ย้อนรอย 4 อดีตนักเตะดัง พรีเมียร์ลีก ที่เคยหวนกลับมาเป็นผู้จัดการให้ต้นสังกัดเดิมที่เคยค้าแข้ง - FEATURE

  • นักเตะหลายคนอำลาสนามในฐานะตำนานของทีมและกลับมารับงานกุนซือต่อในเวลาต่อมา
  • อดีตยอดนักเตะ พรีเมียร์ลีก 4 รายนี้ ได้รับโอกาสเป็นเทรนเนอร์ทีมเก่าของตัวเอง
Chelsea FC v Newcastle United - Premier League
Chelsea FC v Newcastle United - Premier League / Visionhaus/GettyImages
facebooktwitterreddit

เมื่อนักฟุตบอลส่วนใหญ่เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพ พวกเขาเริ่มจะมองหาเส้นทางอื่นไว้รองรับ และบางคนอาจทำงานในวงการลูกหนังต่อไปด้วยการเป็นผู้จัดการทีม ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จ และล้มเหลวแตกต่างกันไป

ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้เห็นนักเตะชื่อดังมากมายที่ผันตัวมาเป็นยอดโค้ชในเวลาต่อมา แต่สำหรับบนเวที พรีเมียร์ลีกอังกฤษ นี้มีเพียงไม่กี่รายที่ได้รับโอกาสกลับมาคุมทีมเก่าของตนเอง และนี่คือ 4 อดีตผู้เล่นชื่อดังที่มีโอกาสที่หวนกลับมาคุมอดีตต้นสังกัดตัวเองอีกครั้ง...


1. แฟรงค์ แลมพาร์ด (เชลซี)

Frank Lampard
Chelsea FC v Newcastle United - Premier League / Alex Davidson/GettyImages

อดีตเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของ เชลซี อย่างแทเจริง หลังจากอยู่ค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ นานถึง 13 ปีเต็ม โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการ 648 เกม ตะบันไปถึง 211 ประตู พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และยูโรป้าลีก 1 สมัย

ภายหลังอำลาสนาม แลมพาร์ด เริ่มรับงานกุนซือด้วยการคุมทีม ดาร์บี้ เมื่อปี 2018 ก่อนจะเข้ามานำทัพ เชลซี ในซัมเมอร์ปี 2019 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก และโดน โรมัน อบราโวมิช อดีตเจ้าของ “สิงโตน้ำเงินคราม” ปลดจากตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมปี 2021

หลังโดน เชลซี ตะเพิดไม่นาน แลมพาร์ด ก็เข้ารับกับ เอฟเวอร์ตัน แต่ก็อยู่คุมทีมได้เพียงปีเดียวก็ต้องว่างงานอีกครั้งหลังจากผลงานไม่น่าประทับใจ และในเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2023 โค้ชวัย 46 ปี ก็หวนไปคุมทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” แบบขัดตาทัพ และว่างงานมาจนถึงปัจจุบัน

2. โอเล่ กุนาร์ โซลชา (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

Ole Gunnar Solskjaer
Watford v Manchester United - Premier League / Charlie Crowhurst/GettyImages

โซลชา เป็นหนึ่งในนักเตะที่แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด รักมากที่สุดเลยก็ว่าได้ หลังจากเจ้าตัวเคยค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด นานถึง 11 ปี ลงเล่นไปมากมากถึง 366 เกม ซัดไป 126 เกม พร้อมกับคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย

หลังแขวนสตั๊ด อดีตหัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ ไปเริ่มคุมทีม โมลด์ ในลีกบ้านเกิด จากนั้น กลับมาทำงานในอังกฤษกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และหวนกลับไปคุม โมลด์ อีกครั้ง ก่อนจะมารับงานใหญ่คุม แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2018

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 3 กับในการกุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น โซลชา ไม่ประสบความสำเร็จนัก โดยทำได้ดีที่สุดคือพา “ปีศาจแดง” เป็นรองแชมป์ ยูโรปา ลีก เมื่อปี 2021

3. มิเกล อาร์เตต้า (อาร์เซนอล)

Mikel Arteta
Arsenal FC v Wolverhampton Wanderers FC - Premier League / Eddie Keogh/GettyImages

อดีตมิดฟิลด์ชาวสเปน เคยค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล นานถึง 5 ปี และยังได้รับเกียรติสวมปลอกแขนกัปตันทีม “ไอ้ปืนใหญ่” อีกด้วย โดยสมัยเป็นนักเตะนั้น อาร์เตต้า พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ถึง 2 สมัย ก่อนจะอำลาสนามไปเมื่อปี 2016

อาร์เตต้า เริ่มต้นเส้นทางโค้ชด้วยการไปเป็นหนึ่งในสตาฟฟ์ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้รับโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เมื่อปี 2019 ต่อจาก อูไน เอเมรี่

ปัจจุบันในวัย 42 ปี อาร์เตต้า คุมทีม อาร์เซนอล เข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว และมีดีกรีพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 1 สมัย พร้อมกับชับเคี่ยวลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ซิตี อย่างสูสีใน 2 ปีหลังสุด

4. ทิม เชอร์วู้ด (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)

Tim Sherwood
Tottenham Hotspur v Aston Villa - Premier League / Matthew Lewis/GettyImages

เชอร์วู้ด เป็นอดีตกองกลาง สเปอร์ส ที่ค้าแข้งกับทีมในระหว่างปี 1998-2003 โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการ 118 เกม ซัดไป 16 ประตู แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวไม่เคยคว้าแชมป์ในสีเสื้อพลพรรค “ไก่เดือยทอง” ได้เลยแม้แต่รายการเดียว

หลังอา สเปอร์ส เชอร์วู้ด ก็ย้ายไปเล่นกับ พอร์ทสมัธ และ โคเวนทรี ซิตี ก่อนประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2005 และในปี 2013 เจ้าตัวก็กลับมารับงานคุมทัพ “ไก่เดือยทอง” โดยตลอด 1 ปีที่ทำงานเขาพาทีมชนะ 14 เสมอ 4 และแพ้ไป 10 เกม

หลังแยกทางกับ สเปอร์ส เชอร์วู้ด ก็ไปคุมทีม แอสตัน วิลลา เป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้น ก็หันมารับงานเป็นนักวิเคราะห์จนถึงปัจจุบัน