Faces of Football: คอสตาริกา - จดหมายถึงทีมชาติ

ถึงทีมชาติ คอสตาริกา,

ผมเป็นหนึ่งใน ‘ติกา’ ใน 5 ล้านคนที่เชียร์คุณในหน้าหนาวนี้ทั้งหัวจิตหัวใจ ใช่ ‘เซเล’ ทั้งตัวและหัวใจเพราะว่าเป็นอีกครั้งที่คุณทำให้ความฝันของผมกลายเป็นความจริง; การผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งที่ 6 ในช่วงชีวิตของผม

ก่อนนี้ผมต้องรอจนกระทั่งปี 2002 เพื่อที่จะดูพวกคุณฟาดแข้งในศึก เวิลด์คัพ กับคู่หูดาวยิงที่เกรียงไกรอย่าง วิลเมอร์ ‘เอล ปาโต้’ โลเปซ กับ วอลเตอร์ ‘เอล ปาเต้’ เซนเตโน ก่อนจะกลายเป็นขาประจำของ ฟุตบอลโลก ทุกครั้งหลังจากนั้น เราผ่ายเข้าไปเล่นใน เยอรมนี 2006 ต้องขอบคุณผลงานของกองหน้า เปาโล เซซาร์ วันโชเป้ และการสร้างประวัติศาสตร์ในปี 2014 ด้วยการทะลุไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ - จนได้ฉายา ‘ผู้ฆ่ายักษ์’ สำหรับผลงานระดับปาฏิหาริย์

รูปแบบการเล่นของพวกคุณสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน คุณทำให้ คอสตาริกา ทั้งประเทศหยุดทุกกิจกรรมเพื่อเฝ้าดูความเป็นไปของลูกจุดโทษลูกนั้น ลูกที่ ไมเคิล อูมันญา สังหารใส่ก กรีซ​ เพื่อพาเราทะลุรอบก่อนรองชนะเลิศ ผมยังจำได้ว่าผู้บรรยายเกมนั้นได้กล่าวถึง อูมันญา ว่า ‘สดุดีคุณแม่ของเขาที่ทำให้ ไมเคิล ถือกำเนิด’

ขอบคุณ ‘เซเล’ ที่แสดงให้เราเห็นว่าชาติของเรามีศักยภาพมากเพียงใด พวกคุณทำเราเชื่อมั่นและมีความฝันเกิดขึ้น

เราตระหนักดีว่าทัวร์นาเมนต์ในปี 2022 นี้จะเป็นงานหนักโขสำหรับ คอสตาริกา ที่จะต้องดวลกับทีมยักษ์ใหญ่ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น สเปน กับ เยอรมนี ที่เป็นทีมเต็งของทัวร์นาเมนต์ ขณะที่ ญี่ปุ่น ก็ไม่สามารถประมาทได้เช่นกัน

แต่ผมยังศรัทธาเต็มเปี่ยมว่าเราจะสามารถทะลุผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุทด้ายอย่างที่เราเคยทำได้ในปี 1990 หรือไปไกลกว่าเดิมสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในปี 2014

พวกเราเคยคว่ำยักษ์ใหญ่มาแล้ว ทำไมเราจะทำให้มันเกิดขึ้นอีกครั้งไม่ได้ล่ะ พวกเรามีทีมและผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ จงลงไปลุยในสนามและพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกคุณยอดเยี่ยมเพียงใด

ผมยิ่งกว่าพร้อมที่จะกู่ก้องให้สุดเสียงกระทั่งมันแหบแห้งจากอัฒจันทร์ในสนามแข่งขันที่ กาตาร์ พวกเราจะทำให้ อัล ธูมามา, อาหมัด บิน อาลี และ อัล เบท สเตเดี้ยมเป็นเหมือนสนามเหย้าของเรา เราจะอยู่ที่นั่นกับคุณ สนับสนุนทีมตลอดทาง

ปูรา วิดา (ชีวิตที่บริสุทธิ์)