ้าฝัน ถึงช่วงเวลานี้, การเชื่อในสิ่งที่ผู้คนต่างบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้, และการมีความหวัง: สนุกไปกับความฝัน

ผมมั่นใจว่าพวกคุณตระหนักถีงมันอยู่แล้ว แต่จงไร้ซึ่งความกลัว, เดินหน้าไปทีละเกม และก่อร่างสร้างวัฒนธรรมฟุตบอล แคนาดา ต่อไป ให้อนาคตมันสว่างไสวยิ่งกว่าอดีตที่ผ่านมา

ลุยไปเลย แคนาดา