ส่องฟอร์ม 14 แข้ง พรีเมียร์ลีก ที่ย้ายซบลีก ซาอุฯ ปีที่แล้ว ใครรุ่งใครร่วง ? - FEATURE
- สตาร์ดัง พรีเมียร์ลีก หลายคนย้ายซบลีก ซาอุฯ เมื่อช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2023
- รูเบน เนเวส, คาลิดู คูลิบาลี่, อาเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์กับ อัล ฮิลาล
- มีอีกหลายคนที่แม้จะเคยเล่นในฟุตบอลระดับสูงมาแล้ว แต่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับลีก ซาอุฯ ได้
ตลาดซัมเมอร์ปี 2023 คงเป็นหนึ่งในตลาดนักเตะที่ถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน เมื่อเหล่าบรรดาผู้เล่นจาก พรีเมียร์ลีก พากันย้ายทีมข้ามทวีปไปค้าแข้ง ณ ลีก ซาอุฯ ด้วยเม็ดเงินที่สะพัดอย่างมหาศาล และอย่างที่ทราบกันดีว่า ซาอุดิ โปรฯ ลีก มีแผนยกระดับฟุตบอลในประเทศขึ้นโดยมีเป้าหมายคือความเป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลอาชีพ ดังนั้นทางลัดที่ดีที่สุดคือการใช้เงินมหาศาลทุ่มซื้อสตาร์ดังมาร่วมในการแข่งขันแบบชนิดไม่เกี่ยงราคา ทำให้ทีมในลีก อังกฤษ ต่างยอมขายนักเตะไปคนแล้วคนเล่าเพื่อสมทบทุนเข้าทีม วันนี้ 90MIN จะพาทุกท่านไปชมฟอร์มของอดีตนักเตะ พรีเมียร์ลีก แต่ละคนที่ย้ายไปเล่นใน ซาอุดิอาระเบีย ในตลาดปี 2023 ว่ามีใครรุ่งหรือร่วงกันบ้าง
14. ริยาด มาห์เรซ (อัล อาห์ลี)
อดีตปีกตัวจี๊ดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จมาแทบทุกอย่างกับทีม เรือใบสีฟ้า ก่อนจะตัดสินใจย้ายซบ อัล อาห์ลี ด้วยค่าตัวเพียง 30 ล้านปอนด์ หลังจากช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ คว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ ได้สำเร็จ ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง ฝีเท้าระดับ มาห์เรซ ยังสามารถโชว์ฟอร์มในลีกสูงสุดได้แบบสบาย ๆ ดังนั้นการย้ายไปเล่นใน ซาอุฯ เขาจึงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิง 12 จ่าย 14 ในการลงเล่นทุกรายการ กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเลยก็ว่าได้
13. โรแบร์โต ฟิร์มิโน (อัล อาห์ลี)
แม้จะย้ายร่วมทีมเดียวกับ มาห์เรซ แต่สถานการณ์ของ ฟิร์มิโน กลับไม่โสภาเหมือนเพื่อนร่วมทีม เพราะหลังจากที่เขาเปิดตัวได้อย่างร้อนแรงด้วยการทำแฮตทริกในเกมแรก บ็อบบี้ ส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายไม่ได้เลย 16 เกมหลังจากนั้น ก่อนที่ช่วงท้ายฤดูกาลจะมาเร่งฟอร์มยิงได้บ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ดีพอเท่ากับความคาดหวังเหมือนสมัยที่เขาค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล
12. เอดูอาร์ เมนดี้ (อัล อาห์ลี)
อีกหนึ่งเพื่อนร่วมทีมของ มาห์เรซ และ เฟอร์มิโน กับอดีตผู้รักษาประตูชุดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เชลซี ซึ่งในช่วงหลังเขาฟอร์มตกจนหลุดเป็นตัวจริงให้กับทีม สิงห์บลูส์ ก่อนจะเลือกย้ายมาค้าแข้งในลีก ซาอุฯ ในปีที่แล้ว ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะเขากลับมาโชว์ฟอร์มเทพได้อีกครั้งด้วยการเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด 15 ครั้งจากการลงเล่น 33 เกม พาทีมต้นสังกัดผ่านเข้าไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
11. อัลแล็ง แซงต์-แม็กซิแม็ง (อัล อาห์ลี)
หลังจำเป็นต้องย้ายทีมเพื่อปรับสถานะการเงินของสโมสรจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด สู่ อัล อาห์ลี ฟอร์มของ แม็กซิแม็ง ยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่แฟนบอลว่าการย้ายมาของเขาเล่นได้คุ้มค่าตัวหรือไม่ เพราะแม้จะมีลูกโชว์ลีลาสวย ๆ ตามสไตล์ในบางจังหวะ แต่การขาดความคงเส้นคงวาในการเล่นก็ยังทำให้ แม็กซิแม็ง ดูจะยังไม่ใช่นักเตะที่ดีสักเท่าไรนัก รวมถึงในครั้ง เจ้าตัวชอบโชว์เล่นท่าแปลก ๆ ฝืน ๆจนเป็นที่มาของคลิปไวรัลในอินเทอร์เน็ตในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย
10. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (อัล อิตติฟาค)
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ชีวิตตกอับมาที่สุดจากการตัดสินใจย้ายซบทีมใน ซาอุฯ เพราะก่อนจะย้ายมา เฮนเดอร์สัน คือหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล รักมากที่สุด ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายซบ อัล อิตติฟาค ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา และมีปัญหากับต้นสังกัดจนต้องลงทุนขอจ่ายค่ายกเลิกสัญญาด้วยตนเองหลังผ่านไปแค่ 6 เดือนเท่านั้น ซึ่งก็มีกระแสข่าวบอกว่า เฮนเดอร์สัน ถูกค้างค่าเหนื่อยมาโดยตลอดกว่าครึ่งปีที่ลงเล่น แถมเจ้าตัวก็ใช้ชีวิตใน ซาอุดิอาระเบีย อย่างไม่มีความสุขเท่าไรอีกด้วย
9. เดมาไร เกรย์ (อัล อิตติฟาค)
อดีตตัวจี๊ดของ เลสเตอร์ ซิตี้ ย้ายซบ อัล อิตติฟาค ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานผู้เล่นต่างชาติในลีก ซาอุฯ อย่างไรก็ตาม เดมาไร เกรย์ ยังโชว์ฟอร์มเก่งไม่ออกด้วยการทำไปเพียง 4 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทุกรายการกว่า 25 นัด แถมเจ้าตัวยังจัดคนเดียวไปถึง 2 ใบแดงในซีซันล่าสุดอีกด้วย
8. รูเบน เนเวส (อัล ฮิลาล)
จอมทัพชาวโปรตุกีสผู้ใช้ชีวิตอยู่ใน พรีเมียร์ลีก มากว่า 5 ปี ย้ายซบ อัล ฮิลาล ในช่วงที่เขากำลังพีคที่สุดในการค้าแข้ง อย่างไรก็ตาม เนเวส เป็นกำลังสำคัญในแดนกลางช่วยให้ อัล ฮิลาล ซิว ดับเบิ้ลแชมป์ ปีล่าสุด ด้วยผลงานอันโดดเด่น 7 ประตูกับอีก 12 แอสซิสต์จากการลงเล่น 48 เกมในทุกรายการ แถมยังเป็นสถิติไม่แพ้ใครเลยแม้แต่เกมเดียวในลีก
7. อาเล็กซานดาร์ มิโตรวิช (อัล ฮิลาล)
หากจะพูดว่านี่คือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของลีก ซาอุฯ ในปีที่แล้วก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะ มิโตรวิช ระเบิดฟอร์มสุดโหด กดไปคนเดียว 40 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 44 เกมในทุกรายการ ยิงน้อยกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพียงคนเดียวในลีก ซาอุฯ ซึ่งก็ต้องบอกว่าเขาเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ อัล ฮิลาล ขาดไปไม่ได้เลยทีเดียวในตอนนี้
6. คาลิดู คูลิบาลี่ (อัล ฮิลาล)
หากแดนหน้าของ อัล ฮิลาล มี มิโตรวิช แดนกลางมี รูเบน เนเวส เดอะแบกของแดนหลังก็คงหนีไม่พ้น คาลิดู คูลิบาลี่ ซึ่งย้ายซบทีมตาม ๆ กันมาในปีที่แล้ว หลังใช้ชีวิตช่วงสั้น ๆ อยู่ใน ลอนดอน กับ เชลซี โดย คูลิบาลี่ ทำหน้าที่ปราการหลังสุดแกร่งพาทีมต้นสังกัดเป็น "แชมป์ไร้พ่าย" โดยเสียไปเพียง 23 ประตูเท่านั้นตลอดทั้งซีซัน แถมยังเก็บชัยชนะไปได้ถึง 31 เกมจากทั้งหมด 34 เกมอีกด้วย
5. เอ็นโกโล ก็องเต้ (อัล อิตติฮัด)
แม้หลายคนมองว่าเลยช่วงเวลาของ ก็องเต้ ไปแล้ว เพราะตลอดระยะเวลาสองซีซันสุดท้ายของเขากับ เชลซี ก็องเต้ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บถี่มากจนแทบไม่ได้ลงเล่น แต่ชีวิตของเขาพลิกผันอีกครั้งเมื่อมิดฟิลด์ดีกรีแชมป์โลกย้ายซบ อัล อิตติฮัด และกลับมาฟิตสมบูรณ์จนลงสนามไปทั้งหมด 44 เกมในซีซันที่ผ่านมา แถมได้รับโอกาสจาก ดิดิเยร์ เดสชองส์ เรียกติดทีมไปลุย ยูโร 2024 อีกด้วย
4. ฟาบินโญ่ (อัล อิตติฮัด)
อีกหนึ่งกองกลางตัวรับที่ อัล อิตติฮัด ลงทุนดึงตัวมาด้วยจำนวนเงินถึง 40 ล้านปอนด์ แต่เจ้าตัวกลับโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังในซีซันแรกใน ซาอุดิ โปรฯ ลีก ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงก็ยังไม่ใช่ ฟาบินโญ่ คนเก่าที่แฟนบอล หงส์แดง รู้จัก แถมปัญหาอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายซีซันทำให้มิดฟิลด์ชาว บราซิล พลาดการลงสนามไปเกือบ 3 เดือนเลยทีเดียว
3. ซาดิโอ มาเน่ (อัล นาเซอร์)
หลังใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในการย้ายไปค้าแข้งใน บุนเดสลีกา เยอรมัน กับ บาเยิร์น มิวนิค ซาดิโอ มาเน่ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในการเล่นร่วมกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ อัล นาเซอร์ แม้จะยังไม่สามารถผลิตโทรฟี่ให้กับทีมต้นสังกัดได้ แต่ดาวเตะชาว เซเนกัล ทำไปได้ถึง 19 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์ แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นของเขาที่เริ่มกลับมาทรงพลังอีกครั้งหนึ่ง
2. อเล็กซ์ เตลเลส (อัล นาเซอร์)
อเล็กซ์ เตลเลส เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับการชุบชีวิตหลังจากย้ายมาเล่นใน ซาอุดิ โปรฯ ลีก เพราะเจ้าตัวได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง และสามารถโชว์ฟอร์มการบุกทางกราบซ้ายได้อย่างน่ากลัวเป็นที่สุด อย่างไรก็ตาม เขาถูกวิจารณ์จากหลายจังหวะที่เขาชอบกลับไปอยู่ในตำแหน่งของตัวเองไม่ทันจนกลายเป็นที่มาของ 42 ประตูที่ อัล นาเซอร์ เสียให้กับคู่แข่งในฤดูกาลนี้
1. เอเมอริก ลาปอร์ต (อัล นาเซอร์)
หนึ่งในอดีตกองหลังคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจกับ อัล นาเซอร์ โดยมีโมเม้นต์ที่น่าจดจำคือการยิงประตูจากครึ่งสนาม ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่พูดถึงมากในโลกออนไลน์ช่วงขณะนั้น อย่างไรก็ตาม ลาปอร์ต มีโชว์น็อตหลุดบ้างจากการออกหมัดใส่คู่แข่งในเกมลีกนัดสุดท้ายกับ อัล อิตติฮัด จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามพลาดการลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล คิง คัพ กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อัล ฮิลาล ซึ่งสุดท้าย อัล นาเซอร์ ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปอีกด้วย