ย้อนอดีต 5 สุดยอดนักฟุตบอลแห่งยุค ที่ถูกกาลเวลากลืนกินจนแทบไม่มีใครรู้จักในปัจจุบัน - FEATURE

ในวงการฟุตบอลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีนักเตะฝีเท้าดีมากมายหลายต่อหลายคนที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมอยู่เสมอ ซึ่งบางคนถูกจดจำในฐานะตำนาน, ฮีโร่, สุดยอดผู้เล่น หรือแข้งที่ประสบความสำเร็จมากมาย

อย่างไรก็ตาม วันนี้เราจะพาไปพบกับอดีต 5 นักฟุตบอลที่โดดเด่นในยุคของตัวเอง แต่ปัจจุบันกลับถูกลืมไปตามกาลเวลา

1. ดามินญา

สำหรับแฟนบอลยุค 90 หากใครไม่ตื่นเต้นกับฝีเท้า ทักษะ และพรสวรรค์ของ ดามินญ่า ถือว่า คุณดูฟุตบอลไม่เป็น โดยลองนึกภาพถ้า อดีตเพลย์เมคเกอร์ชาวบราซิล ยังค้าแข้งอยู่ในยุคที่มี โซเชียลมีเดีย แพร่หลายอย่างทุกวันนี้ คลิปการเล่นของเจ้าตัวจะถูกนำมาเป็นไวรัลอย่างแน่นอน

ดามินญ่า เป็นจอมทัพเบอร์ 10 ที่เต็มไปด้วยเทคนิค และประสิทธิภาพ โดยช่วงเวลาที่พีคคือ ในซีซัน 1999-2000 ที่เป็นกำลังสำคัญช่วยให้ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า คว้าแชมป์ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่

แม้จะไม้ได้ค้าแข้งกับสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปเหมือนกับตำนานนักเตะชาวบราซิลรายอื่นๆ แต่ ดามินญ่า ก็มีดีกรีติดทัพ “เซเลเซา” ชุดใหญ่ไป 14 เกม และคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา เมื่อปี 1997 ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปแบบเงียบๆกับ คลับ อเมริกา ในลีกเม็กซิโก เมื่อปี 2004

2. จอห์น โรเบิร์ตสันส์

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ โรเบิร์ตสันส์ เคยคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 สมัย และ ยูโรเปียน คัพ 2 สมัย ร่วมกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เนื่องจากในห้วงเวลาดังกล่าว พลพรรค “เจ้าป่า” ภายใต้การคุมทีมของโค้ชระดับตำนานอย่าง ไบรอัน คลัฟ ถือเป็นมหาอำนาจของอังกฤษ และวงการฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง

อดีคปีกซ้ายทีมชาติสก็อตแลนด์ เป็นนักเตะตัวรุกที่อันตรายสุดๆ เขามีเทคนิคชั้นยอด และเปิดบอลได้อย่างแม่นยำตามสไตล์ตัวริมเส้นแบบดั้งเดิม และที่หลายคนอาจลืมไปแล้วคือ โรเบิร์ตสันส์ เป็นผู้ทำประตูชัยให้กับ ฟอเรสต์ เอาชนะ ฮัมบูร์ก  1-0 จนสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียน คัพ ได้เป็นสมัยที่ 2 เมื่อปี 1980

3. ดาร์โก ปานเชฟ

ในยุคสมัยเฟื่องฟูของศึก ยูโรเปี้ยน คัพ เรด สตาร์ เบลเกรด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งประเทศเซอร์เบีย ถือหนึ่งในทีมที่สร้างความหวดหวั่นให้กับคู่ต่อสู้อย่างมาก และยังเคยคว้าแชมป์มาแล้ว 1 สมัย ในฤดูกาล 1990-1991

ในห้วงเวลานั้น เรดสตาร์ มีนักเตะชั้นยอดอยู่ในทีมหลายราย อาทิ โรเบิร์ต โปรซิเนียสกี้,เดยัน ซาวิเซวิช, ซินิซ่า มิไฮโลวิช และ ปานเชฟ ที่ระเบิดฟอร์มยิงประตูแบบถล่มทลายจนทำให้ อินเตอร์ มิลาน คว้าตัวไปล่าตาข่าย

อย่างไรก็ตาม ตลอด 3 ปี กับ อินเตอร์ นั้น อดีตดาวยิงทีมชาติยูโกสลาเวีย กลับทำผลงานน่าผิดหวังด้วยการยิงไปเพียง 3 ประตู จาก 19 เกมรวมทุกรายการ และมีปัญหาเรื่องทัศนคติ จึงทำให้ถูกปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก และชื่อของเขาก็ค่อยๆถูกลืม 

4. ฌอง-ปิแอร์ ปาแปง

  อดีตดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ควรเป็นที่จดจำของแฟนบอลมากกว่านี้หลังจากเคยสร้างสถิติเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก และเคยประสบความสำเร็จส่วนตัวด้วยการคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปี 1991 สมัยที่ค้าแข้งกับ โอลิมปิก มาร์เซย

ในปีต่อมา ปาแปง ย้ายไปเล่นกับ เอซี มิลาน ภายใต้การนำของกุนซือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ และจับคู่ในแดนหน้ากับ มาร์โก แวน บาสเทน ตำนานหัวหอกชาวดัตช์ ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ในช่วงหลังจะมีนักเตะอย่าง รุท กุลลิท, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด, ซโวนิเมียร์ โบบัน และ เดยัน ซาวิเซวิช เข้ามาจึงทำให้เขาค่อยๆถูกลดบทบาทลงไป

หลังจากค้าแข้งกับ มิลาน 2 ปี ปาแปง ก็โยกไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนจะหวนกลับไปเล่นในบ้านเกิดอีกครั้งกับ บอร์กโดซ์ และพเนจรไปเล่นกับหลายสโมสรก่อนจะอำลาวงการฟุตบอลเมื่อปี 2004

5. มิเชล พรูดอม

พรูดอม โชคไม่ดีนักที่ในช่วงท้ายอาชีพของเจ้าตัวในศึกฟุตบอลโลก ปี 1998  มีนายทวารชั้นยอดหลายราย อาทิ ปีเตอร์ ชไมเคิล, โอลิเวอร์ คาห์น, และ จานลุยจิ บุฟฟอน รวมไปถึง อิเคร์ กาซิยาส ที่ฟอร์มกำลังพุ่งแรงกับทีมชาติสเปนในเวลานั้น

   พรูดอม ถือเป็งหนึ่งในผู้รักษาประตูฝีมือดี ที่สร้างผลกระทบให้กับแนวรับเป็นอย่างมาก เขามีสภาพร่างกายแข็งแรง ว่องไว ปฏิกิริยายอดเยี่ยม และสั่งการกองหลังได้เป็นอย่างดี แต่หากพูดถึงโกล์ในยุคดังกล่าว คาห์น กับ ชไมเคิล ถือเป็นชื่อที่แฟนบอลพูดถึงมากที่สุด

ความสำเร็จที่สุดยอดของ พรูดอม คือระยะเวลาในการเฝ้าเสาของเจ้าตัวที่ยาวถึง 22 ปี โดยเปิดตัวลงสนามในระดับชาติครั้งแรกกับเบลเยียม ในปี 1979 จากนั้น ในฟุตบอลโลกปี 1994 เขาก็ยังลงเฝ้าเสา และได้รับรางวัล Yashin อีกด้วย