ชัยชนะอันน่าผิดหวังกับเกมยุโรปนัดสุดท้ายของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กับ ลิเวอร์พูล - FEATURE
- เยอร์เก้น คล็อปป์ คุม ลิเวอร์พูล เล่นในฟุตบอลยุโรปเป็นเกมสุดท้าย
- “หงส์แดง” บุกชนะ อตาลันต้า แต่ตกรอบด้วยบสกอร์รวม
- ในเวลานี้ เหลือ พรีเมียร์ลีก เป็นเพียงรายการเดียวให้ลุ้นความสำเร็จ
โดย Navapun Munarsa
เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นำทีมลงเล่นในรายการฟุตบอลยุโรปนัดสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว หลังบุกไปเอาชนะ อตาลันต้า ได้ถึงสนาม เกวิสส์ สเตเดี้ยม 1-0 ในเกม ยูโรปา ลีก เลก 2 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะดังกล่าวก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล ต่อไป เนื่องจากพวกเขาต้องตกรอบด้วยสกอร์รวมแพ้ 3-1 และถือเป็นการส่งท้าย คล็อปป์ ในฟุตบอลยุโรปที่ไม่น่าประทับใจ โดย ยูโรปา ลีก ยังคงเป็นอีก 1 รายการที่ โค้ชวัย 56 ปี ไม่สามารถแชมป์ร่วมกับ “หงส์แดง” ได้
ขณะเดียวกัน แทบจะมองไม่เห็นมุมดีๆเลยหลังการตกรอบของ ลิเวอร์พูล แต่ การกลับมาของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวารองกัปตันทีม เป็นสิ่งที่พวกเขาขาดหายไปในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากดาวเตะวัย 25 ปี ได้รับบาดเจ็บ
ก่อนหน้านี้ มีประเด็นถกเถียงมากมายว่า คอเนอร์ แบรดลีย์ ฟูลแบ็คดาวรุ่งชาวไอร์แลนด์เหนือ ควรจะยึดตัวจริงในตำแหน่งแบ็คขวาของ ลิเวอร์พูล แบบถาวรไปเลยหรือไม่ แต่เกมนี้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า มีศักยภาพที่จะเป็นยังคงเป็นตัวเลือกแรก ในทีมของ คล็อปป์ เช่นเดิม
นอกจากนี้ ปัญหาเรื้อรังในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงมีอยู่ โดย โคดี กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่ออกสตาร์ทเป็น 3 ประสานในวันนี้ ขาดความเด็ดขาด และประสานงานกันได้ไม่ดีนัก ส่วนตัวสำรองอย่าง เจย์เดน แดนน์ส, ดิโอโก โชต้า และ ดาร์วิน นูนเญซ ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับทีมเลย
ในส่วนของ ซาลาห์ ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากหลุดเดี่ยวไปจากการจ่ายบอลของ แต่ ซุเปอร์สตาร์ชาวอิยิปต์ ไม่เฉียบขาดพอที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล หนีห่าง 2 ประตู ได้ ซึ่งมันเป็นจังหวะสำคัญของเกมที่จะสร้างความกดดันให้กับ อตาล้นต้า ในครึ่งหลัง
แม้จะจบเกมด้วยชัยชนะ 1-0 ครั้งนี้ แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้หลังจากต้องตกรอบ และนับเป็นเกมยุโรปนัดสุดท้ายของ คล็อปป์ ในฐานะผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล โดยตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เจ้าตัวพาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปถึง 4 หน และประสบความสำเร็จด้วยการคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย
คล็อปป์ สร้างความทรงจำที่ดีมากมายกับแฟนบอล ลิเวอร์ กับเกมชิงดำที่ บาเซิล, เคียฟ, มาดริด และ ปารีส แต่น่าเสียดายที่ซีซันสุดท้ายของเขากับ “หงส์แดง” นั้น เจ้าตัวไม่ได้ไปยืนคุมทีมลงเล่นที่สนาม ดับลิน อารีนา ประเทศไอร์แลนด์
ลิเวอร์พูล ตกรอบ เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเหลือ พรีเมียร์ลีก เป็นเพียงรายการเดียวที่ยังคงได้ลุ้นอยู่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่นำเป็นจ่าฝูง และเหลือการแข่งขันเพียง 6 เกม เท่านั้น รวมถึง อาร์เซนอล ของ มิเกล อาร์เตต้า ที่ยังมีลุ้นเช่นกัน
ลิเวอร์พูล ต้องเล่นด้วยความความสมบูรณ์แบบที่สุดในเกมที่เหลือกับ ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, แอสตัน วิลล่า และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ก่อนจะไปลุ้นผลของ แมนฯซิตี้ และ อาร์เซนอล ต่อไป