ยูโร 2024 จบแล้ว ไปไหนต่อ : เปิดโปรแกรมฟุตบอลรายการสำคัญ ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ 2024/25 - FEATURE

ยูโร 2024 สิ้นสุดไปเรียบร้อย คำถามคือ ถัดจากนี้มีอะไรที่รอเราอยู่บ้าง พบว่านอกเหนือจากตลาดซื้อขายที่เปิดทำการแล้ว ก็ยังมีฟุตบอลหลายรายการที่เริ่มขึ้นแล้ว หรือกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เช่น ยูโร รุ่นเล็ก, โอลิมปิก ปารีส เกมส์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งได้รวบรวมโปรแกรมอย่างคร่าวๆ เอาไว้แล้วที่ตรงนี้

ยูโร ยู-19

ยูโรรุ่นใหญ่จบไปแล้ว แต่ถ้าอารมณ์ยังค้าง ก็เชิญต่อได้ที่ "ยูโรรุ่นเล็ก" ของบรรดาทีม ยู-19 ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นได้ไม่กี่วัน

รายการที่มีชื่อเป็นทางการว่า UEFA European Under-19 Championship ถ้วยนี้ ของปีนี้ จัดขึ้นที่ไอร์แลนด์เหนือ เริ่มเตะเมื่อ 15 ก.ค. และจะไปสิ้นสุดชี้แชมป์กัน 28 ก.ค.

นี่คือทัวร์นาเมนต์สั้นๆ ทีมเข้ารอบสุดท้ายมีแค่ 8 ชาติ

กลุ่มเอ - ไอร์แลนด์เหนือ, อิตาลี, ยูเครน, นอร์เวย์
กลุ่มบี - ฝรั่งเศส, สเปน, ตุรกี, เดนมาร์ก

เริ่มต้นเกมแรกของแต่ละกลุ่มไปแล้ว อิตาลี แชมป์เก่าที่มี ฟรานเชสโก้ คามาร์ด้า หอกวัย 16 จาก เอซี มิลาน อยู่ในทีม (แต่เป็นสำรอง) เฉือนชนะ นอร์เวย์ 2-1 ส่วนเจ้าภาพ ไอร์แลนด์เหนือ เสมอ ยูเครน 0-0 ด้าน สเปน (อิเคร์ บราโบ, ดานี่ โรดริเกซ) เบียด เดนมาร์ก 2-1 และ ฝรั่งเศส (มาติส แตล, เอลยาซ ซีดาน ลูกซิซู) เชือด ตุรกี 2-1 เช่นเดียวกัน

นอกจากการชิงถ้วยและเงินรางวัลแล้ว รายการนี้ยังเป็นถ้วยสำหรับคัดหา 5 ทีม ที่จะไปเล่น ยู-20 ชิงแชมป์โลก ที่ชิลี ในปีหน้าด้วย

โอลิมปิก เกมส์ 'ปารีส 2024'

อีกหนึ่งอีเวนต์ใหญ่เบิ้มของช่วงกลางปีนี้ ที่กำลังเป็นกระแสฮือฮาบนหน้าสื่อ กับชุดทางการงามแสนงามของนักกีฬาไทย สำหรับใช้ในพิธีเปิด "ปารีส 2024"

ข้ามไปขอไม่คอมเมนต์ (ฮา) แต่ก็เป็นการยืนยันว่า โอลิมปิก ฤดูร้อน ของปีนี้ คืบคลานเข้ามาใกล้มากแล้ว

นั่นเพราะพิธีเปิด ปารีส 2024 จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 26 ก.ค. จากนั้นก็จะชิงชัยกันใน 32 ประเภทกีฬา ยิงยาวกันไปจนวันปิดรายการ 11 ส.ค.

ในส่วนของ "ฟุตบอลชาย" ไฮไลท์ของรายการ จะเริ่มสาดแข้งกันก่อนพิธีเปิด 2 วัน หรือก็คือ พุธ 24 ก.ค. เช่นเดียวกับปิดก่อน 2 วันด้วย (ชิงชนะเลิศ 9 ส.ค.)

และนี่คือบางสิ่งสำคัญของ บอลชาย ปารีส เกมส์

• ระบบทัวร์นาเมนต์เบสิก 4 กลุ่มกลุ่มละ 4 ทีม คัดเอาแชมป์และรองแชมป์ เข้ารอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้าย

• กลุ่มเอ - ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, กินี, นิวซีแลนด์

• กลุ่มบี - อาร์เจนติน่า, โมร็อกโก, อิรัก, ยูเครน

• กลุ่มซี - อุซเบกิสถาน, สเปน, อียิปต์, โดมินิกัน

• กลุ่มดี - ญี่ปุ่น, ปารากวัย, มาลี, อิสราเอล

• กฎบังคับให้เป็นทีม ยู-23 (เกิดหลัง 1 ม.ค. 2001) เหมือนเคยๆ เพิ่มเติมด้วยโควตาอายุเกิน ทีมละ 3 ราย

• หลายๆ นักเตะของทีมในยุโรป โดนขัดขวางไม่ให้มาร่วมเล่น เมื่อคาบเกี่ยวกับช่วงปรีซีซั่น และเริ่มต้นซีซั่นใหม่

• แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีอีกหลายดาวเด่น เช่นของ ฝรั่งเศส ที่มี ไมเคิ่ล โอลิเซ่, อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์, ชอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า, โลอิก บัลเด้ หรือ รายัน แชร์คี

• กินี นำโดย นาบี เกอิต้า, โมร็อกโก มี อัชราฟ ฮาคิมี่, โดมินิกัน มี จูเนียร์ ฟีร์โป้

• ฮูเลียน อัลวาเรซ ดาวยิง แมนฯ ซิตี้ นำขบวน อาร์เจนติน่า พร้อมกับ นิโกลัส โอตาเมนดี้, เคโรนิโม รูยี่, ติอาโก้ อัลมาด้า

• สเปน ใช้ตัวอายุเกิน 3 โควตาก็จริง แต่ก็อายุ 23-24 เท่านั้นเช่น เซร์คิโอ โกเมซ, อเบล รุยซ์, ฆวน มิรันด้า ส่วนสตาร์ของทีมคือ เอริก การ์เซีย (23), อเล็กซ์ บาเอน่า (23), ซามู โอโมโรดิออน (20), เฟร์มิน โลเปซ (21) หรือ อาร์เนา เตนาส (23)

• ญี่ปุ่น มาโหดจัดๆ คือ "ไม่มีตัวอายุเกินแม้แต่รายเดียว" ทุกรายต่ำ 23 ทั้งสิ้น และถึงอย่างนั้น ก็ยังมีตัวที่เล่นในลีกยุโรปอยู่ถึง 6 ราย นำโดย เคน ซาโตะ กองหน้าจาก แวร์เดอร์ เบรเมน

• ไทย... ตกรอบคัดเลือก แต่ก็มี 1 ตัวแทนคือ ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินทีม VAR แห่งเอเอฟซี ซึ่งจะประจำการในห้องคอนโทรลเท่านั้น

• แชมป์เก่า บราซิล ไม่ได้มา เนื่องจากตกรอบคัดเลือกเช่นกัน ถือเป็นยุคมืดของแท้ของฟุตบอลแซมบ้า

• พุธ 24 ก.ค. วันเปิดสนาม เตะครบทุกกลุ่ม 8 คู่ โดยเกมเปิดสนามคือ อุซเบกิสถาน - สเปน และ อาร์เจนติน่า - โมร็อกโก ในเวลา 2 ทุ่มตรงบ้านเรา จากนั้นมีอีกสามเวลาคือ 4 ทุ่ม, เที่ยงคืน และตีสอง

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (และอีกสองถ้วย)

ที่เริ่มต้นแล้วโดยไม่ต้องรอ คือถ้วยสโมสรยุโรป ทั้งใหญ่สุด ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, เบอร์สอง ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก และเบอร์สาม ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก (เปลี่ยนชื่อจาก ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก)

นัดชิงชนะเลิศ UCL ที่ เรอัล มาดริด ตบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว่ำ 2-0 อาจยังไม่จางหายจากความทรงจำ แต่การเริ่มต้น "รอบคัดเลือก" ของซีซั่นใหม่ 2024/25 ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว สำหรับรอบคัดเลือก รอบแรก First qualifying round ซึ่งเตะจบพบทีมเข้ารอบกันไปแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมานี่เอง

แต่ก็แน่นอนว่า ทีมที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่คัดเลือกรอบแรก คือบรรดาทีมเล็กๆ จากลีกชายขอบ ซึ่งผู้ชนะได้เข้ารอบคัดเลือกรอบ 2 เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นต้นว่า สโลวาน บราติสลาว่า (สโลวาเกีย), แชมร็อค โรเวอร์ส (ไอร์แลนด์), สเตอัว บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) หรือ ดินาโม มินส์ค (บัลแกเรีย)

ส่วน ยูโรป้า ลีก & คอนเฟอเรนซ์ ลีก จะตัดสินนัดสอง ของรอบคัดเลือกรอบแรก กันในคืนนี้ (พฤหัสบดี 18 ก.ค.)

ที่น่าสนใจคือ ยูโรป้า ลีก มีทีมชื่อดังอย่าง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยืนรออยู่ในรอบคัดเลือก รอบ 2 ซึ่งจะพบกับ วอจโวดิน่า จากเซอร์เบีย โดยจะเตะ 25 ก.ค. และ 1 ส.ค.

ที่ต้องมาเริ่มต้นเร็วขนาดนี้ (และในถ้วยเล็กนี่) ก็แน่นอนว่าเพราะซีซั่นก่อน อาแจ็กซ์ ดิ้นสุดแล้วก็ขึ้นไปจบได้แค่อันดับ 5 เอเรดิวิซี่ เท่านั้น หลังจากตอนต้นซีซั่น หนักถึงขั้นหลุดลงโซนตกชั้นมาก่อน

ย้อนกลับมาที่ถ้วยใหญ่ UCL เอาจริงก็ไม่ถือว่ารอบคัดเลือก & รอบเพลย์ออฟ ของปีนี้ น่าสนใจอะไรมากมายนัก เมื่อ ยูฟ่า มีการปรับเปลี่ยนระบบการแข่งขัน และบรรดาตัวแทนของลีกหัวแถวทั้งหมด รออยู่แล้วในรอบ "League phase" ซึ่งถูกนำมาแทนที่รอบแบ่งกลุ่ม (รายละเอียด เตะแบบไหนอย่างไร คงได้กล่าวถึงต่อไปในโอกาสหน้า)

และกว่าที่ League phase นั่นจะเริ่ม ก็เป็นในช่วงกลางเดือน ก.ย. โน่นเลย รวมถึงการจับสลากกำหนดโปรแกรม ก็เป็นในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. เลยทีเดียว

ปรีซีซั่น

เริ่มต้นกันไปอย่างรีบร้อน สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ลงเล่นปรีซีซั่นนัดแรก ออกไปแพ้ โรเซนบอร์ก 0-1 เมื่อวันจันทร์ 15 ก.ค. และเดี๋ยวเสาร์นี้ จะเตะกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ที่สกอตแลนด์ ก่อนออกทริปทัวร์สหรัฐอเมริกาเพื่อลงเตะ 3 นัด หนึ่งในนั้นคือ "แดงเดือด" กับ ลิเวอร์พูล ด้วย

การชิงลงมือของ ปีศาจแดง ยุคคิดใหม่ทำใหม่ภายใต้ อีนิออส ถือว่าเร็วกว่าทีมอื่นๆ เป็นสัปดาห์ เป็นต้นว่า

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - ปรีซีซั่นนัดแรก 23 ก.ค. เจอ กลาสโกว์ เซลติก ที่สหรัฐฯ

ลิเวอร์พูล - ปรีซีซั่นนัดแรก 26 ก.ค. เจอ เรอัล เบติส ที่สหรัฐฯ

อาร์เซน่อล - ปรีซีซั่นนัดแรก 24 ก.ค. เจอ บอร์นมัธ ที่สหรัฐฯ

เชลซี - ปรีซีซั่นนัดแรก 24 ก.ค. เจอ เร็กซ์แฮม ที่สหรัฐฯ

จะมีที่เริ่มเร็วหน่อยอีก ก็เช่น สเปอร์ส ที่เตะนัดแรกแล้ว บุกถล่ม ฮาร์ทส์ ของสกอตแลนด์ 5-1 หรือ แอสตัน วิลล่า บุกอัด วอลซอลล์ 3-0 เมื่อ 17 ก.ค. ทั้งสองทีม

นั่นหมายถึงว่า แฟนๆ พรีเมียร์ลีก หลายๆ ทีมยังต้องรอกันอีกนิด กว่าที่ทีมรักจะกลับมาลงสนาม แม้อาจมีการเรียกตัวนักเตะกลับเข้าแคมป์ (สำหรับพวกที่ไม่ติดทีมชาติ) ไปแล้วก็ตาม

• หรือบรรดายักษ์ใหญ่ของยุโรป จะเริ่มเกมปรีซีซั่นนัดแรกของตัวเอง ในวันดังนี้
  
  เรอัล มาดริด : 31 ก.ค. พบ เอซี มิลาน
  
  บาร์เซโลน่า : 30 ก.ค. พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
  
  ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น : 26 ก.ค. พบ ร็อต-ไวส์ เอสเซ่น
  
  บาเยิร์น มิวนิค : 24 ก.ค. พบ ร็อตทาช-เอเกิร์น
  
  อินเตอร์ มิลาน : เริ่มแล้ว 17 ก.ค. ชนะ ลูกาโน่ 3-2 เมห์ดี้ ทาเรมี่ หอกอิหร่านตัวใหม่ ซัดสอง
  
  ยูเวนตุส : 26 ก.ค. พบ เนิร์นแบร์ก
  
  เอซี มิลาน : 20 ก.ค. พบ ราปิด เวียนนา
  
  ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : ยังไม่เปิดเผย (จนป่านนี้!) คาดไปทัวร์จีน
  

ลีกยิบย่อยทั่วโลก

นอกจากทุกรายการและปรีซีซั่นที่ว่ามา ฟุตบอลที่กำลังดำเนินไป และกำลังจะมา ก็คือพวกบรรดาลีกยิบย่อยทั่วโลก เล็กน้อยเล็กมาก แล้วแต่จะสรรหา

หนึ่งในนั้นคือ MLS เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ ที่เดินหน้าสาดแข้งกันต่อเนื่อง ไม่ได้มีการเว้นวรรคให้ โคปา อเมริกา หรือ ยูรงยูโร แต่ประการใด

คืบหน้าล่าสุดของ อินเตอร์ ไมอามี่ ต้นสังกัดของ ลิโอเนล เมสซี่ & หลุยส์ ซัวเรซ คือเพิ่งเปิดบ้านอัด โตรอนโต้ เอฟซี 3-1 นำจ่าฝูงของโซนตะวันออก Eastern Conference ต่อไปหลังจากผ่าน 24 นัด ซึ่งตามทรงนี้ พวกเขาได้ไปต่อรอบชิงแชมป์ MLS Cup ค่อนข้างแน่

ฝั่ง เจลีก ญี่ปุ่น เข้าช่วงกลางซีซั่น 2024 ซึ่ง ณ ตอนนี้ผ่าน 23 นัด เป็นน้องใหม่ชื่อไม่คุ้นอย่าง มาชิดะ เซลเวีย นำจ่าฝูงเหนือ กัมบะ โอซาก้า 5 แต้ม

หรือในช่วงสุดสัปดาห์นี้ รัสเซีย พรีเมียร์ลีก ก็จะเริ่มเปิดฉากซีซั่นใหม่ และสัปดาห์หน้า เบลเจี้ยน โปรลีก เริ่มต้นนับหนึ่ง

สรุปก็คือ แม้ ยูโร 2024 จะสิ้นสุดลงไปแล้ว โลกแห่งฟุตบอลก็ยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่แม้ชั่วโมงนี้อาจเป็นเรื่องของ "บอลเล็ก" แต่อีกประเดี๋ยว ของคุ้นเคยอย่างลีกใหญ่ 2024/25 ก็จะกลับมาเสิร์ฟจานร้อนเมนคอร์สอีกเหมือนเช่นเคย ในอีกไม่นานเกินรอ...