2 คู่หู เชลซี ตบเท้าเข้าทำเนียบแชมป์ยุโรประดับชาติและสโมสรในปีเดียวกัน - FEATURE

FBL-EURO-2020-2021-ITALY
FBL-EURO-2020-2021-ITALY / ANDREAS SOLARO/Getty Images
facebooktwitterreddit

ได้ตบเท้าเข้าทำเทียบเป็นอีก 2 นักเตะระดับตำนานของวงการลูกหนังยุโรปไปเลย สำหรับ จอร์จินโญ่ กับ เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่ ซึ่งเป็น 2 ขุนพลแข้งของทัพลูกหนัง "อัซซูรี่" อิตาลี ชุดคว้าแชมป์ ยูโร 2020 นั่นเอง ทำให้ทั้งคู่ได้สัมผัสบัลลังก์ "ดับเบิ้ลแชมป์ยุโรป" จากในเกมระดับสโมสร รวมถึงระดับชาติไปเลยด้วย

Jorginho, Emerson Palmieri
Italy Training Session - UEFA Euro 2020: Round of 16 / Claudio Villa/Getty Images

สำหรับ "ดับเบิ้ลแชมป์ยุโรป" หมายถึงนักเตะที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ที่สุดของทวีปได้ถึง 2 รายการในช่วงปีเดียวกัน โดยเริ่มนับจากเกมระดับสโมสรที่จะต้องคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในสมัยก่อน หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในยุคปัจจุบันร่วมกับทีมต้นสังกัดให้ได้เสียก่อน เพื่อต่อยอดไปสู่การคว้าแชมป์ฟุตบอล ยูโร จากการรับใช้ทีมชาติบ้านเกิดกันต่อไป

ก่อนหน้านี้ จอร์จินโญ่ กับ เอแมร์ซอน ซึ่งเป็นนักเตะในสังกัดของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้ชูถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ประจำฤดูกาล 2020/2021 ในช่วงหลังจบเกมนัดชิงที่เฉือนชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 และมีติดโผทีมชาติอิตาลีชุดคว้าแชมป์ยูโร 2020 ในช่วงหลังจบเกมนัดชิงที่เฉือนชนะ อังกฤษ ช่วงดวลจุดโทษตัดสิน 3-2 หลังเสมอกันจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษครบ 120 นาที 1-1

Jorginho
Manchester City v Chelsea FC - UEFA Champions League Final / David Ramos/Getty Images

ทำให้ขุนพลแข้งของทัพลูกหนัง "อัซซูรี่" ทั้ง 2 คนกล่าวได้เข้าทำเนียบ "ดับเบิ้ลแชมป์ยุโรป" เป็นคนที่ 10 และ 11 ตามลำดับ และได้เดินตามรอยเท้าของพวกนักเตะรุ่นพี่อีก 9 รายที่เคยทำแบบนี้ได้มาก่อนจากโผรายชื่อในตำนานดังต่อไปนี้เลย

เริ่มต้นด้วยพ่อค้าแข้งที่ได้จารึกตำนานนี้เป็นคนแรกเมื่อ 57 ปีที่แล้ว นั่นก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ ตำนานกองกลางทีมชาติสเปน ซึ่งเป็นคนละคนกับ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยในยุคปัจจุบัน โดยอดีตมิดฟิลด์วัย 86 ปีเป็นสมาชิกของ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1964 และอยู่ในทัพลูกหนัง "กระทิงดุ" ชุดคว้าแชมป์ยูโร 1964 จากการในนัดชิงที่เฉือนชนะ สหภาพโซเวียต 2-1

UEFA European Championship 1988 - VI Archive
UEFA European Championship 1988 - VI Archive / VI-Images/Getty Images

หลังจากนั้นเป็นคิวของนักเตะทีมชาติฮอลแลนด์ถึง 4 คนเลย ไล่ตั้งแต่ ฮันส์ ฟาน บรูเคเล่น, โรนัลด์ คูมัน, แบร์รี่ ฟาน แอร์เล่ และ เจอรัลด์ ฟาเนนเบิร์ก โดยทั้งหมดเป็นนักเตะของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ชุดแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในปี 1988 และอยู่ในทัพลูกหนัง "กังหันสีส้ม" ชุดคว้าแชมป์ยูโร 1988 จากการในนัดชิงที่เป็นฝ่ายชนะ สหภาพโซเวียต 2-0

ส่วนทีมชาติสเปนได้ส่งเข้าทำเนียบ 2 คน นั่นก็คือ เฟร์นันโด ตอร์เรส กับ ฆวน มาต้า โดยทั้งคู่เป็นนักเตะของ เชลซี ชุดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2012 และอยู่ในทัพลูกหนัง "กระทิงดุ" ชุดคว้าแชมป์ยูโร 2012 จากการในนัดชิงที่ไล่ถล่ม อิตาลี 4-0

Spanish forward Juan Mata (L) and forwar
Spanish forward Juan Mata (L) and forwar / PIERRE-PHILIPPE MARCOU/Getty Images

ไปต่อกันด้วยทีมชาติโปรตุเกสมีติดโผ 2 คน ได้แก่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ เปเป้ โดยทั้งคู่เป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด ชุดแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2016 และอยู่ในทัพลูกหนัง "ฝอยทอง" ชุดคว้าแชมป์ยูโร 2016 จากการในนัดชิงที่เฉือนชนะ ฝรั่งเศส ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0

และปิดท้ายด้วย จอร์จินโญ่ กับ เอแมร์ซอน ซึ่งได้ก้าวเท้าเข้าสู่ทำเนียบ 11 นักเตะในตำนาน "ดับเบิ้ลแชมป์ยุโรป" จากเกมระดับสโมสร และระดับชาติภายในปีเดียวกันเรียบร้อยแล้ว

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด