ปีทองของ เรือใบ : กับ 5 คีย์แมนของ แมนฯ ซิตี้ ชุดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งประวัติศาสตร์ - FEATURE

Manchester City wins 2023 UEFA Champions League title
Manchester City wins 2023 UEFA Champions League title / Anadolu Agency/GettyImages
facebooktwitterreddit

เช็คบิลครอง 3 แชมป์ไปได้เรียบร้อยเสร็จสมอารมณ์หมาย และทำให้ 2022/23 ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบลงไปอย่างสวยงามที่สุดเท่าที่สามารถจะเป็นไปได้ ซึ่งจากชัยชนะเหนือ อินเตอร์ มิลาน 1-0 ที่นำมาซึ่งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะพบ "ผู้ชนะ" คนสำคัญสุดอย่างน้อย 5 ราย ผู้เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งของแชมป์นี้ที่รอคอย...

เอแดร์ซอน โมราเอส

ก็ควรต้องยอมรับว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่สุดยอดจนสามารถยิงถ่างสกอร์นำ อินเตอร์ มิลาน ขึ้นได้มากกว่า 1 เม็ด เพื่อคว้าชัยชนะแบบง่ายๆ สบายบรื๋อ ตรงกันข้าม พวกเขาต้องสั่นไหวไม่ใช่น้อยกับการเล่นนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เป็นตัวตัดสินว่าสุดท้ายท้ายสุด 3 แชมป์ประวัติศาสตร์จะเกิดขึ้นได้จริงไหม

เช่นกัน ก็ควรเป็นเครดิตของ อินเตอร์ มิลาน ในการสู้สุดชีวิตเพื่อไล่ตามทวงประตูคืน และถ้าโชคดวงเอียงข้างเข้าหาพวกเขามากขึ้นอีกนิด สกอร์ 1-1 ก็คงมา และเกมคงต้องตัดสินกันในช่วงต่อเวลาพิเศษต่อไป

แต่สำคัญกว่าเรื่องโชคดวง ที่ 1-1 ไม่มานั่น ก็เพราะชายชื่อ เอแดร์ซอน โมราเอส นี่เอง

โดยเฉพาะในเฮือกสุดท้าย เอแดร์ซอน ป้องกันลูกอันตรายเอาไว้ 2 ครั้ง ทั้งนาที 89 ที่ลูกโขกจ่อๆ ของ โรเมลู ลูกากู ไม่ผ่านการป้องกันของนายด่านแซมบ้า และทดเจ็บ 90+5 ที่ลูกโขกเตะมุมเต็มๆ ของ โรบิน โกเซนส์ กำลังจะพุ่งปะทะตาข่าย แต่ก็ไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน อีกเช่นกัน

ชัดเจนว่าความเหนียวหนึบของ เอแดร์ซอน มีส่วนสำคัญมากในการช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่เสียประตูที่ อตาเติร์ก และเช่นกัน มีส่วนสำคัญยิ่งของ "ทริปเปิ้ลแชมป์" ที่ทำสำเร็จในซีซั่นนี้

จึงควรนับว่า นายด่านวัย 29 เป็นผู้ปิดทองหลังพระของแท้ แบบที่ไม่ต้องสร้างดวงอาทิตย์ขึ้นใหม่ให้หลุดขำ

Manchester City wins 2023 UEFA Champions League title
Manchester City wins 2023 UEFA Champions League title / Anadolu Agency/GettyImages

รูเบน ดิอาส

ยิ่งนานวันก็ชัดว่า นี่คือดีลที่สุดยอดไปเลย เป็นการซื้อตัวที่เป๊ะปังอลังเว่อร์ที่สุดดีลหนึ่ง กับการที่ แมนฯ ซิตี้ ได้ตัวเซนเตอร์แบ็กโปรตุเกสมาจาก เบนฟิก้า ด้วยราคา 62 ล้านปอนด์

เพราะหลังจากเข้ามาตอนซัมเมอร์ 2020 แล้ว ก็หาได้น้อยครั้งมากที่ รูเบน ดิอาส จะเล่นได้อย่างน่าผิดหวัง

เวลาเดียวกัน ก็นับเป็น "ส่วนใหญ่" ที่ ดิอาส จะเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นคือนัดชิงชนะเลิศเมื่อวันเสาร์

นี่คือการตัดเรต รูเบน ดิอาส ของบรรดาสื่อแถวหน้าเจ้าต่างๆ

  • - 90min : 9/10

    - Sky Sports : 8/10

    - CBS Sports : 8/10

    - The Telegraph : 9.25/10

    - Manchester Evening News : 8/10

แม้จะต้องแบกรับความกดดันต่อแท็กติกใหม่ 3-2-4-1 ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ติดตั้งเป็นกรณีพิเศษ แต่ ดิอาส ก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเลิศ เป็นผู้นำเกมรับ ไม่มีจังหวะเล่นผิดพลาดอะไรให้เห็นตลอดเกม เข้าสกัดแม่นยำ ลูกกลางอากาศยอดเยี่ยม และยืนตำแหน่งด้วยความนิ่งแน่นอน

และนี่ก็คือแชมป์ที่ 6 แล้วของปราการหลังวัย 26 ตั้งแต่ย้ายมายังอีสต์แลนด์ส

Ruben Dias
FC Internazionale v Manchester City FC - UEFA Champions League Final 2022/23 / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

จอห์น สโตนส์

กลายเป็นคนที่ "ทำได้ดีอย่างเซอร์ไพรส์" มาตลอดทั้งฤดูกาล เช่นกัน เป็นเซอร์ไพรส์สำคัญสุดอย่างหนึ่งของ แมนฯ ซิตี้ ชุดทริปเปิ้ลแชมป์ชุดนี้

เพราะหลังจากมีสถานะเซนเตอร์แบ็กตัวสลับของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาหลายปี (ย้ายเข้า 2016) ก็มาถึงปีนี้เองที่ จอห์น สโตนส์ ถูกใช้งานในหลากหลายตำแหน่งกว่าที่เคย

และในนัดชิงสุดสำคัญที่อตาเติร์ก ดาวเตะอังกฤษวัย 29 ก็ถูกวางลงในตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรับ" เคียงข้าง โรดรี้ มากกว่าจะเป็นกองกลางธรรมชาติอย่าง แคลวิน ฟิลลิปส์ (สำรอง) หรือถอยกัปตันทีม อิลคาย กุนโดกัน ลงต่ำ

นั่นเพราะนอกจากประโยชน์ของการเล่นตัวตัดเกมแดนกลางแล้ว สโตนส์ ยังช่วยงานเกมรับได้อย่างเต็มที่ ในฐานะของ "เซนเตอร์แบ็กตัวเสริม" รายที่ 4 ด้วยเหมือนกัน

และ สโตนส์ นี่เอง ก็คือ "แมนออฟเดอะแมตช์" ในแบบที่ได้เรต 9/10 ขึ้นไป จากสื่อหลายสำนัก

John Stones
FC Internazionale v Manchester City FC - UEFA Champions League Final 2022/23 / Visionhaus/GettyImages

โรดรี้

อาจจะไม่ใช่เกมที่เลอเลิศนักของ โรดรี้ -- โรดริโก้ เอร์นานเดซ กาสกันเต้ มิดฟิลด์สแปนิชวัย 26 แบบที่เจ้าตัวเองยังเอ่ยหลังเกมว่า "ครึ่งแรก ผมเล่นได้ห่วยแตกสุดๆ"

แต่ในเกมที่ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ไม่อาจผลิตสกอร์ได้ เช่นเดียวกับตัวรุกรายรอบโดนขัดขวางทั้งจาก อ็องเดร โอนาน่า และแนวรับงูใหญ่

โรดรี้ ก็ก้าวเข้ามาเป็น ฮีโร่ ของเรือใบสีฟ้า แทน

คงคล้ายๆ เกมรอบ 8 ทีมกับ บาเยิร์น มิวนิค (เลกแรก) ที่เกมของ แมนฯ ซิตี้ กำลังก้มหน้าก้มตาหาช่องเจาะ จู่ๆ โรดรี้ ก็ซัดเปรี้ยงจากนอกเขต ส่งบอลเข้าเสียบตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 (ก่อนปิดเกมที่ 3-0)

โดยเมื่อวันเสาร์ ในช่วงเวลาที่ "ประตูเดียวตัดสินเกมได้" อย่างตอนกลางครึ่งหลัง และ แมนฯ ซิตี้ กำลังตื้อตัน โรดรี้ ก็เติมจากแถวสองเข้าแปลูกจ่ายของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา เข้ายัดเสาแรกแบบที่ โอนาน่า ไม่ทันได้ขยับ

แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1-0 ครองเจ้ายุโรปจากประตูชัยของ โรดรี้

นี่คือวรรคทองที่จะถูกจนจำไปตลอด

เช่นกัน ซีซั่น 2022/23 ของ โรดรี้ ก็ถือเป็น "ปีทอง" ด้วยเช่นกัน

  • - ได้สัญญาใหม่ถึง 2027

    - ไปฟุตบอลโลก 2022

    - ถูกตั้งเป็นกัปตันทีมชาติสเปนคนใหม่ หลังเวิลด์คัพ

    - แชมป์พรีเมียร์ลีก

    - แชมป์เอฟเอคัพ

    - แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
Rodrigo Hernandez Cascante, Rodri
FC Internazionale v Manchester City FC - UEFA Champions League Final 2022/23 / Jean Catuffe/GettyImages

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

สำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อย...ถึงฝั่งฝันที่ทั้งตัวเขาและ บอร์ด แมนฯ ซิตี้ ใฝ่หากันมานาน

ในแง่หนึ่ง อาจพูดได้ว่า งานยากที่สุดของพวกเขา ผ่านไปแล้วตั้งแต่รอบตัดเชือก ที่โค่น เรอัล มาดริด ลงได้

แต่ในแง่หนึ่ง การต้องลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ--ที่ตัวเองถูกยกว่าเหนือกว่าชัด ก็นับเป็นความกดดันมหาศาล หากมีอันพลาดท่าขึ้นมา นอกจากคราบน้ำตาแล้วก็คือการต้องรอ...อีกไม่รู้กี่ปีว่าจะทำสำเร็จได้จริง

ที่สำคัญ เขายัง "กล้าเดิมพัน" ที่เลือกใช้ระบบแปลกประหลาดอย่าง 3-2-4-1 ที่ "ใครมันจะไปคุ้นเคย" ลงเล่นนัดชิงสุดแสนจะสำคัญแบบนี้

และแม้ว่า แมนฯ ซิตี้ จะไม่ได้เล่นดีมากนัก ไม่ได้ท็อปฟอร์มมากมาย (แถมเสีย เควิน เดอ บรอยน์ กลางทาง) แต่ก็มากพอจะเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ได้ตามเป้าประสงค์

ครองแชมป์ยุโรปสมัยแรกกับ แมนฯ ซิตี้ และเป็นสมัย 3 หลังเว้นวรรคมานานนับสิบปี จากที่ทำสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า สองสมัย 2009 กับ 2011 อีกทั้งยังเป็นโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำทีมคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" สองครั้ง ถัดจาก บาร์ซ่า 2009

และการที่ แมนฯ ซิตี้ เป็นอีกทีมที่แทรกตัวเข้าสู่ "ทำเนียบ 3 แชมป์"

  • - กลาสโกว์ เซลติก 1967

    - อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1972

    - พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 1988

    - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1999

    - บาร์เซโลน่า 2009, 2015

    - อินเตอร์ มิลาน 2010

    - บาเยิร์น มิวนิค 2013, 2020

    - แมนฯ ซิตี้ 2023

ถ้าไม่ยกเครดิตให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แล้ว จะเป็นใครไปได้อีก...

Pep Guardiola
FC Internazionale v Manchester City FC - UEFA Champions League Final 2022/23 / Craig Mercer/MB Media/GettyImages