[FEATURE] แมนฯ ยูไนเต็ด-เรอัล มาดริด ติดโผ ! 18 ทีมดังที่ยังมีสิทธิ์ร่วงไปเล่นในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก ณ ปัจจุบัน
แม้การแข่งขัน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มจะดำเนินไปแล้วถึง 5 นัด แต่ก็มีอีกหลายทีมยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่สามารถการันตีได้ว่าตัวเองจะได้ผ่านเข้าไปสู่รอบต่อจนกว่าการแข่งขันในนัดที่ 6 จะเสร็จสิ้นลง และอย่างที่รู้กันดี ทีมในอันดับ 3 จากทั้ง 8 กลุ่ม A-H จะต้องร่วงลงมาเล่นใน ยูโรปาลีก แทน วันนี้เรามาดูกันว่าในแต่ละกลุ่มมีทีมใดบ้างที่มีโอกาสจะไม่ได้ไปต่อบนหนทางสู่ถ้วยบิ๊กเอียร์
1. GROUP A
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : แอตฯ มาดริด, ซัลว์บวร์ก และ โลโคโมทีฟ
บาเยิร์น มิวนิค ลอยลำเข้ารอบไปแล้วหลังเก็บได้ถึง 13 แต้ม จาก 5 เกมแรก ส่วน แอตเลติโก มาดริด ที่มี 6 แต้ม ขอเพียงแค่ไม่แพ้ ซัลซ์บวร์ก (4 แต้ม) ทีมจาก ออสเตรีย ในนัดสุดท้ายก็จะตาม เสือใต้ เข้ารอบไป อย่างไรก็ดีถ้า โลโคโมทีฟ มอสโก (3 แต้ม) ก็ยังมีลุ้นถีบตัวเองขึ้นมาจากตำแหน่งบ๊วยของกลุ่มเพื่อไปเล่นใน ยูโรปา อีกเช่นกัน ถ้าสามารถเอาชนะ คู่แข่งสุดหินจากเยอรมันได้ถึงบ้านของพวกเขา โดยที่มีข้อแม้ว่า ซัลซ์บวร์ก จะต้องไม่ชนะทีม ตราหมี
2. GROUP B
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : กลัดบัค, ชัคตาร์, อินเตอร์ และ เรอัล มาดริด
ทั้ง 4 ทีมมีโอกาสจบที่ 3 ได้ทั้งนั้น โดย เรอัล (7 แต้ม) ต้องเอาชนะ กลัดบัค (8 แต้ม) เท่านั้นถ้าอยากจะเข้ารอบต่อไปหรือถ้าทำได้แค่เสมอก็จะต้องลุ้นให้ ชัคตาร์ (7 แต้ม) แพ้ อินเตอร์ (5 แต้ม) เท่านั้น เพราะลูกทีมของ ซีดาน มี เฮดทูเฮดที่ด้อยกว่า นอกจากนี้ทีมจาก เยอรมัน แม้จะนำอยู่เป็นอันดับ 1 ของตารางก็ยังชะล่าใจไม่ได้เพราะถ้าพวกเขาแพ้ โดยที่ ชัคตาร์ เอาชนะ อินเตอร์ได้ ก็อาจต้องร่วงลงไป ยูโรปา แทน
3. GROUP C
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : โอลิมเปียกอส และ มาร์กเซย
ทั้ง 2 ทีมนี้ (3 แต้มเท่ากัน) จะต้องเจอกับ แมนฯ ซิตี้ และ ปอร์โต้ ที่ผ่านเข้ารอบไปได้แล้ว ดังนั้นใครที่เก็บแต้มในเกมสุดท้ายได้มากกว่าก็จะได้ไปเล่น ยูโรปา ลีก ส่วนถ้าผลออกมาหน้าเดียวกันจะเป็นทางด้าน โอลิมเปียกอส ที่มี เฮดทูเฮด ที่ดีกว่าทีมจาก ฝรั่งเศส
4. GROUP D
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : อาแจ็กซ์ และ อตาลันต้า
ทั้งสองทีมจะได้เจอกันเองเพื่อหารองแชมป์ และ ทีมอันดับ 3 โดยตัวแทนจาก เซเรีย อา (8 แต้ม) ขอแค่ผลเสมอก็เพียงพอแล้วที่จะเข้าไปเล่นรอบต่อไปของ แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วน อาแจ็กซ์ (7 แต้ม) ก็ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น
5. GROUP E
เป็นกลุ่มเดียวที่ตำแหน่งบนตารางคงที่แล้ว โดย เชลซี เป็นแชมป์กลุ่มด้วยคะแนน 13 แต้ม ตามมาด้วย เซบีญา 10 แต้ม และ คราสโนดาร์ ที่ได้ไปเล่นใน ยูโรปา 4 แต้ม
6. GROUP F
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : ลาซิโอ และ คลับ บรูช
คล้ายกับกลุ่ม D คือทั้ง 2 ทีมจะได้เจอกันเอง และ ลาซิโอ (9 แต้ม) แค่ไม่แพ้ก็เพียงพอแล้วที่จะได้ไปต่อ ส่วน บรูช (7 แต้ม) ที่ทำคะแนนทิ้งห่าง เซนิต (1 แต้ม) ถึง 6 แต้มก็จะได้ไป ยูโรปา ลีกแทนหากไม่สามารถเอาชนะทีมของ อินซากี ได้
7. GROUP G
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : เฟเรนซ์วารอส และ ดินาโม เคียฟ
ทั้ง เคียฟ และ เฟเรนซ์วารอส ต่างก็มี 1 แต้มเท่ากัน โดยในเกมแรกจบลงที่ผลเสมอ 2-2 ในบ้านของทีมจาก ฮังการี ดังนั้นถ้าผลออกเสมอ 0-0 หรือ 1-1 จะเป็นทีมจาก ยูเครน ที่ได้สิทธิ์ในการไปเล่น ยูโรปา ลีก ต่อ
8. GROUP H
ทีมที่มีโอกาสไปเล่น ยูโรปา : แมนฯ ยูไนเต็ด, เปแอสเช และ ไลป์ซิก
ทั้ง 3 ทีมมีแต้มเท่ากันที่ 9 คะแนน โดย ปีศาจแดง จะออกไปเยือนทีมจาก เยอรมัน และพวกเขาขอเพียงแค่ผลเสมอเท่านั้นก็จะได้เข้าสู่รอบต่อไปในทันที เนื่องจากมี เฮดทูเฮด ดีกว่า ไลป์ซิก จากการเอาชนะไปได้ 5-1 ในบ้านของตัวเองเมื่อเดือนก่อน แต่ถ้าแพ้ โอเล และลูกทีมจะได้ไปเล่นใน ยูโรปา ทันทีเนื่องจาก เฮดทูเฮด แพ้ เปแอสเช ที่จะลงสนามดวลกับ อิสตันบูล ที่ตกรอบไปแล้ว
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด