ทำความรู้จัก เคลาดิโอ เอเชเบร์รี่ วันเดอร์คิดป้ายแดงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - FEATURE
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประกาศเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ เคลาดิโอ เอเชเบร์รี่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งจาก ริเวอร์เพลท
- เอเชเบร์รี่ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีเมื่อช่วงปลายปีก่อน
- เอเชเบร์รี่ จะยังอยู่กับ ริเวอร์เพลท ต่อไปในรูปแบบยืมตัวตลอดทั้งปีก่อนมาอยู่ แมนฯ ซิตี้ ในเดือนมกราคมปีหน้า
โดย Asree Samuyae
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสริมอนาคตเพื่อประกาศเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ เคลาดิโอ เอเชเบร์รี่ มิดฟิลด์ดาวรุ่งจาก ริเวอร์เพลท ด้วยค่าตัวเบื้องต้น 12.5 ล้านปอนด์พ่วงแอดออนส์
เขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการฟุตบอลอาร์เจนติน่า โดยเฉพาะจากฟอร์มที่แสดงให้เห็นระหว่างศึกฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีเมื่อช่วงปลายปีก่อน
เอเชเบร์รี่ ที่เพิ่งอายุครบ 18 ปีไปเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา จะตามรอยรุ่นพี่อย่าง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ที่ย้ายจาก ริเวอร์เพลท มาเช่นเดียวกัน และกลายเป็นแข้งอาร์เจนไตน์รายล่าสุดของ "เรือใบสีฟ้า" ต่อจากดาวดังที่ผ่านมาอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่, คาร์คอส เตเบซ, ปาโบล ซาบาเลต้า และ นิโคลัส โอตาเมนดี้
ทั้งนี้ เอเชเบร์รี่ จะยังอยู่กับ ริเวอร์เพลท ต่อไปในรูปแบบยืมตัวตลอดทั้งปีก่อนเดินทางมาอยู่ แมนฯ ซิตี้ อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีหน้า ว่าแต่ เอเชเบร์รี่ คือใคร เรามาทำความรู้จักกัน
เส้นทางอาชีพจนถึงปัจจุบัน
เอเชเบร์รี่ เกิดที่เรซิสเตนเซีย เมืองหลวงของชาโคทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาร์เจนติน่า เขาเข้าร่วมสโมสรท้องถิ่น เดปอร์ติโบ ลูฮาน ซึ่งเขาพัฒนาและดึงดูดสายตาของแมวมอง ริเวอร์เพลท ในไม่ช้า
ผลก็คือ เอเชเบร์รี่ ได้รับข้อเสนอให้เข้าทดสอบฝีเท้า และทำให้ ดาเนี่ยล บริซูเอล่า ผู้อำนวยการฝ่ายแมวมองของ ริเวอร์เพลท รู้สึกประทับใจ
บริซูเอล่า บอกกับ TyC Sports ว่า "นอกเหนือจากทักษะและเทคนิคแล้ว เรามองไปที่การตัดสินใจ, ความชาญฉลาด และคาแร็กเตอร์ด้วย"
เอเชเบร์รี่ ซึ่งเป็นกองกลางถนัดเท้าขวา ย้ายเข้าร่วมทีม ริเวอร์เพลท ด้วยอายุ 11 ปี จนถึงตอนนี้เขาลงสนามให้ชุดใหญ่ของทีมไปแล้ว 6 นัด ทำได้ 1 แอสซิสต์
เมื่อถูกดันขึ้นชุดใหญ่ของ ริเวอร์เพลท เขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจจนได้รับเชิญให้ร่วมทีมชุดใหญ่ของทีมชาติอาร์เจนติน่าด้วย และทำให้ อังเคล ดิ มาเรีย อดีตแนวรุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด ประทับใจในฝีเท้า
"คุณจะเห็นว่าเขามีไฟในตัว แน่นอนว่าเราเฝ้าดูเขา เขามีของ เราได้เห็นแล้ว เป็นเรื่องดีที่สต๊าฟฟ์โค้ชมอบโอกาสประเภทนี้ให้กับเจ้าหนูรายนี้ได้เพลิดเพลินไปกับเหล่านักเตะซีเนียร์ในช่วงเวลาที่สวยงามเช่นนี้" ดิ มาเรีย กล่าว
สไตล์การเล่น
เอเชเบร์รี่ ถูกขนานนามว่าเป็น 'นิว ลิโอเนล เมสซี่' ด้วยจุดเด่นเรื่องทักษะการเลี้ยงบอลและการหาโอกาสทำประตู ซึ่งนั่นอาจทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของ แมนฯ ซิตี้
"ผมคิดว่ามันอาจเป็นความเร็วของผม เพราะว่าผมเร็วมาก ผมพยายามเอาบอลมาที่ตัวเองให้เร็วที่สุด แล้วก็พุ่งไปข้างหน้าทันที" เอเชเบร์รี่ เปิดเผยกับ FIFA
วิธีที่ร่างกายของ เอเชเบร์รี่ รับมือกับความต้องการของฟุตบอลอังกฤษจะเป็นกุญแจสำคัญในการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในแมนเชสเตอร์ อย่างไรก็ตามเจ้านายคนปัจจุบันของเขาที่ ริเวอร์เพลท ไม่ใช่ใครอื่น เพราะคนนั้นคือ มาร์ติน เดมิเคลิส อดีตกองหลัง แมนฯ ซิตี้ เอง ที่พร้อมจะให้คำแนะนำอยู่แล้ว
"ไม่มีใครสงสัยในความสามารถทางเทคนิคของ เคลาดิโอ และความฉลาดของเขาที่ทำให้เขาแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากทุกประเภทได้" เดมิเคลิส กล่าว
"จากมุมมองทางกายภาพ ช่วงแรกนั้นยากมาก ๆ สำหรับเขา ตอนผมเข้ามาคุม ริเวอร์เพลท ผมรู้ว่า เอเชเบร์รี่ เป็นเพชรเม็ดงามที่ต้องเจียระไนและขัดเกลา"
เขาจะเหมาะกับตำแหน่งไหนที่ แมนฯ ซิตี้?
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขาสามารถบ่มเพาะแข้งดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ได้ ฟิล โฟเด้น เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเมื่อพูดถึงการพัฒนานักเตะขึ้นสู่ชุดใหญ่
ออสการ์ บ็อบบ์ เป็นอีกตัวอย่างที่ได้รับโอกาสลงสนามให้ชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ บ่อยขึ้นในซีซั่นนี้ ส่วน ริโก้ ลูอิส เข้าใจระบบของ กวาร์ดิโอล่า อย่างถ่องแท้
ไมกาห์ แฮมิลตัน เองก็ได้รับโอกาสลงสนามเช่นกัน โดยแนวรุกวัย 20 ปีทำประตูใส่ เร้ดสตาร์ เบลเกรด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม
สำหรับ เอเชเบร์รี่ ตำแหน่งถนัดเลยคือ มิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งบางทีอาจเป็นการมองระยะไกลเมื่อถึงเวลาที่ไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ แล้ว แต่ด้วยวิธีการเล่นนั้นต้องบอกว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
เมื่ออยู่ในมือของ กวาร์ดิโอล่า เรานึกภาพไม่ออกเช่นกันว่า เอเชเบร์รี่ จะถูกจับเล่นในบทบาทไหนก่อน เพราะในรายของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่เป็นเซ็นเตอร์แบ็คอาชีพยังถูกจับเล่นในแบ็คซ้ายเลย แต่ที่ไม่น่ากังวลเลยคือถ้าอยู่ในร่องในรอยของกุนซือชาวสแปนิชแล้วละก็ เอเชเบร์รี่ จะเป็นที่น่าจับตามองอย่างแน่นอน