นับถอยหลัง ยูโร 2024 : ถอดรหัสทีมเต็งแชมป์ และความเป็นไปได้จากการคำนวณของ AI - FEATURE

• เปิดโผโอกาสคว้าแชมป์ ยูโร 2024 จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
• ออปต้า ใช้ฐานข้อมูลและการคำนวณอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำนายทายทัก ยูโร 2024 เอาไว้เรียบร้อย
• ทีมชาติไหนมีโอกาสผงาดบัลลังก์ศึกชิงแชมป์ยุโรปหนนี้ สูงกว่าใคร--และรองๆ ลงไป
TOPSHOT-FBL-EURO-2024-TROPHY
TOPSHOT-FBL-EURO-2024-TROPHY / TOBIAS SCHWARZ/GettyImages
facebooktwitterreddit

คงพอได้เห็นกันแล้วกับข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ ยูโร 2024 ที่ ออปต้า (Opta) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลกีฬาชั้นนำ หยิบยกเอาปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มาคิดคำนวณซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งได้บทสรุปของศึกชิงแชมป์ยุโรปหนนี้

แต่อันที่จริง การวิเคราะห์ของ ออปต้า ไม่ได้ชี้ชัดไปที่การครองแชมป์เท่านั้น แต่ยังประเมินโอกาสของแต่ละชาติเอาไว้ ว่ามีสิทธิ์ไปได้ไกลแค่ไหน ไม่ว่าจะ 8 ทีม, ตัดเชือก หรือถึงชิงชนะเลิศ

และทั้งหมดนี้คือการคำนวณของ AI ที่อาจเป็นการบอกใบ้ว่าทิศทางของ ยูโร 2024 จะเป็นไปอย่างไร


โครเอเชีย

  • แชมป์ : 2%

    เข้าชิง : 5.7%

    ตัดเชือก : 14%

    รอบ 8 ทีม : 34.4%

เจ้าของอันดับ 3 จาก ฟุตบอลโลก 2022 และรองแชมป์โลก 2018 ถูกประเมินเอาไว้ค่อนข้างต่ำ ด้วยภาพรวมคือเป็น "เต็ง 10" ของรายการ และโอกาสผงาดแชมป์มีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ปัจจัยแรก คงเพราะทีมของ ซลัตโก้ ดาลิช ไม่อาจสร้างตัวเด็ดๆ หน้าใหม่ๆ ขึ้นมาได้มากสักเท่าไรในช่วง 2-3 ปีหลัง ในเวลาเดียวกันกับที่บรรดาตัวหลักหน้าเก่าๆ เริ่มโรยราไปตามวัย

  • ลูก้า โมดริช ปาไป 38 และหลุดเป็นสำรองของ เรอัล มาดริด แล้ว

    อีวาน เปริซิช 35 ตอนนี้กลับบ้านไปเล่นที่่ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิท

    โดมากอย วีด้า ก็ 35 และตอนนี้ไปอยู่ เออีเค เอเธนส์

    อันเดรจ์ ครามาริช 32 แม้ผลงานยังดีกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ (17 ลูก)

    มาร์เซโล่ โบรโซวิช 31 และหลบไปอยู่ อัล-นาสเซอร์

ที่เข้าทีหน่อยคงมีแค่คู่ขาทัพเรือ มาเตโอ โควาซิช (30) กับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (22) ซึ่งอยู่ในช่วงตักตวงกับ แมนฯ ซิตี้ เท่านั้น

ส่วนอีกปัจจัย ก็อยู่ที่ผลงานในรอบคัดเลือก ซึ่ง โครเอเชีย แพ้ 2 จาก 8 นัด และเข้ารอบสุดท้ายมาด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ถัดจาก ตุรกี

ออปต้า วิเคราะห์ว่า โครเอเชีย น่าจะได้แค่ตามหลังทั้ง สเปน และ อิตาลี เพื่อผ่านเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ของกลุ่มบี รอบสุดท้ายนี่เช่นกัน จากนั้น ความเป็นไปได้คือการหยุดที่รอบใดรอบหนึ่งของน็อกเอาต์ เมื่อโอกาสเข้าชิงชนะเลิศ มีแค่ 5.7% เท่านั้น

Josip Stanisic, Josko Gvardiol, Ante Budimir, Lovro Majer, Luka Modric
Portugal v Croatia - International Friendly / Gualter Fatia/GettyImages

เดนมาร์ก

  • แชมป์ : 2.2%

    เข้าชิง : 6%

    ตัดเชือก : 14.8%

    รอบ 8 ทีม : 32.8%

แชมป์ในตำนานเมื่อปี 1992 ต้องตกรอบตัดเชือกอย่างใจสลายในยูโรหนก่อน (2020 ที่เตะในปี 2021) จากการตัดสินจังหวะก้ำกึ่งน่ากังขา ตอนต่อเวลาพิเศษ

อย่างไรก็ตาม เดนมาร์ก ของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ เสียรังวัดไปเยอะมากกับความล้มเหลวไม่เป็นท่า ตกแค่รอบแรกของ ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ชนิดว่าชนะใครไม่เป็นจาก 3 นัด

ยิ่งเมื่อบวกกับผลงานในรอบคัดเลือก ที่แม้จะอยู่ในกลุ่มไม่แข็ง แต่ต้องลุ้นกันยาวยันนัดท้ายๆ (แชมป์กลุ่ม แต้มเท่า สโลวีเนีย) ก็ทำให้ทีมโคนม จัดอยู่ในประเภท "ม้ามืด" เหมือนเช่นเคย ยังก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในตัวเต็งเหมือนใครเขาไม่ได้

คล้าย โครเอเชีย เหมือนกัน คือยิ่งน่าห่วงกับ "จุดพีค" ที่อาจผ่านไปแล้วกับทีมชุดนี้ ซึ่งแกนหลักหลายรายเข้าสู่เฟสสุดท้ายของการค้าแข้ง ไม่ว่าจะ ซิมอน เคียร์ (35), แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (37), โธมัส เดอลานีย์ (32), คริสเตียน เอริคเซ่น (32) หรือ มาเธียส ซันก้า ยอร์เกนเซ่น (34)

ราสมุส ฮอยลุนด์ อาจแจ้งเกิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ (16 ประตู) แต่เขาก็มีสิทธิ์ต้องเจอกับสถานการณ์เดียวกัน คือ "รอบข้าง" ไม่ดีพอ ไม่เอื้อต่อการปิดสกอร์สักเท่าไร

ออปต้า ประเมินว่า เดนมาร์ก น่าจะได้แค่ตามหลัง อังกฤษ เข้ารอบน็อกเอาต์ แล้วคงสุดทางที่รอบ 16 ทีมหรือ 8 ทีม ไม่น่าไกลกว่านั้น

FBL-FRIENDLY-DEN-SWE
FBL-FRIENDLY-DEN-SWE / LISELOTTE SABROE/GettyImages

เบลเยียม

  • แชมป์ : 4.7%

    เข้าชิง : 10.6%

    ตัดเชือก : 23.4%

    รอบ 8 ทีม : 48.5%

เราเห็น ทุกคนเห็น และพวกเขาเองก็ต้องยอมรับแต่โดยดี ว่า เบลเยียม ได้ก้าวผ่าน "ยุคทอง" ของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว -- กับยุคของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ และขุนพลจาก พรีเมียร์ลีก ซึ่งทำดีที่สุดแค่เป็นอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018

  • เบลเยียม นาทีนี้ (กุนซือ โดเมนิโก้ เทเดสโก้)

    เหลือ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอดซีซั่น

    เลอันโดร ทรอสซาร์ จาก อาร์เซน่อล

    เชเรมี่ โดกู จาก แมนฯ ซิตี้

    โรเมลู ลูกากู จาก เชลซี (แต่ในนาม)

    ยูรี่ ตีเลมันส์ จาก แอสตัน วิลล่า

    และบรรดาหน้าใหม่ ที่สลับกันมาติดธงพร้อมหน้าเก่าบางราย

ก็ต้องจับตาดูกันว่า ขุมกำลังชุดนี้ ที่โดยเฉพาะว่าไม่มี ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เรอัล มาดริด) เฝ้าเสา ด้วยเหตุผลว่าความฟิตไม่ถึง (และมีปัญหากับ เทเดสโก้) จะทำได้ดีขนาดไหน

ออปต้า ประเมินว่า เบลเยียม มีโอกาสเข้าชิงชนะเลิศแค่ 10% เศษๆ และกดต่ำไปอีกเพียง 4.7% เท่านั้น ในการจะไปถึงแชมป์ยุโรปสมัยแรกของตัวเอง

FBL-FRIENDLY-BEL-LUX-EURO 2024
FBL-FRIENDLY-BEL-LUX-EURO 2024 / KENZO TRIBOUILLARD/GettyImages

อิตาลี

  • แชมป์ : 5%

    เข้าชิง : 11.4%

    ตัดเชือก : 23.1%

    รอบ 8 ทีม : 47.2%

ทีมรถไฟเหาะสีน้ำเงิน มีผลงานขึ้นสุดและลงสุดตลอดในหลายทัวร์นาเมนต์หลัง

  • 2006 (บอลโลก) แชมป์โลกสมัย 4

    2008 (ยูโร) ตกรอบ 8 ทีม

    2010 (บอลโลก) ตกรอบแรก

    2012 (ยูโร) รองแชมป์

    2014 (บอลโลก) ตกรอบแรก

    2016 (ยูโร) ตกรอบ 8 ทีม

    2018 (บอลโลก) ร่วงรอบคัดเลือก

    2020 (ยูโร) แชมป์ยุโรปสมัย 2

    2022 (บอลโลก) ร่วงรอบคัดเลือก

ภายใต้การรื้อทีมเพื่อสร้างใหม่ของ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เอาเข้าจริง อิตาลี ก็ยังออกทรงขึ้นๆ ลงๆ และดูยังแกร่งไม่พอ หลักฐานคือเกมใหญ่ที่พวกเขาแพ้ต่อ อังกฤษ 1-3 หรือ สเปน 1-2 ช่วงปีที่ผ่านมา

ยังคงเป็นคำถามสำคัญ ว่า อิตาลี จะพึ่งพาใครดีในฐานะตัวทีเด็ดเบอร์แรก เมื่อขุนพลแต่ละรายไม่ได้อยู่ในมาตรฐานระดับท็อปสักเท่าไรในช่วงซีซั่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ เฟเดริโก้ เคียซ่า, จานลูก้า สคามัคก้า หรือ มาเตโอ เรเตกี

ทั้งหมดทั้งมวลนั่นทำให้ ออปต้า ประเมิน อิตาลี ในฐานะหนึ่งในม้านอกสายตา โอกาสป้องกันแชมป์มีแค่ 5% เท่านั้นเอง

Gianluigi Donnarumma, Nicolo Fagioli, Federico Chiesa, Gianluca Scamacca, Matteo Darmian, Jorginho, Riccardo Calafiori, Raoul Bellanova, Davide Frattesi, Alessandro Buongiorno, Andrea Cambiaso
Players of Italy pose for a team photo prior to the friendly... / Nicolò Campo/GettyImages

เนเธอร์แลนด์

  • แชมป์ : 5.1%

    เข้าชิง : 11.4%

    ตัดเชือก : 24.2%

    รอบ 8 ทีม : 45.8%

แชมป์ยุโรป 1 สมัย (1988) ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันมาหลายสิบปี จำเป็นต้องยอมรับว่าตัวพวกเขาเองอยู่ในสถานะ "ทีมแถวสอง" แข็งแกร่งแค่พอตัว แต่ไม่ถึงกับติดกลุ่มท็อป ยืนแถวหน้าไม่ว่าจะในระดับทวีปหรือระดับโลก

กับทีมชุดนี้ที่วนกลับไปใช้ โรนัลด์ คูมัน กุมบังเหียน ผลงานก็เป็นไปอย่างแจ่มชัด ว่าถ้าไม่ชนะแล้ว ก็แพ้มันซะเลย - 12 เกมหลังสุดในทุกรายการ เนเธอร์แลนด์ ชนะ 8 แพ้ไป 4

ออปต้า เชื่อว่า "เป้าหมายที่เป็นไปได้" ของ เนเธอร์แลนด์ สำหรับการลุยยูโรครั้งนี้ อยู่ที่เพียงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เท่านั้น ภายหลังเข้าไม่ถึงตัดเชือกมาตั้งแต่ 2004

แง่ดีของทีมอัศวินสีส้ม คือการยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงหลัง เช่นการชนะด้วยสกอร์ 4-0 มาถึง 3 จาก 4 เกมลับแข้งหลังสุด แต่นั่นก็เป็นคำถามสำหรับรอบสุดท้าย ซึ่ง ออปต้า ประเมินโอกาสครองแชมป์ยุโรปสมัย 2 สำหรับพวกเขา ไว้ที่ 5.1%

Virgil Van Dijk, Wout Weghorst
Holland v Iceland -International Friendly / Soccrates Images/GettyImages

โปรตุเกส

  • แชมป์ : 9.2%

    เข้าชิง : 18%

    ตัดเชือก : 33.6%

    รอบ 8 ทีม : 55.2%

มีผลงานดีอย่างน่าทึ่งในรอบคัดเลือก ด้วยการลงสนาม 10 นัด... ชนะมันทั้ง 10 เกม

อย่างไรก็ตาม จะว่าเหนือไปกว่าที่คาดคิดก็อาจไม่ เมื่อคู่แข่งในรอบคัดเลือกของ โปรตุเกส คือทีมเกรดรองๆ ลงไปอย่าง สโลวาเกีย, ไอซ์แลนด์, บอสเนียฯ หรือ ลักเซมเบิร์ก

และปรากฏว่าหลังจากนั้น ผลงานช่วงลับแข้งเตรียมทีมสู่รอบสุดท้าย กลายเป็นว่าต้องตั้งคำถามกันแล้วว่า โปรตุเกส พร้อมสำหรับการไล่ล่าแชมป์ยุโรปสมัย 2 แน่รึเปล่า เมื่อมีเกมที่แพ้ สโลวีเนีย 0-2 และแพ้ โครเอเชีย 1-2

ที่จริง ขุมกำลังของทีมฝอยทอง ถือว่าน่ากลัวใช่ย่อยทีเดียว กับทัวร์นาเมนต์ (คงจะ) สั่งลาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในวัย 39 พร้อมตัวเก่งรายรอบอย่าง ราฟาเอล เลเอา, ดีโอโก้ โชต้า, กอนซาโล่ รามอส, เปโดร เนโต้, ชูเอา เฟลิกซ์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา หรือ บรูโน่ แฟร์นันเดส

ออปต้า จึงประเมินไว้ว่า โปรตุเกส จะผ่านรอบแรกได้อย่างไม่ลำบาก (ตุรกี, จอร์เจีย, เช็ก) อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าถึงน็อกเอาต์แล้ว ก็ยังเป็นข้อกังขาว่าจะไปได้ไกลขนาดไหน ด้วยโอกาสเข้าชิงชนะเลิศที่ไม่ได้สูงนัก แค่ 18%

ด้วยศักยภาพ โปรตุเกส คงผ่านได้แหละกับการเจอบรรดาทีมเล็ก รองๆ ลงไปในเรื่องชื่อชั้น แต่เมื่อต้องเจอเกมใหญ่ นัดสำคัญกับทีมที่ศักยภาพทัดเทียมกัน นี่คงเป็นคำถามสำคัญที่ทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ต้องตอบให้ได้

Joao Felix, Pepe, Cristiano Ronaldo, Antonio Silva
Portugal v Republic of Ireland - International Friendly / Gualter Fatia/GettyImages

สเปน

  • แชมป์ : 9.6%

    เข้าชิง : 18.5%

    ตัดเชือก : 32.3%

    รอบ 8 ทีม : 59.1%

เงียบๆ ไปในหลายทัวร์นาเมนต์หลัง หลังจากขึ้นครองความยิ่งใหญ่ทั้ง ยูโร และ ฟุตบอลโลก ในช่วงระหว่างปี 2008-2012

สเปน นาทีนี้คงถือว่าเป็นทีม "สายเลือดใหม่" ดูแลโดยกุนซือคนในที่ขึ้นมาจากชุดเยาวชน หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ และขุมกำลังที่ค่อนข้างต่างไปจาก ฟุตบอลโลก 2022 เยอะทีเดียว

แต่ทีมชุดนี้ก็ถือว่าอยู่ในระดับ "น่าจับตา" ด้วยผลงานเดินหน้าชนะ 6 เกมรวดในรอบคัดเลือก ยูโร ช่วงปลายปีที่แล้ว จากนั้นแม้เกมอุ่นเครื่องจะมีหลุดแพ้ โคลอมเบีย 0-1 หรือเสมอ บราซิล 3-3 แต่ก็เรียกเครดิตได้ดีทีเดียวกับผลใน 2 เกมหลัง ที่ถลุง อันดอร์ร่า 5-0 กับ ไอร์แลนด์เหนือ 5-1

สองเกมหลังสุดนี้ มิเกล โอยาร์ซาบัล กดรวม 4 ประตู (แฮตทริกกับอันดอร์ร่า), เปดรี้ ซัดสอง ที่เหลือ เฟร์ราน ตอร์เรส, อโยเซ่ เปเรซ, อัลบาโร่ โมราต้า และ ฟาเบียน รุยซ์ คนละประตู

ดังนั้นแม้จะอยู่ในกลุ่มโหดๆ ร่วมกับ อิตาลี, โครเอเชีย และ อัลเบเนีย แต่ ออปต้า ก็ยังเชื่อในศักยภาพของทัพกระทิงดุ ว่าจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ ด้วยเปอร์เซ็นต์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายที่สูงถึง 89.1%

หรือการไปถึงรอบลึกๆ ก็มีความเป็นไปได้อยู่ไม่ใช่ย่อย 32.3% ถึงตัดเชือก, 18.5% เข้าชิงดำ และ 9.6% ผงาดแชมป์ยุโรปสมัยที่ 4

FBL-FRIENDLY-ESP-NIR-EURO 2024
FBL-FRIENDLY-ESP-NIR-EURO 2024 / JAIME REINA/GettyImages

เยอรมนี

  • แชมป์ : 12.4%

    เข้าชิง : 22.4%

    ตัดเชือก : 36.5%

    รอบ 8 ทีม : 58.4%

แม้ว่าในเส้นทางการเตรียมทีม (อุ่นเครื่องล้วน) เยอรมนี จะเจอปัญหาน่าปวดหัวมากกว่าความราบรื่น จนต้องเปลี่ยนกุนซือกลางทางจาก ฮันซี่ ฟลิค เป็น ยูเลียน นาเกิลส์มันน์

ที่สำคัญ ผลงานยังเป็นในลักษณะ "ทรง & ทรุด" แพ้เป็นเรื่องปกติ แพ้เหนือความคาดหมายต่อ โปแลนด์ 0-1, โคลอมเบีย 0-2, ญี่ปุ่น 1-4 หรือ ออสเตรีย 0-2 ก็มี

แต่เมื่อเข้าสู่ขวบปี 2024 เป็นต้นมา อะไรๆ ก็เริ่มจะกระเตื้องขึ้น เมื่อ นาเกิลส์มันน์ ดูจะเริ่มสลับปรับแต่งขุมกำลังและทรงการเล่นให้เข้าที่เข้าทางขึ้นได้บ้างแล้ว จน 4 เกมในการเตรียมทีม ได้ผลดีๆ อย่างการชนะ ฝรั่งเศส 2-0, เนเธอร์แลนด์ 2-1 และชนะ กรีซ 2-1 (กับเสมอ ยูเครน 0-0)

แทบจะเป็นคนละทีมกับยุค ฮันซี่ ฟลิค

หนึ่งคือฟอร์มเริ่มดี สองคือ เยอรมนี มาในฐานะ "เจ้าภาพ" และสามคือ หลายๆ นักเตะจะเล่นรายการนี้เป็นการทิ้งทวนทีมชาติ ไม่ว่าจะ โทนี่ โครส (34, ยืนยันแขวนสตั๊ด), อิลคาย กุนโดกัน (33), โธมัส มุลเลอร์ (34) หรือ มานูเอล นอยเออร์ (38)

ออปต้า จึงประเมิน อินทรีเหล็ก เอาไว้ในฐานะเต็ง 3 ของรายการ

รอบแรกที่อยู่ร่วมกลุ่มเอ กับ สกอตแลนด์, ฮังการี และ สวิตเซอร์แลนด์ จะไม่ใช่ปัญหา เช่นเดียวกับในรอบถัดๆ ไป

เยอรมนี มีสิทธิ์เข้าชิงสูงถึง 22.4% และคว้าแชมป์ยุโรปหนแรกถัดจากปี 1996 ที่ 12.4%

Ilkay Guendogan, Robert Andrich, Maximilian Mittelstaedt, Toni Kroos, Joshua Kimmich, Manuel Neuer, Antonio Ruediger, Florian Wirtz, Kai Havertz, Jonathan Tah, Jamal Musiala
Germany v Greece - International Friendly / Lukas Schulze - GES Sportfoto/GettyImages

ฝรั่งเศส

  • แชมป์ : 19.1%

    เข้าชิง : 30.4%

    ตัดเชือก : 48.1%

    รอบ 8 ทีม : 69%

หนึ่งในสองทีมเต็งแชมป์ ยูโร 2024 ที่แม้จะเป็นเต็ง 2 ของ ออปต้า แต่ที่จริง โอกาสคว้าแชมป์ (19.1%) ก็อยู่ห่างจาก อังกฤษ (19.9%) แค่เศษเสี้ยวสัดส่วนเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง

เช่นกัน แม้จะอยู่ในกลุ่มดี ซึ่งค่อนข้างแข็ง ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย และ โปแลนด์ แต่ ออปต้า ยังเชื่อว่า ฝรั่งเศส จะผ่านไปได้อย่างไร้ปัญหา โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์สูงถึง 92.9%

โอกาสลุยไปถึงชิงดำ อยู่ยาวยันวันสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ ยังสูงถึง 30.4% ด้วย

ซึ่งที่จริงก็ไม่ถือว่าแปลกนัก เมื่อ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ทำให้เห็นกันแล้วว่า มาตรฐานของทีมตราไก่ในมือของเขา มันสูงขนาดไหน

  • 2014 (ฟุตบอลโลก) รอบ 8 ทีม

    2016 (ยูโร) รองแชมป์

    2018 (ฟุตบอลโลก) แชมป์โลก

    2022 (ฟุตบอลโลก) รองแชมป์โลก

มีแค่ ยูโร หนก่อน (2020) ที่น่าผิดหวัง ตกแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จะยิงได้สักกี่เม็ดที่เยอรมนี ภายหลังกดให้ เปแอสเช 44 ลูกในซีซั่นล่าสุด และเพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้าเปิดตัวกับ เรอัล มาดริด เป็นทางการ คือเรื่องต้องจับตา

โดยเฉพาะว่าประตูของเขานั้น จะส่ง ฝรั่งเศส ไปไกลได้ถึงไหน

FBL-FRIENDLY-FRA-CAN
FBL-FRIENDLY-FRA-CAN / ROMAIN PERROCHEAU/GettyImages

อังกฤษ

  • แชมป์ : 19.9%

    เข้าชิง : 31.1%

    ตัดเชือก : 48.2%

    รอบ 8 ทีม : 70%

มองข้ามเรื่องว่า ออปต้า เป็นบริษัทในกรุงลอนดอน เป็นกิจการของอังกฤษแท้ ไปได้ เพราะการคำนวณนู่นนี่นั่นออกมาว่า อังกฤษ มีภาษีดีที่สุดเหนือใคร ในการรวบแชมป์ ยูโร 2024 ครั้งนี้ ด้วยโอกาสขึ้นบัลลังก์ 19.9% และถึงชิงฯ 31.1%

ก็เพราะ อังกฤษ กำลังมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม เหมาะสมไม่ใช่น้อยเลย

หน้าสุด แฮร์รี่ เคน ซึ่งยิงให้ บาเยิร์น มิวนิค 44 ประตู พร้อมล่าตาข่ายให้ อังกฤษ เหมือนที่เคยเป็นมา

พร้อมด้วย จู๊ด เบลลิงแฮม ซูเปอร์สตาร์พลังแรงสูงจาก เรอัล มาดริด อันดับสามซัลโว ลา ลีกา (19 ประตู) และแข้งแห่งปี La Liga Player of the Season เป็นตัวสนับสนุน

ยังมีทั้ง โคล พาลเมอร์, ฟิล โฟเด้น, บูกาโย่ ซาก้า, แอนโธนี่ กอร์ดอน, ดีแคลน ไรซ์ และอีกหลายต่อหลายแข้งคุณภาพ ที่พร้อมแบกสิงโตตัวนี้ไปให้สุดทาง

มองข้ามรอบแรก (เดนมาร์ก, เซอร์เบีย, สโลวีเนีย) ไปได้เลย ออปต้า ประเมินว่า อังกฤษ จะเข้าถึง 8 ทีมสุดท้ายเป็นอย่างน้อย ด้วยตัวเลขสูงถึง 70%

48.2% ตัดเชือก, 31.1% เข้าชิงชนะเลิศ และ 19.9% คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก

เอาเป็นว่า ให้โชคให้ดวงส่งเสริมอีกสักหน่อย 19.9% นั่น คงมีสิทธิ์เป็นจริงได้ในที่สุด

Kalvin Phillips, Gianluigi Donnarumma, Phil Foden, Kyle Walker, Jude Bellingham, Harry Kane, Declan Rice
England v Italy: Group C - UEFA EURO 2024 European Qualifiers / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในศึก ยูโร 2024 ได้ที่นี่

feed