ย้อนรอย 6 ซุเปอร์สตาร์ดังที่ยิงประตูได้ในนัดประเดิมสนามกับทีมชาติ - FEATURE
- การถูกเรียกตัวไปรับใช้ชาติถือว่าเป็นจุดสูงสุดของนักฟุตบอล
- แข้งเหล่านี้ยิงประตูได้ทันทีในเกมประเดิมสนามให้บ้านเกิด
- หลายคนก้าวขึ้นมาเป็นซุเปอร์สตาร์ได้ในเวลาต่อมา
โดย Navapun Munarsa
สำหรับนักฟุตบอลทุกคนการถูกเรียกตัวไปรับใช้ชาติถือว่า เป็นความฝันสูงสุด แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ การซัดประตูได้ในนัดประเดิมสนามกับบ้านเกิดตัวเองอาจเป็นประสบการณ์ที่จะถูกจดจำไปตลอดชีวิต และวันนี้เราจะพาไปพบกับ 6 ผู้เล่นระดับท็อปที่ยิงได้ทันทีที่ลงเล่นให้ชาติตัวเอง
1. เปเล่ (บราซิล ปี 1957)
เปเล่ เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอล ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดที่เจ้าตัวจะทำประตูได้ในนัดเปิดตัวกับทีมชาติบราซิล ด้วยวัยเพียง 16 ปี ในเกมที่พลพรรค “เซเลเซา” เปิดบ้านเชือด อาร์เจนติน่า คู่แค้นตลอดกาล 2-1 ในปี 1957
ตำนานดาวยิงแซมบ้า ระเบิดตาข่ายคู่แข่งในระดับนานาชาติไปถึง 77 ประตู จาก 92 นัด ตลอด 14 ปี ที่รับใช้ชาติ ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าเหลือเชื่อ นอกจากนี้ เปเล่ ยังพา บราซิล ประสบความมสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัย ได้แก่ ปี 1958, 1962 และ 1970
2. ซีเนอดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส ปี 1994)
ย้อนกลับไปดเมื่อเดือนสิงหาคมปี 1994 ในเกมกระชับมิตรที่ ฝรั่งเศส เอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-0 ซีดาน ในวัย 22 ปี ถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม และทำประตูแรกของเขากับพลพรรค “ตราไก่” ได้สำเร็จ จากการยิงไกลสุดแบบสุดสวย
การยิงประตูของ ซีดาน มันเป็นสัญญาณบ่งบอกความสำเร็จหลังจาก 4 ปีต่อมา เจ้าตัวเป็นกำลังสำคัญในการพา ฝรั่งเศส ในฐานะเจ้าภาพ เอาชนะ บราซิล ไปด้วยสกอร์ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศศึก ฟุตบอลโลกปี 1998 พร้อมคว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ ต่อด้วยแชมป์ยูโร ปี 2000
ผลงานในนามทีมชาติฝรั่งเศสของ อดีตเพลย์เมคเกอร์ ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด นั้น ลงเล่นไปจำนวน 108 นัด ยิง 31 ประตู
3. อลัน เชียร์เรอร์ (อังกฤษ ปี 1992)
ศูนย์หน้าจองเข้าฉายา “ฮอตช็อต” ซัดประตูเปิดตัวให้กับทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกในเกมกระชับมิตรที่ พลพรรค “สิงโตคำราม” เอาชนะ ฝรั่งเศส 2-0 ในปี 1992 จากการหมุนตัวตวัดยิงด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษอย่างสุดยอด
นอกจากนี้ เชียร์เรอร์ ยังได้รับการจารึกว่า เป็นนักเตะที่ทำประตูได้สูงสุดในศึก พรีเมียร์ลีก จำนวน 260 ลูก ขณะที่ผลงานกับทีมชาติอังกฤษตะบันไปทั้งหมด 30 ประตู จากเกม 63 นัด และยังเคยคว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดประจำศึกยูโร ปี 1996 หลังซัด 5 ประตู จากเกม 5 นัด พา “ทรี ไลออนส์” เข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ
4. ดิเอโก ฟอร์ลัน (อุรุกวัย ปี 2002)
แม้จะไม่ประสบความสำเร็จกับเส้นทางอาชีพที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ ฟอร์ลัน กลับทำผลงานได้อย่างสุดยอดในลา ลีกา สเปน กับ บียาร์เรอัล และ แอตเลติโก มาดริด ซึ่งทำให้เจ้าตัวเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อย่างเต็มเปี่ยม
จุดสูงสุดของ ฟอร์ลัน เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 หลังพาทีมชาติอุรุกวัยเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พร้อมกับได้รับรางวัลฟุตบอลทองคำในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์ แต่สิ่งที่หลายอาจลืมไปก็คือ ลูกแรกในเกมเปิดตัวกับทีม “จอมโหด” เกิดขึ้นในเกมที่ เอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย 3-2 เมื่อปี 2002
ตลอดเส้นทางการรับใช้ชาติ ฟอร์ลัน มีสถิติ ยิงไป 36 ลูก จาก 112 นัด
5. เนย์มาร์ (ปี 2010)
เนย์มาร์ ใช้เวลาไม่นานในการประกาศศักดาตัวเองบนเวทีระดับนานาชาติหลังจากใช้เวลาเพียง 28 นาที ซัดประตูในเกมเปิดตัวกับ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2010 ด้วยวัยเพียง 18 ปี และหลังจากนั้น เจ้าตัวก็กลายเป็นคีย์แมนของ “เซเลเซา” มาตลอด
ปัจจุบันอดีตนักเตะเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก ทำลายสถิติของตำนานอย่าง เปเล่ ไปเรียบร้อยแล้ว หลังตะบันไป 79 ประตู จาก 128 เกมให้กับ บราซิล
6. มิโลสลาฟ โคลเซ่ (ปี 2001)
อดีตศูนย์หน้า บาเยิร์น มิวนิค เปิดตัวกับทีมชาติเยอรมันครั้งแรกในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ แอลเบเนีย โดยเป็นคนยิงประตูชัยให้ทัพ “อินทรีเหล็ก” เอาชนะไปได้ 2-1
โคลเซ่ ลงสนามให้ เยอรมัน ทั้งสิ้น 137 นัด ยิงไป 71 ประตู พร้อมกับพาทัพ “อินทรีเหล็ก” คว้าแชมป์โลกในปี 2014 ได้สำเร็จ