อัพเดตความคืบหน้า เอเชียน คัพ 2023 หลังขึ้นนัดที่ 2 พร้อมประเมินโอกาสเข้ารอบ-ตกรอบ ของ ไทย และกลุ่มอื่น ๆ - FEATURE

• เอเชียน คัพ 2023 ที่กาตาร์ เดินหน้าขึ้นนัดที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่มแล้ว
• เจ้าภาพ กาตาร์ ชนะ 2 เกมรวด ทะยานเข้ารอบน็อกเอาต์ไม่รอใคร
• แล้วทัพช้างศึก ทีมชาติไทย หลังจากเริ่มต้นได้สวยหรูแล้ว อะไรที่รออยู่ข้างหน้า?
Thailand v Kyrgyzstan: Group F - AFC Asian Cup
Thailand v Kyrgyzstan: Group F - AFC Asian Cup / Playmaker/MB Media/GettyImages
facebooktwitterreddit

นับตั้งแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์เมื่อ 12 ม.ค. ถึงตรงนี้ก็ผ่าน 1 สัปดาห์พอดีของการโรมรัน เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 ศึกชิงแชมป์ทวีปที่กาตาร์ โดยก่อนจะผ่านนัดที่ 2 ของหลายๆ กลุ่ม ไปอัพเดตความคืบหน้าของการชิงชัย พร้อมประเมินโอกาสเข้ารอบ-ตกรอบ ทั้งของ ไทย และทุกชาติทุกกลุ่มกันหน่อย ในระบบพื้นฐานอย่าง 2 อันดับแรก แชมป์กลุ่ม-รองแชมป์กลุ่ม เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายอัตโนมัติ ส่วนอันดับ 3 ที่เหลืออีก 6 ทีม จะคัดเอาทีม "ผลงานดีสุด" 4 ชาติ เข้ารอบตามไปภายหลัง

กลุ่มเอ

อันดับ

ผล (ชนะ-เสมอ-แพ้)

แต้ม

1. กาตาร์

2-0-0

6

2. จีน

0-2-0

2

3. ทาจิกิสถาน

0-1-1

1

4. เลบานอน

0-1-1

1

ยืนยันการลิ่วเข้ารอบก่อนใครเป็นทีมแรก สำหรับเจ้าภาพและหนึ่งในตัวเต็งเบอร์ต้นๆ อย่าง กาตาร์ ภายหลังเปิดสนามเมื่อ 12 ม.ค. ด้วยการถลุง เลบานอน 3-0 ด้วยสองประตูของ อัคราม อาฟิฟ และล่าสุดเมื่อคืนพุธ 17 ม.ค. ก็เชือด ทาจิกิสถาน อีก 1-0 จากประตูโทนของ อัคราม อาฟิฟ เจ้าเก่า

2 นัด 6 แต้มเต็ม เท่ากับ กาตาร์ การันตีลิ่วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการันตีจบแชมป์กลุ่มไว้แล้วด้วยเหมือนกัน

นั่นเพราะผู้ตามในกลุ่มอย่าง จีน ฝืดเสียยิ่งกว่าสนิมบานพับ เกมแรกเสมอ ทาจิกิสถาน 0-0 เกมสองก็ยังเสมอ เลบานอน 0-0 เช่นเดิม จนสองนัดผ่านไปมีแค่ 2 แต้มในมือ

กาตาร์ แชมป์กลุ่มไปก่อนแล้ว ที่เหลือก็ไปลุ้นกันว่าใครจะตามเข้ารอบเป็นที่ 2 ในเกมปิดกลุ่ม จันทร์หน้า 22 ม.ค. ซึ่ง จีน จะเจอกับเจ้าภาพ ส่วน ทาจิกิสถาน ตัดกับ เลบานอน

อ่อ กับรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่มีการล็อกเส้นทางไว้แล้วว่าใครจะเจอใคร แชมป์กลุ่มไหนเจอรองแชมป์ (หรืออันดับ 3) กลุ่มไหนนั้น กาตาร์ เข้าไปยืนรอเจอกับ อันดับ 3 จากกลุ่ม ซี/ดี/อี ที่ยังต้องดูต่อว่าเป็นใคร...อย่างน้อยๆ คือไม่ใช่ ไทย แล้วหนึ่ง

Akram Afif
Tajikistan v Qatar: Group A - AFC Asian Cup / Etsuo Hara/GettyImages

กลุ่มบี

อันดับ

ผล (ชนะ-เสมอ-แพ้)

แต้ม

1. ออสเตรเลีย

1-0-0

3

2. ซีเรีย

0-1-0

1

3. อุซเบกิสถาน

0-1-0

1

4. อินเดีย

0-0-1

0

เกมแรกที่ผ่านไปเมื่อ 13 ม.ค. ไม่ถือว่ามีอะไรพลิกล็อก ฝรั่งตาน้ำข้าวที่ขอมาจอยโซนเอเชียด้วย (และเป็นแชมป์ 1 สมัย ปี 2015) อย่าง ออสเตรเลีย ผ่าน อินเดีย สบาย 2-0 ด้วยประตูของ แจ๊คสัน เออร์ไวน์ มิดฟิลด์จาก ซังต์.เพาลี และ จอร์แดน บอส แบ็กดาวรุ่งวัย 21 เท่านั้น

ส่วนอีกคู่ อุซเบกิสถาน เจ๊าจืด ซีเรีย 0-0

นั่นเท่ากับว่า ออสเตรเลีย คงไม่น่าพลาดเข้ารอบได้ตามสมควร ที่เหลือก็ไปชิงโควตากันใน 3 ทีมที่เหลือว่าใครจะมา 2 จะมา 3 หรือตกรอบตายสนิท

FBL-ASIA-2023-MATCH02-AUS-IND
FBL-ASIA-2023-MATCH02-AUS-IND / HECTOR RETAMAL/GettyImages

กลุ่มซี

อันดับ

ผล (ชนะ-เสมอ-แพ้)

แต้ม

1. อิหร่าน

1-0-0

3

2. ยูเออี

1-0-0

3

3. ฮ่องกง

0-0-1

0

4. ปาเลสไตน์

0-0-1

0

กลุ่มนี้มีสิทธิ์จบเร็ว อาจรู้ทีมเข้ารอบ-ตกรอบ ในเพียงนัดที่ 2 เท่านั้นหลังจากเกมแรกเมื่อ 14 ม.ค. ได้ผลแบ่งแยก "ผู้ชนะ" กับ "ผู้แพ้" ออกจากกันอย่างชัดเจน

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ขยำ ฮ่องกง 3-1

และ อิหร่าน ขยี้ ปาเลสไตน์ ของเด็กชายรามี่ 4-1 แซร์ดาร์ อัซมูน ซูเปอร์สตาร์จาก โรม่า มี 1 เม็ดในลูกปิดท้าย

สองตัวเต็งของกลุ่ม ออกสตาร์ทได้ผลสวยสดงดงาม และโปรแกรมยัง "เอื้อ" ให้ตอนจบมีสิทธิ์เกิดขึ้นเร็วอย่างที่ว่า ด้วยเพราะนัดที่ 2 ยูเออี จะซัดกับ ปาเลสไตน์ และทาง อิหร่าน จะลงดวล ฮ่องกง

ดูทรงแล้ว โอกาสที่ ยูเออี กับ อิหร่าน จะบวกเพิ่มเป็น 6 แต้มเต็ม และผ่านเข้ารอบไปด้วยกันทันที มีไม่น้อยเลย

Sardar Azmoun, Mehdi Taremi
Iran v Palestine: Group C - AFC Asian Cup / Zhizhao Wu/GettyImages

กลุ่มดี

อันดับ

ผล (ชนะ-เสมอ-แพ้)

แต้ม

1. ญี่ปุ่น

1-0-0

3

2. อิรัก

1-0-0

3

3. เวียดนาม

0-0-1

0

4. อินโดนีเซีย

0-0-1

0

กลุ่มที่อยู่ในการจับตาของหลายฝ่าย เมื่อประกอบด้วย 1. ตัวเต็งเบอร์ 1 ของรายการ จากเอเชียตะวันออก, 2. ทีมแข็งจากตะวันออกกลาง และ 3. กับ 4. ที่เป็น 2 ทีมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เกมเปิดหัวของกลุ่มยัง "เปิดฉากอย่างเร้าใจ" อย่างยิ่งด้วย กับการที่ เวียดนาม ยิงแซงนำ ญี่ปุ่น 2-1 ในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม แต่สุดท้าย ซามูไรก็เบ่งพลังฟาดกบาลขุนศึกตระกูลเหงียนไปอีก 3 ตุง (ทาคุมิ มินามิโนะ น.45, เคโตะ นากามุระ น.45+4 และ อายาเสะ อุเอดะ น.85) จนจบเกม ญี่ปุ่น ชนะ 4-2

ส่วนอีกคู่ อินโดนีเซีย ก็ต่อกรกับ อิรัก ได้ดีเช่นกัน ตามตีเสมอ 1-1 ตอนท้ายครึ่งแรก กระนั้นก็ไม่วายโดนยิงเพิ่มเหมือนกันตอนทดเจ็บครึ่งแรกและกลางครึ่งหลัง สุดท้าย อิรัก เข้าป้าย 3-1

แต่ว่าต่างไปจากกลุ่มซี (ที่อาจจบเร็วใน 2 นัด) ว่าโปรแกรมนัด 2 ของกลุ่มนี้ ดันจับเอา 2 ตัวเต็งอย่าง ญี่ปุ่น กับ อิรัก มาซัดกันเองเสีย ในวันศุกร์ 19 ม.ค. (และอีกคู่ เวียดนาม-อินโดฯ)

ฉะนั้น ก็ชัดเจนว่ากลุ่มนี้จะได้ลุ้นกันยาวถึงเกมปิดกลุ่ม พุธหน้า 24 ม.ค. แน่นอน

Takumi Minamino
Japan v Vietnam: Group D - AFC Asian Cup / Etsuo Hara/GettyImages

กลุ่มอี

อันดับ

ผล (ชนะ-เสมอ-แพ้)

แต้ม

1. จอร์แดน

1-0-0

3

2. เกาหลีใต้

1-0-0

3

3. บาห์เรน

0-0-1

0

4. มาเลเซีย

0-0-1

0

ทำได้สมความคาดหวัง สำหรับอีกหนึ่งตัวเก็งอย่าง เกาหลีใต้ ที่ได้ฟอร์มสวยๆ ของ อี คัง-อิน ดาวเด่นจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เช็กบิล 2 ประตู สยบ บาห์เรน 3-1 (ส่วนอีกลูกได้จาก ฮวาง อิน-บอม) นัดเปิดหัวเมื่อ 15 ม.ค.

เวลาเดียวกัน ก็ถือว่าทำได้น่าผิดหวังมาก สำหรับอีกตัวแทนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง มาเลเซีย ที่โดน จอร์แดน ยำใหญ่ใส่สารพัด 4-0

แต่สำคัญคือ นัด 2 วันเสาร์นี้ 20 ม.ค. โปรแกรมดันวางให้ เกาหลีใต้ ซัดกับ จอร์แดน นั่นเท่ากับเป็น "งานไม่ง่าย" ที่ทัพโสมมีสิทธิ์ไม่ชนะเอาได้เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม แม้อาจต้องดูกันยาวถึงนัดท้าย ก็ค่อนข้างชัดอยู่ดีว่า เกาหลีใต้ & จอร์แดน มีสิทธิ์ควงคู่กันเข้ารอบ ที่เหลืออีก 2 ก็ไปดวลกันเอาว่าใครจะมา 3 หรือ 4

Lee Kang-In
South Korea v Bahrain: Group E - AFC Asian Cup / Koji Watanabe/GettyImages

กลุ่มเอฟ

อันดับ

ผล (ชนะ-เสมอ-แพ้)

แต้ม

1. ไทย

1-0-0

3

2. ซาอุฯ

1-0-0

3

3. โอมาน

0-0-1

0

4. คีร์กีซสถาน

0-0-1

0

ปิดท้ายกับกลุ่มสุดสำคัญ ที่เห็นกันชัดไปแล้วกับการเริ่มต้นอย่าง "เหนือความคาดหมาย" ของทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ในการดูแลของกุนซือใหม่ มาซาทาดะ อิชิอิ ซึ่งกะซวก คีร์กีซสถาน 2-0 เมื่อ 16 ม.ค. ชนิดน่าขึ้น 4-0 หรือ 5-0 ด้วยซ้ำเมื่อดูจากโอกาสจบระหว่างเกม

และอย่างที่ทราบ 2 ประตูจาก ศุภชัย ใจเด็ด นอกจากจะทำให้ ไทย เริ่มต้น เอเชียน คัพ ด้วยชัยชนะ เป็นครั้งแรกตลอดหน้าประวัติศาสตร์การเล่นถ้วยชิงแชมป์ทวีปแล้ว ก็ยังทำให้ ไทย อยู่ใน "จุดที่ดี" ของการตีตั๋วเข้ารอบด้วยเช่นกัน

เป็นเรื่องจริงที่เกมคู่ 2 ของวัน อย่าง ซาอุดีอาระเบีย v โอมาน ไม่ได้จบเจ๊าแบ่งแต้มอย่างที่แฟนๆ ไทยอยากเห็น เมื่อ ซาอุฯ เร่งเครื่องแซงชนะได้ 2-1 จากประตูทดเจ็บ 90+6 ของ อาลี อัล-บูไลฮี แต่อันที่จริง ชัยชนะของ ซาอุฯ ก็เป็นเรื่องที่ถูกคาดหมายไว้แต่แรกอยู่แล้ว

สิ่งที่ "เป็นใจ" ให้กับ ไทย ก็คือ คิวหนักสุดอย่างเกมกับ ซาอุฯ ถูกวางเอาไว้เป็นนัดปิดกลุ่ม พฤหัสบดีหน้า 25 ม.ค.

ซึ่งถึงตรงนั้น ไทย อาจจะเข้ารอบไปก่อนแล้ว ก็เป็นได้!

ด้วยเพราะกับเกมที่ 2 วันอาทิตย์ 21 ม.ค. นี้ ไทย กับ โอมาน ว่าไปก็ "คุณภาพไม่ห่าง" กันมากนัก อยู่ในระดับพอฟัดพอเหวี่ยง และถ้า ไทย เล่นได้ดีแบบเกมแรก ก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงเลย

แม้ฟุตบอลจะไม่มีตรรกะตายตัว แต่การที่ โอมาน แพ้ คีร์กีซสถาน 0-1 ในคิวคัดบอลโลก 2026 เมื่อปลายปีก่อน ก็น่าจะบอกใบ้อะไรบางอย่างได้

ถ้า ไทย ชนะเกมวันอาทิตย์นี้ ก็เข้ารอบทันที

หรือถ้าเสมอ ก็มีโอกาสสูงเหมือนกันที่จะเข้ารอบ

หรือให้ร้ายที่สุด แม้กระทั่งว่า ไทย จะแพ้ในอีก 2 เกมกับ โอมาน และ ซาอุฯ แต่การมี 3 แต้มในมือจากนัดแรก ก็ทำให้มีโอกาสที่ ไทย จะจบอันดับ 3 ได้อยู่ดี ซึ่งก็มีโควตาทีมเข้ารอบให้อันดับ 3 อยู่มากถึง 4 ชาติ (คัดออกแค่ 2 จาก 6 กลุ่ม) ด้วยกัน

แต่อย่างไรเสีย เพื่อที่จะไม่ต้องลุ้นกันยาว เอาเป็นว่าวันอาทิตย์นี้มีสักแต้มก็สวย หรือถ้ามี 3 แต้มเต็มได้ก็คงจัดเป็น "ของขวัญปีใหม่" กล่องใหญ่ของชาวเรา!

Thailand v Kyrgyzstan: Group F - AFC Asian Cup
Thailand v Kyrgyzstan: Group F - AFC Asian Cup / Lintao Zhang/GettyImages