ย้อนรอย 5 ทีมดังในอดีตที่เคยพลาดท่าตกชั้นจากลีกสูงสุด - FEATURE

  • การเลื่อนชั้นและตกชั้นเป็นเรื่องปกติของฟุตบอลลีกทั่วโลก
  • 5 สโมสรเหล่านี้เคยพลาดท่าต้องตกลงไปเล่นในลีกรอง
Leeds United v Everton
Leeds United v Everton / Laurence Griffiths/GettyImages
facebooktwitterreddit

ในการแข่งขันฟุตบอลลีกโลกทั่วโลก การตกชั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และมันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นในทุกปีไม่ว่าสโมสรเหล่านั้นจะมีผู้เล่นฝีเท้าดี กุนซือมากฝีมือ ฐานแฟนบอลที่แข็งแกร่ง หรือสถานะภาพทางการเงินที่มั่นคงเพียงใดก็ตาม และวันนี้เราจะพาไปพบกับ 5 สุดยอดทีมที่ต้องลงไปเล่นในลีกรองของประเทศ


5. น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ปี 1992-1993)

Brian Clough
Brian Clough / Getty Images/GettyImages

ในระหว่างปี 1975-1992 ฟอเรสต์ ภายใต้การกุมบังเหียนของตำนานกุนซืออย่าง ไบรอัน คลัฟ อยู่ในช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองสุดขีด โดยพลพรรค “เจ้าป่า” กลายเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลอังกฤษ และยุโรปอย่างแท้จริงหลังคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย และแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 2 สมัย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้นในปี 1993 ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดท้ายของ คลัฟ ในถิ่น ซิตี้ กราวด์ ที่เจ้าตัวต้องอำลาทีมแบบสุดเจ็บปวดด้วยการตกชั้น และหลังจากนั้น “เจ้าป่า” ก็ไม่ได้เข้าใกล้ความสำเร็จรายการใหญ่อีกเลย

4. แอตเลติโก มาดริด (ปี 1999-2000)

Atletico Madrid team group
Atletico Madrid team group / Getty Images/GettyImages

จุดตกต่ำสุดของ แอตฯมาดริด เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม ปี 1999 เพียงไม่ถึงครึ่งกลางของฤดูกาล หลังจาก เฆซุส กิล อดีตประธานสโมสร และบรรดาคณะกรรมการสโมสรของ “ตราหมี” ถูกแบนเนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการยักยอกเงินทุนสโมสร

  ผู้เล่นชื่อดังของ แอตฯมาดริด ในทีมชุดนั้นอย่าง จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์, โจน คัปเดวิลลา และ ฆวน คาร์ลอส บาเรลอน ต้องต่อสู้กับสิ่งรบกวนนอกสนาม ขณะที่โค้ชอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรี่ ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ โดยที่ทีมยังอยู่อันดับ 3 จากท้ายตาราง

   ราโดเมียร์ อันทิช เทรนเนอร์ชาวเซอร์เบีย หวนกลับมาคุมทีมอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ แอตฯมาดริด รอดพ้นจากการลงเล่นไปเล่นในศึก เซกุนก้า ได้สำเร็จ

3. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (ปี 2002-2003)

West Ham Manager Glenn Roeder talks with Thomas Repka
West Ham Manager Glenn Roeder talks with Thomas Repka / Jamie McDonald/GettyImages

การมีนักเตะอย่าง เดวิด เจมส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิล คาร์ริค, เจอร์เมน เดโฟ, เปาโล ดิ คานิโอ, เกล็น จอห์นสัน และ โจ โคล ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ เวสต์แฮม รอดตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก ในปี 2003 โดยซีซันดังกล่าว พลพรรค “ขุนค้อน” เก็บได้ 42 คะแนน

ในช่วงต้นเดือนเมษายน ปี 2003 เวสต์แฮม ใช้ตำนานอย่าง เทรเวอร์ บรูคคิ้ง เข้ามาคุมทีมแทน เกล็น โรเดอร์ ที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ แต่ดูเหมือนมันจะสายเกินไป และเมื่อทีมที่หนีตกชั้นด้วยกันอย่าง โบลตัน วันเดอเรอร์ส เอาชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-1 ในวันสุดท้าย “เดอะ แฮมเมอร์” ก็ต้องโบกมือลา พรีเมียร์ลีก ทันที

2. ลีดส์ ยูไนเต็ด (ปี 2003-2004)

Mark Viduka, James Milner
Manchester City v Leeds United / Alex Livesey/GettyImages

หลังจากเข้าสู่รอบรองชนะเลิศที่น่าทึ่งของศึกยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก ในปี 2000-2001 ปีเตอร์ รีดด์เดล อดีตประธานสโมสร ลีดส์ ได้วางเดิมพันอนาคตของสโมสรด้วยการกู้ยืมเงินจำนวนมาก โดยตั้งใจจะจ่ายคืนผ่านรายได้จากการที่ “ยูงทอง” คว้าตั๋วไปเล่นในศึก ศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างต่อเนื่องในทุกฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ลีดส์ ไม่สามารถทำอันดับไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ใน 2 ซีซันต่อมา และด้วยสถานะทางการเงินทำให้พวกเขาถูกบีบให้ขายนักเตะระดับท็อปอย่าง อลัน สมิธ, ไนเจล มาร์ติน และ แฮร์รี่ คีเวลล์ ออกไปเพื่อช่วยผยุงสโมสร

ขณะเดียวกัน นักเตะที่เหลืออย่าง พอล โรบินสัน, เจมส์ มิลเนอร์, ลูคัส ราเดเบ้ และ มาร์ค วิดูก้า ก็ไม่สามารช่วยให้ ลีดส์ รอดตกชั้นได้สำเร็จ และหลังจากนั้น “ยูงทอง” ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นมาสู่จุดเดิมได้อีกเลย

1. ยูเวนตุส (2005-2006)

Alessandro Del Piero
Serie A: Reggina v Juventus / New Press/GettyImages

ในปี 2006 ยูเวนตุส คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับเก็บแต้มได้มากถึง 91 คะแนน แต่ “เจ้าม้าลาย” กลับถูกริบถ้วยแชมป์คืน และโดนปรับให้ลงไปเล่นใน เซเรีย บี เนื่องจากบอร์ดบริหารของสโมสรมีส่วนพัวพันกับคดีล้มบอล

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นซุเปอร์สตาร์อย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, เมาโร คาโมราเนซี่, พาเวล เน็ดเว็ด, และ ดาวิด เทรเซเกต์  ต่างยังคงอยู่กับทีมต่อไป และถึงแม้จะโดนตัดคะแนนถึง 9 แต้ม ก่อนเปิดซีซั่น แต่พวกเขายังคว้าแชมป์ เซเรีย บี และเลื่อนชั้นกลับคืนสู่ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาลถัดมา

หลังกลับสู่ เซเรีย อา ยูเวนตุส ก็ใช้เวลาในการสร้างทีมใหม่พอสมควร ก่อนจะเดินหน้าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน