ได้แล้วแชมป์อเมริกาใต้ ! ครบองค์ประชุม 'สโมสรโลก' ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2023 รายการที่ แมนฯ ซิตี้ เอาแน่ - FEATURE
• ความคืบหน้าคือการได้สมาชิก 7 ทีม ครบองค์ประชุมแล้ว
• ไปดูกันว่า สโมสรโลก 2023 แบบไหนอย่างไร และ แมนฯ ซิตี้ จะเจอใครที่นั่น
แม้ยังไม่ใกล้เคียงการมาถึงมากนัก แต่ความคืบหน้าของ "สโมสรโลก 2023" ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ครั้งส่งท้ายรูปแบบเก่า คือการได้สมาชิก 7 ทีม ครบองค์ประชุมแล้ว เมื่อ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ปรากฏโฉมหน้าแชมป์อเมริกาใต้ไปเมื่อสุดสัปดาห์ ดังนั้นโอกาสนี้จึงไปดูพร้อมกันว่า สโมสรโลก 2023 เป็นแบบไหนอย่างไร และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเจอกับใครที่นั่น
โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส 2023
ความที่เริ่มต้นสาดแข้งกันตอนต้นปี ทำให้กว่าจะได้บทสรุปของศึกชิงเจ้าแห่งทวีปอเมริกาใต้ ก็เพิ่งจะสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง
คงพอพูดได้ว่า โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ คือการชิงชัยกันระหว่าง อาร์เจนติน่า กับ บราซิล โดยแท้
เพราะเริ่มตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้าย (final stages) เลยที่ปรากฏตัวแทนจาก อาร์เจนฯ อยู่ถึง 4 ราย ที่ประกอบด้วย โบคา จูเนียร์ส, ริเวอร์ เพลท, ราซิ่ง คลับ และ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส
ส่วนบราซิล จัดเต็มมาถึง 6 ตัวแทน อย่าง อัตเลติโก มิไนโร่, พัลไมรัส, ฟลูมิเนนเซ่, ฟลาเมงโก้, อัตเลติโก ปาราเนนเซ่ และ อินเตอร์นาซิอองนาล โดยที่ 2 ในนั้นยังต้องเจอกันเองด้วย (มิไนโร่ v พัลไมรัส)
การฟาดฟันกันโดยตรงของ อาร์เจนฯ กับ บราซิล ก็เริ่มที่ตรงนั้น ใน 2 คู่แข่งขันอย่าง อาร์เจนติโนส จูเนียร์ส v ฟลูมิเนนเซ่ และ ริเวอร์เพลท v อินเตอร์นาซิอองนาล
ไฮไลท์อยู่ที่คู่หลัง เมื่อสูสีกันเหลือประมาณ ริเวอร์เพลท เปิดบ้านเอาชนะได้ 2-1 แต่เมื่อกลับไปเล่นที่บราซิลแล้ว อินเตอร์นาซิอองนาล ก็เอาคืนด้วยสกอร์เดียวกัน 2-1
เกมต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษสุดแสนมาราธอน ต่างฝ่ายต่างเรียงคิวกันมายิงถึงฝั่งละ 10 คน สุดท้ายเป็น อินเตอร์นาซิอองนาล เบียดชนะสุดระทึก 9-8 ซึ่งหมายถึง อินเตอร์ฯ ยิงพลาดแค่คนเดียวเท่านั้นเอง
ฝั่ง โบคา จูเนียร์ส แม้ไม่ได้ชนทีมบราซิล แต่ก็เจองานหนักเลยกับ นาซิโอนาล จากอุรุกวัย ซึ่งนัดแรกออก 0-0 นัดสองออก 2-2 และต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษเช่นกัน ผลเป็น โบคา เฉือนชัย 4-2
ยังพบว่า กว่าที่จะเข้าชิงได้ โบคา จูเนียร์ส ต้องออกแรงสาหัสสุดๆ ไปเลย กับการที่ล้วนแต่ "กินคู่แข่งไม่ลง" ในผลรวมสกอร์ 2 นัด และต้องตัดสินด้วยการดวลเป้า "ทุกรอบ"
- รอบ 16 ทีม ชนะจุดโทษ นาซิโอนาล (อุรุกวัย) 4-2
รอบ 8 ทีม ชนะจุดโทษ ราซิ่ง คลับ (เพื่อนร่วมลีก) 4-1
รอบตัดเชือก ชนะจุดโทษ พัลไมรัส (บราซิล) 4-2
โบคา เข้าถึงชิง ส่วน ริเวอร์เพลท ไม่มาตามนัด ทีมที่ชนะ ริเวอร์เพลท ได้อย่าง อินเตอร์นาซิอองนาล ก็ไม่ถึงดวงดาวเช่นกัน เมื่อลุยเข้าไปพลาดท่าต่อ ฟลูมิเนนเซ่ สกอร์รวม 3-4 ในรอบตัดเชือก
สำหรับนัดชิงชนะเลิศระหว่าง โบคา จูเนียร์ส กับ ฟลูมิเนนเซ่ ที่ มาราคาน่า สเตเดี้ยม แห่งนครริโอ เดอ จาไนโร เมื่อ 4 พ.ย. ก็สู้กันอย่างถึงพริกถึงขิง และเป็นอีกเกมที่ไม่สามารถหาผู้ตัดสินได้ใน 90 นาที
เกร์มัน คาโน่ กองหน้าอาร์เจนไตน์ของทีมบราซิลอย่าง ฟลูมิเนนเซ่ ยิงนำ 1-0 ตอนท้ายครึ่งแรก ก่อนที่ หลุยส์ อัดวินคูล่า จะสอยลูก 1-1 ให้กับ โบคา ครึ่งหลัง น.72 และไม่มีใครยิงเพิ่มได้จนครบเกมปกติ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษได้แค่ 9 นาทีเท่านั้น จอห์น เคนเนดี้ หอกเด็กแซมบ้าวัย 21 ที่ไม่ได้เป็นอะไรกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เช็คบิลประตูชัยให้กับ ฟลูมิเนนเซ่ เฉือนชนะ 2-1
ฟลูมิเนนเซ่ ครองแชมป์ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส เป็นสมัยแรกสุดทีเดียว หลังเคยแพ้นัดชิงมาก่อน 1 หนเมื่อปี 2008
และแน่นอน สิ่งที่ตามมาให้หลังจากแชมป์ทวีป ก็คือการได้ "สมาชิกครบองค์ประชุม" เรียบร้อยสำหรับศึก "สโมสรโลก" ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2023 ที่ประเทศ ซาอุดีอาระเบีย
สโมสรโลก 2023
ยืนยันไว้เองจาก ฟีฟ่า ว่า สโมสรโลก ประจำปี 2023 ที่จะจัดในช่วงวันที่ 12-22 ธ.ค. นี้ จะเป็นสโมสรโลกใน "รูปแบบเดิม" เป็นครั้งสุดท้ายท้ายสุดแล้ว
นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ 20 พอดีของสโมสรโลก โดยที่รูปแบบเดิมอย่างการนำ 6 แชมป์ทวีปต่างๆ ทั่วโลก มาบวกกับ 1 สโมสรเจ้าภาพ จะถูกตัดจบลงที่ตรงนี้ เพื่อไปขึ้น "สโมสรโลกคิดใหม่ทำใหม่" ในปี 2025 เป็นต้นไป
สโมสรโลก 2025 : การที่บรรดาทีมใหญ่ยุโรปรวมตัวกันจะผลักดัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก ทำให้ ฟีฟ่า ต้องพยายามแก้ลำ จัดทัวร์นาเมนต์ระดับพรีเมียมเพิ่มมากขึ้น ไอเดียสำคัญคือการเปลี่ยนสโมสรโลก จากเดิมที่เป็นทัวร์นาเมนต์สั้นๆ เตะกัน 1 สัปดาห์จบช่วงปลายปี ให้เป็นในลักษณะ "ฟุตบอลโลกระดับสโมสร" แทน อันจะสาดแข้งกันเต็มเหนี่ยว 1 เดือนเต็มในช่วงปิดฤดูกาล และมีสโมสรจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันกันถึง 32 ราย โดยที่ 12 ในนั้นจะมาจากทวีปยุโรป (4 แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก + 8 ทีมหัวแถว UEFA 4-year ranking)
กลับมาที่ สโมสรโลก 2023 กันต่อ ว่าสิ้นปีนี้ ทัวร์นาเมนต์จะสาดแข้งกันที่ ซาอุฯ ซึ่งที่จริง ตัวแทนเข้าร่วมชิงชัยก็ "เกือบครบ" มาตั้งแต่กลางปีแล้ว
- 1. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : อังกฤษ : แชมป์ยุโรป (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022/23)
2. อุราวะ เร้ด ไดมอนส์ : ญี่ปุ่น : แชมป์เอเชีย (เอเอฟซี ชปล. 2022)
3. อัล อาห์ลี : อียิปต์ : แชมป์แอฟริกา (ซีเอเอฟ ชปล. 2022/23)
4. คลับ เลออน : เม็กซิโก : แชมป์คอนคาเคฟ (คอนคาเคฟ ชปล. 2023)
5. โอ๊คแลนด์ ซิตี้ : นิวซีแลนด์ : แชมป์โอเชียเนีย (โอเอฟซี ชปล. 2023)
6. อัล-อิตติฮัด : ซาอุฯ : เจ้าภาพ (แชมป์ โปรลีก ซาอุฯ 2022/23)
จนเมื่อ โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ได้ข้อสรุป จึงเป็นอันว่าครบถ้วน ด้วยมีตัวแทนอเมริกาใต้อย่าง 7. ฟลูมิเนนเซ่ มาร่วมสังฆกรรม
และเมื่อครบองค์ประชุมแล้ว แมตช์แข่งขันจึงได้ถูกเติมเต็มจนสมบูรณ์เป็นลำดับถัดมา
• รอบแรก 12 ธันวาคม
อัล-อิตติฮัด v โอ๊คแลนด์ ซิตี้
• รอบสอง 15 ธันวาคม
- ผู้ชนะของรอบแรก v อัล อาห์ลี
- คลับ เลออน v อุราวะ เร้ดส์
• รอบตัดเชือก 18 ธันวาคม
ฟลูมิเนนเซ่ v ผู้ชนะคู่ อัล อาห์ลี
• รอบตัดเชือก 19 ธันวาคม
แมนฯ ซิตี้ v ผู้ชนะคู่ เลออน-อุราวะ
• นัดชิงอันดับสาม 22 ธันวาคม
• นัดชิงชนะเลิศ 22 ธันวาคม
ก็แน่อยู่แล้วว่า หากไม่มีความพลิกล็อกผิดคาดเกิดขึ้น นัดชิงชนะเลิศจะเป็นการซัดกันของ ยุโรป v อเมริกาใต้ -- แมนฯ ซิตี้ กับ ฟลูมิเนนเซ่
น่าสนใจไม่แพ้กัน คือถ้า อัล-อิตติฮัด สามารถผ่านทั้งรอบแรก, รอบสอง และรอบตัดเชือกได้ทั้งหมด คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ฟาบินโญ่ ก็จะได้ปะทะกับ แมนฯ ซิตี้ ในนัดชิง
แต่เกิดถ้า "คดีพลิก" เป็น อัล อาห์ลี เข้าชิงกับ คลับ เลออน หรือ อุราวะ เร้ดส์ ขึ้นมา ก็งานกร่อยล่ะครับเจ้านาย...
แมนฯ ซิตี้ 'จะเอา' แหงๆ
ไม่ต้องสงสัยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการถ้วยนี้, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการถ้วยนี้ และแฟนบอลเรือใบสีฟ้า ก็ต้องการถ้วยนี้เช่นกัน
หนึ่งคือเงินรางวัลที่จะเข้ากระเป๋าเน้นๆ โดยมีการเปิดเผยว่าในปีที่แล้ว (เรอัล มาดริด ได้) ฟีฟ่า ควักจ่ายให้ที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4 ล้านปอนด์
อาจไม่ได้มากมาย แต่ก็คือเงินรางวัลระดับเดียวกับแชมป์ เอฟเอ คัพ
ราคาเท่ากัน แต่เหนื่อยน้อยกว่ากันเยอะ
ถัดมาคือ นี่คือแชมป์รายการใหญ่ มีความเข้มขลัง มีประวัติความเป็นมายาวนาน รวมถึงเป็นหนึ่งในถ้วยที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสแล้ว อย่างไรเสียก็ต้องเอา
และท้ายสุดคือ แมนฯ ซิตี้ จะยอม "เสียหน้า" ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อพบว่า ตัวแทนยุโรป ผงาดครองแชมป์สโมสรโลกรายการนี้ มาแล้วถึง 10 ปีติดต่อกัน!
ถ้วยนี้ 'ยุโรป' จอง
- 2012 โครินเธียนส์ ชนะ เชลซี 1-0
2013 บาเยิร์น มิวนิค ชนะ รายา คาซาบลังก้า 2-0
2014 เรอัล มาดริด ชนะ ซาน ลอเรนโซ่ 2-0
2015 บาร์เซโลน่า ชนะ ริเวอร์ เพลท 3-0
2016 เรอัล มาดริด ต่อเวลาชนะ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส 4-2
2017 เรอัล มาดริด ชนะ เกรมิโอ 1-0
2018 เรอัล มาดริด ชนะ อัล-ไอน์ 4-1
2019 ลิเวอร์พูล ต่อเวลาชนะ ฟลาเมงโก้ 1-0
2020 บาเยิร์น มิวนิค ชนะ ติเกรส 1-0
2021 เชลซี ต่อเวลาชนะ พัลไมรัส 2-1
2022 เรอัล มาดริด ชนะ อัล-ฮิลาล 5-3
นับจากที่ โครินเธียนส์ โค่น เชลซี ยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ และนักเตะอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส, เอแด็น อาซาร์, ฆวน มาต้า, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แอชลี่ย์ โคล ลงได้ 1-0 ที่โยโกฮาม่า
มันก็ผ่านมานานนับสิบปีแล้วที่ตัวแทนยุโรป ฟาดเรียบ 100%
สิบปีหลังมานี้ เรอัล มาดริด จัดไป 5 สมัย, บาเยิร์น มิวนิค อีก 2
ที่เหลือแบ่งให้ บาร์เซโลน่า, ลิเวอร์พูล รวมถึงแมตช์แก้ตัวของ เชลซี ที่สยบตัวแทนบราซิลเช่นกันอย่าง พัลไมรัส ลงได้เมื่อ 2 ปีก่อน
แม้ไม่ได้มีความคาดหวัง และทุกคนคงเข้าใจดีว่าฟุตบอลน็อกเอาต์ เกมชิงดำลักษณะนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้
แต่ก็อย่างที่ว่า ถ้า แมนฯ ซิตี้ แตกแถวแตกแนว ส่งท้ายสโมสรโลกรูปแบบเดิมด้วยการหยิบยื่นแชมป์ให้ทีมจากทวีปอื่นขึ้นมาล่ะก็
งานนี้มีโดนล้อยันลูกบวช!