เปลี่ยนนายก เอ้ย ! ผู้จัดการทีม : ย้อนรอย 14 กุนซือ พรีเมียร์ลีก ที่จำใจต้องแยกทางกับทีมในฤดูกาล 2022/23
เรียกได้ว่าสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาอย่างเป็นทางการใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2022/23 สำหรับตัวเลขจำนวนผู้จัดการทีมที่โดนปลดออกจากตำแหน่งจนถึงเวลานี้ (16 พฤษภาคม 2023) ก็ปาเข้าไป 14 รายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาล ทำลายของเดิมที่เคยทำไว้ 10 รายเมื่อปี 2008/09 2013/14 2017/18 และ 2021/22 ลงอย่างราบคาบ
วันนี้ไหน ๆ ที่บ้านเราก็กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผู้นำ เราจึงอยากพาแฟน ๆ ย้อนไปชมกันว่าแล้วใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มีผู้นำคนใดบ้างที่ต้องอำลาตำแหน่งไป เริ่มจาก...
30 สิงหาคม 2022 - สกอตต์ พาร์คเกอร์
หลังจากพา บอร์นมัธ ประสบความสำเร็จจนเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ได้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าผลงานบนลีกสูงสุดจะค่อนข้างออกทะเลตั้งแต่เริ่ม โดย 4 นัดแรกพวกเขาแพ้ไปถึง 3 ยิงได้ 2 เสีย 16 และฟางเส้นสุดท้ายของ พาร์คเกอร์ คือการพาทีมบุกไปโดน ลิเวอร์พูล ยำเละถึง 9-0 แน่นอนเจ้าตัวถูกปลดออกจากตำแหน่งไปก่อนจะตั้ง แกรี โอนีล มารับงานแทนและสามารถพาทีมเร่งฟอร์มจนอยู่รอดปลอดภัยได้สำเร็จ
7 กันยายน 2022 - โธมัส ทูเคิล
เป็นอีกคนที่ต้องบอกว่าช็อคไปตาม ๆ กัน หลังจาก เชลซี มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารยกแผง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า โธมัส ทูเคิล เองก็ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานในช่วงต้นฤดูกาล กระทั่งการบุกไปโดน ดินาโม ซาเกร็บ อัดกลับมาในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกทำให้ ทอดด์ โบห์ลี ได้ช่องปลดฟ้าผ่าแบบไม่สนว่าก่อนหน้านี้นายใหญ่ชาวเยอรมันเคยทำอะไรให้สโมสรเอาไว้บ้าง
2 ตุลาคม 2022 - บรูโน ลาจ
ด้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เริ่มแรกยังคงมั่นใจในโปรตุกรีซคอนเนคชั่นซึ่งต้องบอกว่า ลาจ เองก็ไม่ได้ทำทีมขี้เหร่ รูปเกมดี มีทรง แต่จบไกันไม่ลงเองเท่านั้นเอง แต่นั่นก็ทำให้ผลงานของพวกเขาหนักไปทางเสมอกับแพ้และหลุดไปอยู่ท้ายตาราง กระทั่งการบุกไปพ่ายต่อ เวสต์แฮม 2-0 ทำให้บอร์ดบริหารคิดเร็วทำเร็วปลดเขาออกจากตำแหน่งทันทีและไปดึงตัว ยูเลียน โลเปเตกี ที่เพิ่งจะแยกทางกับ เซบีญา ณ เวลานั้นเข้ามาทำหน้าทีแทนจนถึงปัจจุบัน
20 ตุลาคม 2022 - สตีเวน เจอร์ราร์ด
หลังจากเข้ารับงานคุมทีม แอสตัน วิลลา ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน อดีตตำนาน ลิเวอร์พูล อย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ดูจะไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งเหมือนสมัยที่เข้ามาทำทีมใหม่ ๆ ได้ โดยหลังจากผ่านไป 12 เกมแพ้ไปถึง 6 ชนะเพียง 3 เกมสุดท้ายที่ สตีวี ทำหน้าที่คือการบุกไปพ่ายต่อ ฟูแลม 3-0 และหลังเกมก็โดนปลดออกจากตำแหน่งไป ก่อนที่ สิงห์ผงาด จะไปสอยตัว อูไน เอเมรี เข้ามาทำหน้าทีแทนและสามารถยกระดับทีมกลับขึ้นมาจนมีลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปอยู่ในปัจจุบัน
6 พฤศจิกายน 2022 - ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล
หลังจากทำงานกับทีมมาอย่างยาวนานในที่สุด บอร์ดบริหารก็ทนไม่ไหวกับผลงานที่ไร้การพัฒนาของนายใหญ่ชาวออสเตรียรายนี้ ที่เปิดหัวมาก็จมอยู่ในโซนท้ายตารางทันที ซึ่งเกมนัดสุดท้ายของเขากับ นักบุญ คือการเปิดบ้านโดน นิวคาสเซิล บุกมาถล่มถึง 1-4 หล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น ก่อนที่สุดท้ายสโมสรจะไปดึงตัวเอา เนธาน โจนส์ เข้ามาทำหน้าที่แทนในที่สุด
23 มกราคม 2023 - แฟรงค์ แลมพาร์ด
หลังจากจบฟุตบอลโลก 2022 และก้าวเข้าสู่ปีใหม่ แลมพาร์ด เป็นกุนซือคนแรกที่โดนปลดออกจากตำแหน่งหลังจากเข้ามาช่วยทีมหนีรอดตกชั้นเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่งผลงานในปีนี้ของ ท็อฟฟี ย่ำแย่สุด ๆ โดยก่อนจะถูกปลดเจ้าตัวพาทีมจนอยู่ในโซนสีแดงแพ้ 5 จาก 6 เกมหลัง แน่นอนบอร์ดบริหารเห็นทรงไม่ดีจึงไม่รอช้ารีบปลดตำนานแข้ง เชลซี และแต่งตั้ง ฌอน ไดซ์ เข้ามาทำหน้าทีแทน แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงอยู่ในระหว่างการหนีตายช่วงโค้งสุดท้ายอยู่ ณ ปัจจุบัน
6 กุมภาพันธ์ 2023 - เจสซี มาร์ช
กุนซือชาวสหรัฐอเมริกาเข้ามารับงานแทน มาร์เซโล บิเอลซา ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ซึ่งผลงานของ ลีดส์ ในปีนี้จัดว่าย่ำแย่แม้จะสร้างเซอร์ไพรส์เอาชนะทีมใหญ่ ๆ มาได้อยู่บ้างก็ตาม แต่นั่นก็ดูจะยังไม่เพียงพอสำหรับบอร์ดบริหารที่จะให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป และไปคว้าตัว ฆาบี การ์เซีย เข้ามาทำหน้าที่แทนในที่สุด
12 กุมภาพันธ์ 2023 - เนธาน โจนส์
หลังจากเข้ามาทำหน้าที่แทน ฮาเซนฮุทเทิล ที่ เซาแธมป์ตัน ได้ไม่กี่เดือน ดูเหมือนว่าผลงานของ ทัพนักบุญ จะไม่พัฒนาขึ้นเท่าใดนักแม้จะทุ่มเงินกว้านซื้อนักเตะใหม่เข้ามาหลายรายในช่วงเดือนมกราคม โดย โจนส์ คุมทีมไปได้เพียง 8 นัดรวมทุกรายการแพ้ไปถึง 7 จมอันดับบ๊วยก่อนที่สุดท้ายจะแยกทางกันและให้ รูเบน เซลเลส คุมทีมต่อจนจบฤดูกาล
17 มีนาคม 2023 - ปาทริซ วิเอรา
เว้นไปร่วมเดือนหลังจาก เนธาน โจนส์ โดนปลด ซึ่งรายต่อมาคือ ปาทริซ วิเอรา นายใหญ่ชาวฝรั่งเศสอดีตตำนาน อาร์เซนอล ที่ทำทีม คริสตัล พาเลซ ไม่ชนะเลยตลอด 3 เดือนตั้งแต่เข้าสู่ปี 2023 และเริ่มสุ่มเสี่ยงที่จะตกชั้น ก่อนที่สุดท้ายบอร์ดบริหารจะตัดสินใจปลดเขาออกจากตำแหน่งและให้คนคุ้นเคยอย่าง รอย ฮอดจ์สัน เข้ามาทำหน้าทีแทนซึ่งผลงานต้องบอกว่าแทบจะเปลี่ยนเป็นคนละทีม ปู่รอย พาทีมเก็บชัยเป็นว่าเล่นจนขึ้นมาอยู่กลางตารางได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
26 มีนาคม 2023 - อันโตนิโอ คอนเต้
หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีข่าวใหญ่ที่มีมูลมาสักพักแล้วสำหรับการแยกทางระหว่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และ อันโตนิโอ คอนเต้ ว่ากันว่าเกิดจากความไม่ลงรอยระหว่างเขากับลูกทีมจนผลงานในช่วงหลังตกลงไป ซึ่ง แดเนียล เลวีย์ ก็จัดการดัน คริสเตียน สเตลลินี ที่เคยทำหน้าที่นี้มาแล้วตอนที่ คอนเต้ ป่วยมารับงานคุมทีมอย่างเต็มตัวจนจบฤดูกาล
2 เมษายน 2023 - เบรนเดน ร็อดเจอร์ส
อีกหนึ่งทีมที่ประสบปัญหาอย่างหนักตั้งแต่ต้นฤดูกาล ซึ่งแน่นอนมันส่งผลถึงฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย หลังจาก "บีร็อด" พาทีมพ่ายต่อ คริสตัล พาเลซ หล่นมาอยู่รองบ๊วย นั่นทำให้บอร์ดบริหารไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากประกาศแยกทางกับเขา พร้อมกับไปนำตัว ดีน สมิธ เข้ามาแทนที่ แต่ต้องบอกเลยว่าบางทีมันอาจจะสายไปแล้วก็เป็นได้
2 เมษายน 2023 - เกรแฮม พ็อตเตอร์
วันเดียวกันนั้นเอง มีอีกหนึ่งข่าวใหญ่กับการปลดผู้จัดการทีมหนที่สองของ เชลซี ที่ต้นฤดูกาล ทอดด์ โบห์ลี เพิ่งจะไปดูด พ็อตเตอร์ จาก ไบรท์ตัน มา แต่ด้วยผลงานที่ย่ำแย่และการเล่นที่ไม่มีทรง ทำให้ในที่สุดพวกเขาก็ทนเสียงวิจารณ์ไม่ไหวประกาศปลดนายใหญ่เลือดผู้ดีออกจากตำแหน่งอีกครั้ง และไปนำตัวตำนานอย่าง แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีมจนจบฤดูกาล
24 เมษายน 2023 - คริสเตียน สเตลลินี
หลัง เชลซี ปลดกุนซือรอบสอง สเปอร์ส ก็ไม่น้อยหน้าเอาบ้างกับการไล่ สเตลลินี พ้นจากตำแหน่งทั้งที่เป็นเพียงผู้จัดการทีมชั่วคราวและเพิ่งจะคุมทีมไปได้เพียง 4 นัด โดย เลวีย์ เจ้าของทีม ไก่เดือยทอง อ้างว่าผลงานในเกมที่โดน นิวคาสเซิล ถล่มยับถึง 5-1 เป็นเรื่องที่มิอาจรับได้ ก่อนจะไปเอาตัว ไรอัน เมสัน กลับมาคุมทีมขัดตาทัพจนจบฤดูกาลในที่สุด
3 พฤษภาคม 2023 - ฆาบี กราเซีย
รายล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากับ ฆาบี กราเซีย ที่เข้ามารับเผือกร้อนต่อจาก เจสซี มาร์ช เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่กลับไม่สามารถยกระดับ ยูงทอง ให้กลับสู่ที่ที่ควรจะเป็นได้พร้อมกับสุ่มเสี่ยงที่จะตกชั้น บอร์ดบริหารจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงหัวเรือใหญ่อีกครั้งโดยหนนี้ไปนำตัวผู้เชี่ยวชาญด้านการหนีตายอย่าง แซม อัลลาร์ไดซ์ เข้ามาคุมทีมในช่วงโค้งสุดท้าย