ชัยชนะอันสวยหรูของ ลิเวอร์พูล ที่สร้างความั่นใจก่อนศึกใหญ่กับ แมนซิตี้ - FEATURE

ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ยังคงโชว์ฟอร์มน่าประทับใจอย่างต่อเนื่องในเกม ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังบุกไปไล่ทุบ สปาร์ต้า ปราก ถึงสนาม เอเปต อารีนา แบบขาดลอย 5-1

ในเกมนี้นักเตะ ลิเวอร์พูล ทุกๆคนเล่นกันได้อย่างแข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ รวมถึงศักยภาพที่เหนือกว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจน โดยเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งนัดที่พลพรรค “หงส์แดง” ทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

คล็อปป์ แสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังหลังตัดสินใจผู้เล่นทีมชุดใหญ่ลงสนามในเกมนี้แทบทุกตำแหน่ง ยกเว้นเพียง จาเรลล์ ควอนซาห์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งที่ได้ลงมายืนในแนวรับคู่กับ อิบราฮิมา โคนาเต้ แทนที่ของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังกัปตันทีม

แม้จะเป็นชัยชนะแบบสบายๆ แต่ คล็อปป์ ต้องเจอกับเรื่องปวดหัวอีกครั้งหลังจาก โคนาเต้ ได้รับบาดเจ็บในนาทีที่ 50 และต้องถูกเปลี่ยนออกจากสนามให้ ฟาน ไดจ์ค ลงมาเล่นแทน และจนถึง ณ เวลานี้ ยังไม่มีรายงานว่า กองหลังเลือดน้ำหอม จะต้องพักฟื้นกี่วัน

บรรดานักเตะทีมชุดใหญ่ที่พร้อมลงสนามในเวลานี้ โคนาเต้ เป็นผู้เล่นที่ ลิเวอร์พูล ควรถนอมการใช้งานไว้ให้มากที่สุด โดยห้วงที่ผ่านมา เจ้าตัวมักมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง และสภาพร่างกายก็ไม่สามารถยืนระยะเล่นเกมหนักแบบติดต่อกันได้

ผู้เล่น ลิเวอร์พูล อีก 1 รายที่สมควรได้รับคำชมคือ ดาร์วิน นูนเญซ ที่แสดงให้เห็นถึงการการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หลังจากระเบิดฟอร์มนิงไป 2 ประตู แบบสุดสวย พร้อมกับทำสถิติยิงไปรวมทุกรายการ 16 ประตู แซงหน้าจำนวน 15 ประตู ของปีก่อนไปเรียบร้อยแล้ว

ในบางช่วงของซันนี้ หัวหอกชาวอุรุกวัย มีช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิดไม่น้อย หลังจากปืนฝืดทำประตูไม่ได้มา 12 เกมติดต่อกัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นูนเญซ วัย 24 ปี ลงเล่นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม และพร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแดนหน้าอย่างเต็มตัว

ขณะเดียวกัน ประตูชัยแบบนาทีสุดท้ายสุดดราม่าในเกมกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว บวกกับ 2 ประตูแบบเฉียบขาดจากเกมนี้ นูนเญซ เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่า คงมไม่เกินเลยไปที่จะบอกว่า เขาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของยุคนี้ 

เมื่อมองในภาพรวม ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นแบบสุดๆหลังจากเดินหน้าเก็บชัยชนะ 9 จาก 10 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ โดยพบกับความปราชัยไปเพียงนัดเดียวเท่านั้น และ คล็อปป์ ก็ทำให้ทีมชุดนี้เล่นด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะในทุกรายการ

ขณะเดียวกัน ชัยชนะแบบถล่มทลายเหนือ สปาร์ต้า ปราก ในเกมนี้ ถือเป็นการเรียกความมั่นใจครั้งใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ ทำศึกเพื่อชิงตำแหน่งจ่าฝูงกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในวันอาทิตย์นี้